สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 1112

สรุปบท บทที่ 1112 ตอนพิเศษ (15): สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

ตอน บทที่ 1112 ตอนพิเศษ (15) จาก สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1112 ตอนพิเศษ (15) คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายจีนโบราณ สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 1112 ตอนพิเศษ (15)

บทที่ 1112 ตอนพิเศษ (15)

ยามนี้คนที่มาตลาดนัดกลางคืนเหลืออยู่ไม่มากแล้ว

ไม่นานนัก พวกเขาก็หาจงซู่เกินพบ

เมื่อพบจงซู่เกิน หยางชิงซือก็บอกจงซู่เกินถึงเรื่องน่าระทึกเมื่อครู่ ทั้งยังหยิกแขนเขา บอกว่าเขาเดินช้าไปจึงคลาดกัน

จงซู่เกินทนรับความเจ็บ เขากล่าวขอโทษขอโพยไม่หยุด

“กล่าวเช่นนี้แล้ว หลานเซิงก็ช่วยพวกเจ้าเอาไว้มาก” จงซู่เกินกล่าว “นับว่าเขายังมีมโนธรรม ไม่เช่นนั้นหากท่านย่าหลิ่วที่อยู่ปรโลกรู้คงจะไม่ปล่อยเขาไป”

“เขานับว่ามีมโนธรรมอะไรกัน หากเขามีมโนธรรมจริง ๆ คงไม่ทอดทิ้งจู๋จือไว้ตามลำพังในยามที่นางอับจนหนทางที่สุด เหตุการณ์ตอนนั้นเจ้าก็เห็นเต็มสองตา ทุกคนในหมู่บ้านแทบจะอดใจรอให้นางแต่งออกไปไม่ไหว เช่นนี้ที่ดินครึ่งหนึ่งก็จะกลับคืนสู่หมู่บ้าน เพื่อที่ดินผืนเล็ก ๆ นั่น พวกเขาแทบจะจับจู๋จือไปเผาไฟเชียวนะ! อย่างไรเสียเรื่องนี้ข้าก็ปล่อยผ่านไปไม่ได้ หากข้าเป็นจู๋จือจักต้องไม่ยกโทษให้เขาอย่างแน่นอน”

หลิวจิ่วจู๋ยกมือลูบติ่งหูเบา ๆ

หยางชิงซือมีอารมณ์ฉุนเฉียว ด้วยเหตุนี้หลิวจิ่วจู๋จึงวุ่นกับการเกลี้ยกล่อมหยางชิงซือให้ใจเย็น ไม่มีเวลานึกโกรธใคร อันที่จริงตอนแรกนางก็โกรธเช่นกัน ทว่าต่อมาเมื่อเห็นหยางชิงซือเป็นเช่นนี้ก็ไม่รู้สึกโกรธแล้ว

ลู่ฉาวจิ่งถอดเสื้อคลุมออก จากนั้นก็สวมมันลงบนร่างหลิวจิ่วจู๋

“ข้าไม่หนาว”

“ลมเริ่มเย็นแล้ว” ลู่ฉาวจิ่งเอ่ย “ใส่ไว้เถิด”

หยางชิงซือหันกลับมามองทั้งสองคน จากนั้นก็หันกลับไปมองจงซู่เกินที่อยู่ข้าง ๆ แววตาเต็มไปด้วยความคร่ำครวญ

ทั้งคู่ล้วนเป็นบุรุษเช่นกัน เหตุใดจึงต่างกันมากเพียงนี้?

จงซู่เกินหน้าขึ้นสีแดงเรื่อ “เสื้อผ้าข้า… ดูไม่ดี”

ข้างบนเต็มไปด้วยรอยปะชุน

เขาบุรุษผู้หนึ่งสวมใส่เสื้อผ้าเช่นนี้ไม่สำคัญอะไร แต่หากสวมให้กับหญิงสาวผู้หนึ่ง เกรงว่าจะทำให้นางดูซอมซ่อเกินไป

หยางชิงซือแค่นเสียงเย็น “เจ้าเป็นเช่นนี้ยังอยากแต่งงานกับข้าอยู่หรือไม่!”

“ข้าอยาก!” จงซู่เกินพลันกระวนกระวายขึ้นมาแล้ว

“เช่นนั้นเจ้าลองคิดหาวิธีดูก่อนเถอะว่าจะใส่เสื้อผ้าที่ไม่ได้เย็บปะได้อย่างไร” หยางชิงซือกล่าวเสียงเย็น “ยังมีแม่เจ้าอีก นางไม่ชอบข้า ย่อมไม่อยากให้ข้าแต่งกับเจ้า ข้าจะบอกเจ้าให้ หากอยากให้ข้าแต่งด้วย เจ้าต้องจัดการกับนางเสียก่อน ข้าไม่อยากแต่งเข้าไปแล้วไม่ได้รับความไม่เป็นธรรมหรอกนะ หากคิดจะให้ข้าแต่งเข้าไปทำงานเป็นวัวเป็นม้าให้ครอบครัวพวกเจ้าก็อย่าได้ฝัน ข้าอยู่ที่บ้านเป็นวัวเป็นม้า อย่างไรพ่อแม่ข้าก็เลี้ยงข้าให้อิ่มท้อง แต่ครอบครัวเจ้าจะทำเช่นนั้นหรือ?”

จงซู่เกินถูกนางน้อยใจอีกครั้งแล้ว

หยางชิงซือไม่ได้โกรธเขาจริง ๆ ไม่ช้าก็พาเขาติดสอยห้อยตามไปดูโคมไฟด้วยกัน ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

จงซู่เกินมองรอยยิ้มบนหน้าหญิงสาว พลันรู้สึกว่ามันสุกสกาวยิ่งกว่าดาวดวงใดบนท้องฟ้า

เขาชอบนิสัยเช่นนี้ของนาง

แน่นอนว่า สิ่งที่เขาชอบที่สุดในตัวหยางชิงซือคือตอนที่เขาได้รับบาดเจ็บตอนอายุสิบห้าปี นางกอดเขาไว้พลางร้องห่มร้องไห้

คราวนั้นที่ได้รับบาดเจ็บ แม้กระทั่งบิดามารดาเขาก็หาได้ใส่ใจ มีเพียงนางที่ใช้เงินเก็บแอบซื้อยามาให้ เขาถึงได้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่ตอนนั้น เขาก็สาบานกับตนว่า หากไม่ได้แต่งกับนาง ชั่วชีวิตนี้เขาก็จะไม่แต่งกับผู้อื่น

ครอบครัวพวกเขาเป็นเพียงชาวนาธรรมดา มารดาเขายังจู้จี้จุกจิกเรื่องหยางชิงซือซึ่งเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ ด้วยพื้นเพของลู่ฉาวจิ่ง หลิวจิ่วจู๋ที่เป็นเด็กกำพร้าผู้หนึ่งจะแต่งเข้าสกุลอีกฝ่ายได้จริงหรือ?

“คนในครอบครัวข้าดีมาก พวกเขาจะต้องชอบจิ่วเอ๋อร์”

ลู่ฉาวจิ่งตะลึงงันไปครู่หนึ่ง

คราวก่อนเขายังคิดเพียงว่าจะจัดการหลักแหล่งให้หลิวจิ่วจู๋อย่างไร ภายในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่วัน เขากลับคิดว่าหากพานางกลับไปสกุลลู่คงไม่เลว สกุลลู่ไม่ได้ตัดสินพื้นเพของคน สนใจเพียงตนชอบหรือไม่เท่านั้น

จงซู่เกินรู้สึกอิจฉาขึ้นมาแล้ว

เด็กหนุ่มทั้งสองผลัดกันเฝ้ายาม คอยปกป้องความปลอดภัยของแม่นางน้อยทั้งสองที่อยู่ห้องข้าง ๆ

แม้จะกล่าวว่าผลัดกันเฝ้ายาม ทว่าอันที่จริง ส่วนใหญ่ลู่ฉาวจิ่งเป็นคนเฝ้า จงซู่เกินเผลอหลับไปกลางดึก ไม่ตื่นขึ้นมากระทั่งรุ่งสาง เขาจึงรีบให้ลู่ฉาวจิ่งไปงีบหลับสักประเดี๋ยว ขณะที่ตนเองยืนเฝ้าอยู่นอกประตู

“กองคาราวานหรือ?” ชายชราที่ให้ที่พักพวกเขาได้ยินลู่ฉาวจิ่งถามจึงชี้ไปทางถนนฝั่งตะวันออก “ที่นั่นมีกิจการของสกุลจางอยู่ ได้ยินว่าทำการค้าไปทุกแห่ง เจ้าลองไปถามดูเถอะ ข้าเพียงเคยได้ยินมาแต่ไม่เคยสอบถาม”

“ขอบคุณขอรับ”

ลู่ฉาวจิ่งซื้อซาลาเปามาแล้วให้ซาลาเปาสี่ลูกกับชายชราและท่านป้า

ผู้เฒ่าทั้งสองตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง บอกพวกเขาว่าหากคราวหน้าเข้ามาในเมืองก็สามารถมาพักที่นี่ได้ ถึงตอนนั้นพวกเขาจะลดให้สิบอีแปะ

“ซาลาเปาสี่ลูกสี่อีแปะ คราวหน้าพวกเรามาพักก็จะได้พักในราคาที่ถูกลงสิบอีแปะ กล่าวอย่างนี้แล้ว การให้ซาลาเปาคุ้มค่ายิ่งนัก” หยางชิงซือคิดคำนวณ “จู๋จือ สามีเจ้าเจ้าเล่ห์มาก!”

หลิวจิ่วจู๋ภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง “นี่เรียกว่าเฉลียวฉลาดต่างหาก!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย