สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 1164

บทที่ 1164 ตอนพิเศษ (56/1)

บทที่ 1164 ตอนพิเศษ (56/1)

หลิวจิ่วจู๋ดูแลหยางชิงซือ หมู่นี้นางไม่ให้หยางชิงซือออกจากบ้านจนกว่าอาการบาดเจ็บบริเวณท้ายทอยจะหายสนิท

ส่วนยาสระผมของนางนั้น นางนำมันไปหารือกับร้านยา ทว่าทางนั้นกลับไม่สนใจแม้แต่น้อย อย่างไรเสีย ยาสระผมก็ไม่ใช่ยาจริง ๆ ไม่ใช่ว่าใช้เพียงครั้งเดียวแล้วจะเห็นผล แต่ต้องใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน สำหรับของประเภทนี้ ร้านยาไม่คิดจะมีส่วนร่วม

แน่นอนว่า สาเหตุหลัก ๆ เป็นเพราะกำไรไม่สูง หากขายหนึ่งขวดแล้วได้เงินสิบถึงยี่สิบอีแปะ ย่อมไม่มีผู้ใดผลักไสเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งที่มาหาถึงหน้าประตู ยาสระผมของหลิวจิ่วจู๋นี้ หากขายได้ ร้านยาก็จะได้เงินห้าอีแปะ มิหนำซ้ำยังต้องแบ่งครึ่งกับหลิวจิ่วจู๋ กำไรเท่านี้ไม่เพียงพอจริง ๆ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องการเสียเวลาเสี่ยงโชค

“ฮูหยินลู่”

หลิวจิ่วจู๋ได้ยินเสียงคนเรียกตนเองจึงหันกลับไปมอง

“เถ้าแก่ถัง” หลิวจิ่วจู๋ประหลาดใจ “ท่านไม่ได้กลับไปที่บ้านเกิดหรอกหรือ?”

ถังลี่เฉิงลงจากรถก่อนจะเอื้อมมือไปอุ้มถังจื่อหลิงลงมา

เมื่อเอ่ยถึงเรื่องกลับไปบ้านเกิด สีหน้าของเขาชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นจึงกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว

“เดิมทีก็กลับไปทำธุระเพียงเล็กน้อย ตอนนี้จัดการเรียบร้อยแล้วถึงได้กลับมา” ถังลี่เฉิงกล่าว “เมื่อครู่นี้เห็นท่านดูกังวล พบเจอปัญหายุ่งยากอะไรหรือ?”

“เถ้าแก่ถัง ท่านเป็นพ่อค้า ช่วยเสนอความคิดเห็นให้ข้าหน่อยได้หรือไม่?” หลิวจิ่วจู๋เล่าปัญหาของนางให้ถังลี่เฉิงฟัง

ไม่รู้ด้วยเหตุใด ถังลี่เฉิงจึงมักจะรู้สึกสนิทสนมกับนางอยู่เสมอ นอกจากนี้ พวกเขาก็รู้จักกันมานาน ถังลี่เฉิงมักจะพาถังจื่อหลิงไปซื้อยาอมของหญิงสาว ดังนั้นในความคิดหลิวจิ่วจู๋ เขาจึงเป็นสหายที่ไว้ใจได้มากผู้หนึ่ง

“ที่แท้เป็นเช่นนี้” ถังลี่เฉิงเอ่ย “สะดวกเอายาสระผมที่ท่านเอ่ยถึงให้ข้าดูหรือไม่?”

“แน่นอนว่าได้” หลิวจิ่วจู๋กล่าว “เพียงแต่ท่านพึ่งกลับมา ยังไม่ได้กลับบ้านไปพักผ่อนจะเหนื่อยเกินไปหรือไม่?”

“ไม่เป็นไร ข้าไม่เหนื่อย” ถังลี่เฉิงมองถังจื่อหลิง “หลิงเอ๋อร์ก็อยากเจออาหลิ่วเหมือนกันใช่หรือไม่?”

ถังจื่อหลิงพยักหน้าน้อย ๆ

เทียบกับครั้งแรกที่พบกันแล้ว เขามีท่าทีดีขึ้นมาก อย่างน้อยก็เต็มใจจะตอบคำถามของผู้อื่นแล้ว

หลิวจิ่วจู๋กลับไปที่บ้านพร้อมกับถังลี่เฉิง

ถังลี่เฉิงเดินเข้าไปในประตูเห็นบ่าวรับใช้อยู่ในบ้านก็รู้สึกแปลกใจ “ท่านจ้างบ่าวรับใช้ด้วยหรือ?”

“สามีข้าตระเตรียมให้”

“ดูเหมือนว่าสามีท่านจะเป็นคนมีความสามารถทีเดียว”

ภายในระยะเวลาสั้น ๆ ก็สามารถรุ่งเรืองขึ้นมาได้ถึงเพียงนี้ อยู่ในสถานที่เล็ก ๆ แห่งนี้ก็นับว่าเป็นคนมีแววผู้หนึ่ง

“สามีข้าเป็นคนเฉลียวฉลาดทีเดียวเชียวละ”

ถังลี่เฉิงพลันรู้สึกขบขันกับท่าทางภาคภูมิใจของนาง

หยางชิงซือได้ยินเสียงก็เดินออกมา เมื่อนางเห็นถังลี่เฉิงก็เอ่ยด้วยความดีใจ “เถ้าแก่ถัง ท่านกลับมาแล้วหรือ?”

ถังลี่เฉิงขานรับด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้ว แม่นางชิงซือ…”

“ตอนนี้นางไม่ใช่แม่นางแล้ว” หลิวจิ่วจู๋กล่าว “ตอนนี้นางมีสามีแล้ว”

ถังลี่เฉิงมองผมที่มวยขึ้นเก็บเรียบร้อยของหยางชิงซือ เขาเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “แม่นางหยางแต่งงานแล้วหรือ?”

“นั่นเป็นเพราะลูกชายของท่านไม่อยากแต่งงานต่างหาก!” อวี๋ชุนฮวาเอ่ย “ลูกชายท่านไปหาหลานสาวข้า แล้วบอกว่าเขาจะไม่แต่งกับนาง หากนางแต่งไปก็จะทำได้เพียงเป็นแม่ม่าย ท่านฟังเขาพูดเข้าสิ? หลานสาวข้าเป็นแม่นางหน้าตาแฉล้มแช่มช้อยที่สุดในหมู่บ้าน ไม่รู้ว่ามีคนมากน้อยเพียงใดแย่งชิงอยากแต่งงานกับนางแต่ลูกชายท่านกลับไม่ชอบ”

“จริงหรือ?”

“หากข้าโกหกแม้เพียงครึ่งคำ ขอให้ข้าไม่ได้ตายดี” อวี๋ชุนฮวายกนิ้วขึ้นทำท่าทางสาบาน

“เจ้าเด็กดื้อด้านคนนี้ สมองมีไว้คั่นหูจริง ๆ” จางซื่อกล่าว “ข้าจะกลับไปจัดการเขา”

“พอเถิด ท่านยังคิดจะจัดการกับเขาอีกหรือ? ถึงแม้ลูกชายท่านจะอยากแต่งงานกับหลานสาวพวกข้า พวกข้าก็ไม่อาจให้หลานสาวแต่งให้ลูกชายท่านได้แล้ว”

“เหตุใดเล่า? เงินเดือนลูกชายข้าเดือนละหนึ่งตำลึงเงิน หรือว่ายังไม่พอ?”

“ท่านรู้หรือไม่ว่าลูกชายของท่านทำงานที่ใด?”

“ไม่รู้ เพียงแต่รู้ว่าอยู่ที่บ้านคหบดีผู้หนึ่ง” จางซื่อเอ่ย “คหบดีผู้นั้นค่อนข้างใจกว้างกับเขา บางครั้งยังตกรางวัลเล็ก ๆ น้อยให้เขาเป็นอาหารที่ทานไม่หมด อร่อยเสียจนข้าแทบกลืนลิ้นลงไปด้วยซ้ำ”

“แน่นอนว่าต้องอร่อย อาหารที่หอเมามายเป็นอาหารที่รสเลิศที่สุดจะไม่อร่อยได้อย่างไร?”

“เจ้าว่าอะไรนะ?”

“ข้าบอกว่าลูกชายของท่านทำงานอยู่ที่หอเมามาย”

“ให้ตายเถอะ! ลูกชายข้าจะไปทำงานที่นั่นได้อย่างไร?” จางซื่อโกรธเสียจนหยิบท่อนไม้บนพื้นขึ้นมาชี้อวี๋ชุนฮวา “ยายเฒ่าสมควรตายผู้นี้ ข้าก็ว่าเหตุใดเจ้าจึงได้มาทักทายข้าอย่างเป็นมิตรเช่นนี้? ที่แท้จงใจทำลายชื่อเสียงลูกชายข้านี่เอง ข้าจะตีเจ้า ยายเฒ่าสมควรตาย! ดูสิว่าเจ้ายังจะเอ่ยเรื่องเหลวไหลอย่างนี้ได้อีกหรือไม่”

อวี๋ชุนฮวาหลบไม่ทันจึงถูกจางซื่อตีเข้าไปหนึ่งที

อวี๋ชุนฮวาก็หงุดหงิดแล้วเช่นกัน เมื่อครู่ตอนพูดคุยกับจางซื่อนางยังพูดเสียงค่อยราวกับกลัวผู้อื่นจะได้ยิน แต่ตอนนี้นางไม่กลัวผู้อื่นจะได้ยินแล้วจึงตะโกนด้วยเสียงหยาบกระด้าง “ข้าว่านะเจ้าคนแซ่จาง ยายเฒ่าน่ารังเกียจผู้นี้ มารดาอุตส่าห์ใจดีมาบอกให้เจ้าได้ชี้แนะลูกชาย แต่เจ้ายังไม่รู้จักแยกแยะชั่วดี ได้! เจ้าให้ลูกชายเจ้าอยู่ที่นั่นต่อไปเถอะ สักวันเขาเป็นโรคขึ้นมา ดูสิว่าเจ้าจะร้องไห้ขี้มูกโป่งหรือไม่”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย