บทที่ 197 เรื่องน่าขัน
บทที่ 197 เรื่องน่าขัน
ณ เรือนกรุ่นฝัน
เฟิงเจิงรีบเร่งเข้ามาหาทันที “เถ้าแก่เนี้ย! เกิดเรื่องแล้ว”
มู่ซืออวี่ยกมือขึ้นห้าม “หยุดก่อน ตอนนี้ข้ายังฟังไม่ได้ ถ้าข้าฟัง ข้าต้องตระหนกเป็นแน่”
“ไม่หรอก สำหรับเราแล้วนับว่าเป็นเรื่องดี” เฟิงเจิงทำทีเป็นลึกลับซับซ้อน “คุณชายสกุลหลี่ผู้นั้น…”
เฟิงเจิงมองไปรอบ ๆ เมื่อไม่เห็นคนอื่นก็พูดต่อ “เมื่อวานนี้ไปหาเทพเจ้ากระต่าย*[1]แต่กลับถูกคนจับได้ น่าขันจริง ๆ”
“หากคุณชายสกุลหลี่เป็นหลี่จวิ้นหาน แล้วเทพเจ้ากระต่ายคืออะไร…” มู่ซืออวี่ประหลาดใจ “ใครจับได้หรือ?”
เฟิงเจิงหน้าแดง “เถ้าแก่เนี้ยรู้แค่ว่าทิศทางลมข้างนอกเปลี่ยนไปแล้วก็พอ ทุกคนล้วนแต่เอ่ยถึงคุณชายจวนหลี่ ไม่มีใครสนใจท่านแล้ว”
มู่ซืออวี่รู้สึกว่าแปลกนัก เหตุใดเด็กคนนี้จึงพูดครึ่ง ๆ กลาง ๆ? นางยังอยากจะถามอีกสักสองสามคำ แต่อีกฝ่ายกลับอึกอัก ไม่ยอมพูดต่อ
ณ สำนักบัณฑิตเขาเขียว
ถังหมิงฉงตกอยู่ในภวังค์ สีหน้าของเขาซีดเผือดราวกับเห็นผี ใครเรียกก็ไม่สนใจ คนที่เดินผ่านไปมาได้แต่มองมาด้วยสายตาแปลกประหลาด
มือหนึ่งตบลงที่ไหล่เขาดังป้าบ!
“โอ๊ย!” ถังหมิงฉงร้องลั่น
“เจ้าคิดอะไรน่ะ?” เฉียนจงอวิ๋นตกใจ “ตกใจอะไรขนาดนั้น เจอผีหรือ?”
“เป็นเจ้านี่เอง” ถังหมิงฉงถอนหายใจเมื่อเห็นว่าเป็นเฉียนจงอวิ๋น
ฟางโจวอวี่เดินเข้ามา เอ่ยเสียงเรียบว่า “เมื่อครู่เจ้าตกใจอะไร มีเรื่องในใจหรือ?”
“สหาย ท่านไม่รู้…..” ถังหมิงฉงขยี้หัวตัวเอง “ข้าไปล่วงเกินลู่อี้ เกรงว่าจะโชคร้ายเสียแล้ว”
“พวกเราไม่ค่อยได้ยุ่งกับเขาแล้วไม่ใช่หรือ จะกลัวอะไร?” เฉียนจงอวิ๋นไม่คิดเช่นนั้น
“ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน” ถังหมิงฉงเอ่ยด้วยสีหน้าทุกข์ระทม “พวกท่านรู้เรื่องที่สหายหลี่กับข้าตกน้ำครั้งก่อนใช่หรือไม่?”
“รู้”
“พวกเราตกน้ำ ภรรยาของลู่อี้ก็ตกน้ำเช่นกัน ข่าวลือข้างนอกนั่นพวกท่านคงรู้กระมัง?”
“รู้ นั่นไม่ใช่ฝีมือของสหายถังหรือไร?” เฉียนจงอวิ๋นยกยิ้มเจ้าเล่ห์
สีหน้าของถังหมิงฉงย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้ยินเช่นนั้น
ไม่ผิด! หลังจากตกน้ำแล้ว หลี่จวิ้นหานก็ถูกจับ ถังหมิงฉงตื่นตระหนกจริง ๆ แต่หลังจากนั้นไม่นานหลี่จวิ้นหานก็ออกมาแล้ว ทั้งสองคิดเหมือนกันว่าลู่อี้คงมีความสามารถเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่อาจทำอะไรพวกเขาได้จริง ๆ จึงได้แพร่ข่าวลือไปทั่ว
เรื่องเหล่านี้ทั้งฟางโจวอวี่และเฉียนจงอวิ๋นล้วนรับรู้เช่นกัน ถึงแม้ทั้งสองคนจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ก็พายเรือตามน้ำไปด้วย
“เมื่อคืนนี้สหายหลี่ดื่มสุราบุปผา*[2]จนเมามาย หลังจากตื่นขึ้นมากลับไม่ได้อยู่ที่เรือนวสันต์ แต่กลับอยู่ที่เรือนดอกหลิว”
“เรือนดอกหลิว?” เฉียนจงอวิ๋นประหลาดกใจ “เจ้าแน่ใจหรือว่าเขาไม่ได้ไปที่นั่นเอง?”
เรือนดอกหลิวเป็นสถานที่แบบใดน่ะหรือ? ที่นั่นเป็นสถานที่สำหรับคนที่มีความชื่นชอบแบบพิเศษ
ทว่าจากเรือนวสันต์ไปเรือนดอกหลิวนั้นระยะทางไม่ใกล้เลย
“เป็นไปไม่ได้ ร้านของสกุลข้าอยู่ตรงข้ามเรือนวสันต์ ข้าเห็นเขาเดินเข้าไปในเรือนวสันต์กับตา ตอนนั้นเขาชวนข้าไปด้วย แต่ตอนนั้นข้ากำลังตรวจบัญชี ไม่มีเวลาไปเป็นเพื่อนเขา ภายหลังมีข่าวลือว่าเขาติดพันอยู่กับคุณชายซูหลิ่วจากเรือนดอกหลิว… จากนั้นเขาก็ถูกส่งไปรักษา”
ฟางโจวอวี่และเฉียนจงอวิ๋นมองหน้ากันเลิ่กลั่ก
เรื่องพวกนี้สำหรับคุณชายตระกูลสูงส่งแล้วไม่นับเป็นอันใด แต่ในที่แจ้งนั้น หากเกิดเรื่องอื้อฉาวเช่นนี้ขึ้นมาก็ทำให้อับอายไม่น้อย
“เจ้าสงสัยว่าลู่อี้เป็นคนทำเรื่องนี้กับสหายหลี่งั้นหรือ?” ฟางโจวอวี่ถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะแอด รบกวนอัพแอดตอนต่อไปด้วยนะคะ...
แอดรบกวนอับตอนที่ 994 ใหม่หน่อยค่ะ เพราะไม่เนื้อหา มีแค่ตอนมาอย่างเดียว เป็นตอนที่กำลังสนุกเลยแอด รบกวนหน่อยน้าาาาาา...
ไม่นะๆๆ เราจองน่องให้ฉาวอวี่น๊า...
เข้าใจสอน เรืดๆๆ...
แอด รออัพเดทตอนต่อไปน๊าาาาาพลีสสสสสสส...
ท่านแม่สอนลูกดีมากเลย...