สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 233

บทที่ 233 มู่เจิ้งอี้สอบตก

บทที่ 233 มู่เจิ้งอี้สอบตก

ถึงแม้แม่เฒ่าเจียงผู้นี้จะน่ารังเกียจ แต่กับหลานชายคนโตและลูกชายคนเล็กของนางแล้ว จะกล่าวเช่นนั้นมิได้

แม้ถังซื่อและมู่ต้าไห่จะทำตัวเลวทราม แต่แม่เฒ่าเจียงจะไม่เอาความโกรธไปลงที่หลานชายสุดที่รักของนางเด็ดขาด นางยังต้องพึ่งพาหลานชายบัณฑิตคนนี้ เพราะเขานำลาศยศสรรเสริญและความมั่งคั่งมาให้นาง!

มู่เจิ้งอี้อยู่ที่สำนักบัณฑิตมาหลายปี และแทบจะไม่เคยกลับมา จึงไม่มีความผูกพันกับคนในครอบครัว ไม่ว่าแม่เฒ่าเจียงจะกระตือรือร้นเพียงใด เขาก็ยังคงเฉยชาเช่นเคย ยามนี้เขาจึงแค่รับคำนางเบา ๆ ไม่คิดจะพูดคุยกับนางต่อ

แม่เฒ่าเจียงไม่รู้สึกถึงความเย็นชาของมู่เจิ้งอี้แม้แต่น้อย ทั้งยังต้อนรับขับสู้เขาอย่างดีอกดีใจ นางรับสัมภาระจากเขามาแล้วเอ่ยถาม “เดินทางเหนื่อยแล้วกระมัง รีบเข้ามาพักผ่อนเร็วเข้า ย่าจะทำอาหารให้เจ้า…”

ทันใดนั้น แม่เฒ่าเจียงก็ชะงักงัน

ที่บ้านไม่มีอะไรเหลือแล้ว จะทำอาหารได้อย่างไร?

“ข้าอยากกินเนื้อ” มู่เจิ้งอี้เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ “ไม่อยากกินข้าวต้ม จะกินแค่ข้าวขาวเท่านั้น”

แม่เฒ่าเจียงมีสีหน้ายุ่งยากใจ สุดท้ายจึงกัดฟันเอ่ยออกไปว่า “เจ้ารออยู่ตรงนี้สักประเดี๋ยว ข้าจะไปเก็บต้นหอมสักสองต้นมาปรุงรสให้”

มู่เจิ้งอี้เดินมาเหนื่อย ๆ เขาจึงเข้าไปในห้องที่เคยอยู่ตามความทรงจำ

ทว่าภายในห้องตอนนี้มีมู่ตงหยวนอยู่

เมื่อผลักประตูเข้าไปเห็นมู่ตงหยวน มู่เจิ้งอี้ก็พลันทำหน้านิ่วคิ้วขมวด

ส่วนมู่ตงหยวนก็มองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชา

บุรุษที่เป็นที่รักที่สุดของครอบครัวมู่ทั้งสองคนจ้องหน้ากันอยู่อย่างนั้น

“นี่เป็นห้องของข้า” มู่เจิ้งอี้ไม่พอใจ

มู่ตงหยวนออกจากบ้านไปเนิ่นนานแล้ว ห้องเดิมของเขากลายเป็นห้องเก็บฟืน ตอนนี้จึงรกเป็นอย่างมาก ไม่สามารถใช้อยู่อาศัยได้

มู่ตงหยวนหัวเราะเยาะ “ข้าเป็นอาของเจ้า ข้าบอกว่าห้องไหนเป็นของข้า ห้องนั้นก็ต้องเป็นของข้า”

“คือว่า…” แม่เฒ่าเจียงโพล่งขึ้นมาจากด้านหลัง “หลานชายคนดีของข้า เจ้าไปอยู่ที่ห้องพ่อแม่ของเจ้าก่อนเถอะ”

“เพราะเหตุใด?” มู่เจิ้งอี้รู้สึกรำคาญใจขึ้นมาทันที

“ตอนนี้ขาของอาเจ้าไม่ค่อยสะดวก…”

เพียงแค่แม่เฒ่าเจียงเอ่ยคำนี้ออกมา เสียงขว้างปาข้าวของก็ดังออกมาจากห้องนั้น

เพล้ง!

แม่เฒ่าเจียงรีบวิ่งไปอย่างร้อนใจ พอหยุดอยู่ตรงหน้าประตู ก็เห็นมู่ตงหยวนเขวี้ยงชามลงข้างเตียง

นางพลันรู้สึกปวดใจ ในบ้านเหลือของไม่มากแล้ว และถ้วยใบนั้นก็เป็นถ้วยดี ๆ เพียงใบเดียวที่เหลืออยู่ในบ้าน แต่ก่อนไม่มีแม้แต่รอยร้าวสักรอย!

สายตาของมู่เจิ้งอี้จับจ้องไปที่ตักของมู่ตงหยวน

“ท่านคงไม่ได้ถูกตระกูลหวังขับไล่ออกมากระมัง?”

“หุบปาก!” มู่ตงหยวนตะคอกอย่างเกรี้ยวกราด

“เป็นอย่างนี้นี่เอง” มู่เจิ้งอี้เยาะเย้ย

“แล้วเจ้าเล่า? สอบได้ซิ่วไฉแล้วหรือ?” มู่ตงหยวนเหน็บแนมกลับไป “ดูสีหน้าเจ้าไม่ค่อยดีใจเท่าไหร่นะ เจ้าสอบตกใช่หรือไม่? หากแม่นางเสี่ยวเอ๋อร์ในเรือนวสันต์รู้เข้า จะไม่เศร้าโศกเสียใจจนตายหรือ? นางยังรอให้เจ้าได้เป็นซิ่วไฉ หางานดี ๆ ทำแล้วแต่งนางเข้าบ้านอย่างยิ่งใหญ่ตระการตาอยู่นะ”

“ท่านรู้ได้อย่างไร?” มู่เจิ้งอี้จ้องหน้าอีกฝ่าย

“เหตุใดข้าจะไม่รู้? สถานที่อย่างเรือนวสันต์ ข้าจะไปพบก็เป็นเรื่องธรรมดามากไม่ใช่หรือ? คุณชายหวังมักจะไปที่นั่นอยู่บ่อย ๆ ถึงแม้ต่อมาภายหลังเขาจะใช้การไม่ได้แล้ว แต่ก็ต้องแสร้งไปที่นั่นเพื่อจะได้ไม่ถูกเล่าลือว่าเป็นขันที ทว่าหลานคนดีของข้า บัณฑิตที่ครอบครัวฟูมฟักด้วยเป็นอย่างดีด้วยเงินทองมากมายกลับไปเสพสุขกับหญิงโสเภณีที่ซ่องทุกคืน ช่างเป็นนักรักจริง ๆ”

“มู่เจิ้งอี้!” แม่เฒ่าเจียงจ้องมู่เจิ้งอี้เขม็ง “ที่อาของเจ้าพูดมาไม่ใช่เรื่องจริงใช่หรือไม่?”

มู่เจิ้งอี้ขมวดคิ้ว เผยสีหน้าเย็นชาไม่กล่าวสิ่งใด

“เจ้านี่มัน! เจ้าถึงกับไปสถานที่โสมมเช่นนั้น สตรีในสถานที่เช่นนั้นดีนักหรือ ไม่รู้อะไรเข้าสิงเจ้า พวกเราใช้เงินมากมายเพื่อให้เจ้าศึกษาเล่าเรียน แต่เจ้ากลับตอบแทนพวกเราเช่นนี้หรือ? ไม่ใช่เจ้ากล่าวว่าจะสอบขุนนางจนมีลาภยศชื่อเสียงหรือ? เจ้ากลับเป็นเช่นนี้… เจ้าอยากจะฆ่าข้าให้ตายหรือไร” แม่เฒ่าเจียงกุมอกตนเอง ทรุดลงไออยู่กับพื้น

“เสี่ยวเอ๋อร์เป็นคนดี ข้าไม่อนุญาตให้ท่านกล่าวถึงนางเช่นนั้น” มู่เจิ้งอี้พูดขึ้นด้วยความโมโห

มู่ตงหยวนหัวเราะออกมาหนึ่งที

คนดี?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย