บทที่ 271 ฤดูใบไม้ผลิของลู่เซวียน
บทที่ 271 ฤดูใบไม้ผลิของลู่เซวียน
ตอนนี้มู่ซืออวี่มีลูกศิษย์อยู่สามคน ทุกคนล้วนแต่ขยันหมั่นเพียรเรียนรู้ ผู้ใดจะรับหน้าที่ไปที่เมืองซูโจวล้วนได้ทั้งสิ้น
แต่เรื่องเช่นนี้ต้องการความยินยอมพร้อมใจ การถามความเห็นของพวกเขาจึงสำคัญเป็นอย่างมาก
“ผู้ใดยินดีไป ค่าเช่าบ้านครอบคลุมให้แล้ว แต่ละเดือนยังมีค่าอาหารให้อีก 500 อีแปะ เพราะต้องอยู่ที่เมืองซูโจวระยะยาว สามารถพาคนในครอบครัวไปอยู่ที่นั่นด้วยกันได้”
“ข้าไป!” เจี่ยงจงเป็นคนแรกที่แสดงความคิดเห็นของตนออกมา “คนในครอบครัวของข้าไม่เคยไปสถานที่ห่างไกลพอดี ข้าจะพาพวกเขาออกไปดูโลกภายนอก”
“เจ้าสามารถเลือกลูกมือจากที่ร้านไปได้สามคน ที่นี่ล้วนแต่เป็นคนมีฝีมือ เจ้าพาพวกเขาไปด้วยย่อมมีประโยชน์ต่อเจ้า เจ้าจะได้ไม่ขาดคนช่วยงาน เมื่อไปถึงเมืองซูโจวแล้ว คนที่รับผิดชอบอยู่ที่นั่นคือคุณหนูเจิ้งซูอวี้ เจ้าก็ทราบดีว่าข้าเชื่อในความสามารถของนาง ฉะนั้นอย่าได้อาศัยว่าเป็นลูกศิษย์ของข้าแล้วไม่เชื่อฟังนาง หากเป็นเช่นนั้นข้าคนนี้ก็จะไม่ช่วยเจ้าเช่นกัน”
“เถ้าแก่เนี้ย ท่านวางใจได้เลย” เจี่ยงจงกล่าว “ข้าเป็นคนที่ท่านสอน จะไม่ทำให้ท่านอับอายเป็นอันขาด”
“เฟิงเจิง เจ้าหาคนมาเพิ่มหน่อย กิจการของเรากำลังดีขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ตอนนี้กำลังคนไม่เพียงพอ ยิ่งไปกว่านั้นข้าอยากรับลูกศิษย์เพิ่มสักสองสามคน เจ้าช่วยข้าเลือกพวกเขาออกมา ผู้ใดทำงานได้ดีจะได้รับโอกาสมากกว่า”
“จ้ะ” เฟิงเจิงตอบ “เถ้าแก่เนี้ย เหวินอี้มีความสามารถมากเกินไป ข้าว่าให้เขาทำแค่บัญชีจะเป็นการลดความสามารถของเขา”
“เขาร่างกายอ่อนแอ ไม่มีงานที่เหมาะสมกับเขามากกว่าเป็นผู้ทำบัญชีแล้ว” มู่ซืออวี่กล่าว “ข้าเห็นว่าเขาดูมีความสุขกับงานของเขา อีกทั้งยังได้รับเงินไม่น้อย เจ้าไม่จำเป็นต้องห่วงเขาหรอก”
มู่ซืออวี่อยากรับลูกศิษย์เพิ่ม คนงานในร้านล้วนดีอกดีใจ พยามแสดงความสามารถต่อหน้าพวกเขาอย่างสุดกำลัง ท้ายที่สุดเฟิงเจิงจึงเลือกออกมาห้าคน โดยดูจากความสามารถในการทำงานของพวกเขา
“พี่ซืออวี่” เย่อิงเกอเดินนำสาวใช้เข้ามาภายในร้าน
“ฮูหยินโหยว” มู่ซืออวี่หันไปทักทาย “เหตุใดวันนี้เจ้าจึงมีเวลามาได้เล่า?”
“ข้าเพิ่งกลับมาจากบ้านของท่านแม่ ผ่านร้านของท่านจึงเข้ามาดู” เย่อิงเกอเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “พี่ซืออวี่ กิจการร้านของท่านนับวันยิ่งดีขึ้นกว่าเดิม ข้าอยากได้เครื่องเรือนสั่งทำพิเศษ แต่แค่จะสั่งทำร้านท่านยังไม่รับเลย”
“เจ้าอยากสั่งทำพิเศษหรือ ข้าจะจัดการให้เจ้าก่อน” มู่ซืออวี่มองที่ท้องของอีกฝ่าย “ลูกยังว่านอนสอนง่ายอยู่หรือไม่?”
เย่อิงเกอพยักหน้าเบา ๆ “บางครั้งก็ดิ้นแรงเหลือเกิน ตอนนี้ใกล้จะคลอดออกมาแล้ว ว่าง่ายขึ้นไม่น้อย”
“พี่สะใภ้” ลู่เซวียนสาวเท้ายาว ๆ ก้าวเข้ามา “พี่สะใภ้ ตู้ตำราของข้าพัง…”
เมื่อเห็นเย่อิงเกอ ลู่เซวียนหยุดชะงักโดยพลัน
“พี่เซวียน” เย่อิงเกอมองเขาพร้อมระบายรอยยิ้มบนใบหน้า “จำข้าไม่ได้แล้วหรือ?”
ลู่เซวียนยิ้มออกมาบาง ๆ “ไม่ได้พบกันนานเลย”
“ใช่น่ะสิ!” เย่อิงเกอยิ้มน้อย ๆ
“ที่นี่มีผู้คนวุ่นวาย ไปจิบชาที่ห้องตำราของข้าสักถ้วยดีหรือไม่?”
มู่ซืออวี่เห็นเย่อิงเกอยังไม่มีทีท่าว่าจะไป ยิ่งลู่เซวียนเพิ่งมาถึง นางย่อมไม่จากไปทันที มิเช่นนั้นจะดูเป็นการจงใจหนีเกินไป มู่ซืออวี่จึงแนะนำให้พวกเขาไปห้องตำรา จะได้ย้อนนึกถึงวันเก่า ๆ ด้วยกัน
ณ ห้องตำรา
คนในร้านนำน้ำชามาให้
มู่ซืออวี่เห็นพวกเขายังเงียบจึงเอ่ยขึ้น “ข้ายังมีแบบที่ต้องวาดอีก ถ้าเช่นนั้นพวกเจ้าคุยกันไปก่อน ข้าขอไปทำงานสักครู่”
“เช่นนั้นก็ได้” เย่อิงเกอเอ่ยว่า “พี่ซืออวี่ทำงานของท่านต่อเถิด”
มู่ซืออวี่เข้าไปในห้องข้างใน
เย่อิงเกอเปิดปากขึ้นก่อน “พี่เซวียน ท่านจะต้องสอบเซียงซื่อ*[1] ปีนี้ ท่านมั่นใจหรือไม่?”
“ไม่ว่าจะมีความมั่นใจหรือไม่ คงต้องลองพยายามให้ดีที่สุดก่อน!” ลู่เซวียนตอบ “เจ้าอยู่ที่ตระกูลโหยวเป็นอย่างไรบ้าง? ดูข้าถามเข้าสิ เห็นท่าทีของเจ้าก็รู้แล้วว่าเจ้าสบายดี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะแอด รบกวนอัพแอดตอนต่อไปด้วยนะคะ...
แอดรบกวนอับตอนที่ 994 ใหม่หน่อยค่ะ เพราะไม่เนื้อหา มีแค่ตอนมาอย่างเดียว เป็นตอนที่กำลังสนุกเลยแอด รบกวนหน่อยน้าาาาาา...
ไม่นะๆๆ เราจองน่องให้ฉาวอวี่น๊า...
เข้าใจสอน เรืดๆๆ...
แอด รออัพเดทตอนต่อไปน๊าาาาาพลีสสสสสสส...
ท่านแม่สอนลูกดีมากเลย...