สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 373

บทที่ 373 ท่านอาจู อยากเสี่ยงหรือไม่?

บทที่ 373 ท่านอาจู อยากเสี่ยงหรือไม่?

ก่อนหน้านี้โรคฝีดาษระบาดราวกับหินแตกกระเด้งกระดอนเหนือผิวน้ำที่สาดกระเซ็นไปทั่วทุกแห่งหน เมื่อน้ำที่เคยสาดซัดหายไป ผิวแม่น้ำจึงกลับคืนสู่ความเงียบสงบดังเดิมราวกับไม่เคยมีสิ่งใดเกิดขึ้น

หลังจากที่ตรวจตากวดขันอย่างดีเป็นเวลาหนึ่งเดือน ผู้ป่วยโรคฝีดาษคนสุดท้ายในเมืองฮู่เป่ยก็ได้รับการรักษาจนหายดี

อย่างไรก็ตาม โรคฝีดาษแพร่ระบาดมาจากเมืองเตียนอวี้ คนไข้ที่นั่นไม่ได้โชคดีถึงเพียงนั้น

“คนมากกว่าพันตายไปแล้ว” สีหน้าของเวินเหวินซงเคร่งขรึม “นี่เป็นแค่เพียงการประมาณการ ไม่ใช่ผลที่แน่นอน เรายังไม่ทราบจำนวนผู้ตายที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เมืองเตียนอวี้ต้องเลวร้ายกว่าที่คาดการณ์ไว้เป็นแน่”

“เมืองเตียนอวี้อยู่ไม่ไกลจากเมืองฮู่เป่ยของเรา” เซี่ยคุนกล่าว “เจ้าเด็กจือเชียนคนนั้นเคยอยู่ในเมืองเตียนอวี้ เขาย่อมรู้ดีว่าสำเนียงของคนเมืองเตียนอวี้แตกต่างจากเมืองเรา ไม่นานมานี้ เขานำคนไปตรวจตราที่ประตูเมือง พบว่ามีคนจากเมืองเตียนอวี้ลอบเข้ามาจำนวนมาก หากสถานการณ์ในเมืองเตียนอวี้ยังเลวร้ายต่อไปเช่นนี้ ไม่แน่ว่าสถานการณ์ที่พวกเราเพิ่งกอบกู้มาได้อย่างยากลำบากจะทลายลงในคราเดียว ไม่รู้ว่าใต้เท้าเฝิงของเมืองเตียนอวี้ผู้นั้นคิดอะไรอยู่ ไม่คิดเลยว่าเขาจะนิ่งเฉยได้ขนาดนี้”

“โรคฝีดาษเป็นมหันตภัยไม่ว่าจะสำหรับที่ใดก็ตาม” เวินเหวินซงกล่าว “ใต้เท้าเฝิงผู้นั้นขี้ขลาดตาขาวและหวาดกลัวความตาย เขาไม่หลบหนีออกมาจากเมืองเตียนอวี้ก็ดีเพียงใดแล้ว ยังคิดว่าเขาจะทำอะไรได้อีก?”

ลู่อี้ฟังคนสนิทสองคนเอ่ยถึงความยุ่งยากของปัญหานี้ ระหว่างนั้นในสมองก็พยายามขบคิดหาหนทางอย่างรวดเร็ว

“ท่านอาจูทำอะไรอยู่หรือ?” ลู่อี้เอ่ยถาม

“ระยะนี้เขาเหนื่อยล้ายิ่ง ตอนนี้จึงพักผ่อนอยู่ที่บ้าน” เซี่ยคุนตอบ

“ข้ามีวิธีหนึ่ง ข้าจำต้องปรึกษาหารือกับเขา” ลู่อี้กล่าว “หากวิธีนี้ได้ผล เขาจะโด่งดังไปทั่วหล้า และสำหรับข้า…”

มันก็ถือว่าเป็นอีกโอกาสหนึ่ง…

เซี่ยคุนเผยสีหน้ากระจ่างแจ้ง เขาพอจะรู้วิธีของลู่อี้แล้ว อันที่จริง เขาก็คิดแบบนั้นเช่นกัน

วีรบุรุษจะปรากฏตัวในยามที่มีปัญหา ยิ่งเหตุการณ์วุ่นวายเท่าไหร่ยิ่งดี ขอแค่เพียงรับมือได้ ย่อมเป็นโอกาสที่จะได้มาซึ่งความก้าวหน้าและโชคลาภวาสนา

ณ โรงหมอถงตั๋ว

ท่านหมอจูผอมลงไปไม่น้อย หลังจากพักผ่อนอยู่ที่บ้านเป็นเวลาหลายวัน ถงซื่อพยายามทำทุกทางเพื่อบำรุงร่างกายเขา สุดท้ายท่านหมอจูจึงมีสีหน้าดีขึ้นมาก ทว่าเขายังคงผ่ายผอมเช่นเคย

ลู่อี้นั่งลงตรงข้ามอีกฝ่าย

หลังจากได้ยินสิ่งที่ลู่อี้กล่าว ท่านหมอจูก็หันไปมองถงซื่อ

สีหน้าของถงซื่อเต็มไปด้วยความกังวล

“อันที่จริงสามีของข้าพยายามคิดค้นยาออกมาแล้ว แค่เพียงนำยานี้ไปให้พวกเขาก็คงเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องให้เขาไปที่นั่นด้วยตนเองกระมัง?”

“คนไข้ทุกคนแตกต่างกัน ข้าต้องคลำชีพจรพวกเขาทีละคน และปรับเทียบยาตามอาการ เช่นนี้จึงจะได้ผล” ท่านหมอจูกล่าว

“แต่ว่า…”

ลู่อี้เอ่ยว่า “อย่างที่ท่านแม่กล่าว ตำรับยาแทบจะคงที่แล้ว หากท่านหมอไม่ยินดีไป เช่นนั้นก็สามารถมอบตำรับยาและสอนวิธีรักษาให้ท่านหมอคนอื่น ๆ ได้ ข้ายินดีที่จะหาหมอคนอื่น ๆ ออกหน้าแทนท่าน เพียงแต่วิธีนี้จะทำให้ชื่อเสียงในการศึกษาโรคฝีดาษและจัดทำตำรับยาตกเป็นของผู้อื่น ท่านอาจูตรากตรำถึงเพียงนี้ แต่ท้ายที่สุดกลับตัดชุดแต่งงานให้ผู้อื่น แม้ท่านจะไม่แสวงหาชื่อเสียงและความมั่นคั่ง ทว่าหากปล่อยให้เป็นเช่นนั้นท่านจะยินดีหรือ?”

“ระหว่างท่านหมอที่โด่งดังไปทั่วใต้หล้า กับท่านหมอในโรงหมอธรรมดาผู้หนึ่ง สองอย่างนี้ย่อมมีความแตกต่างกัน หากคว้าโอกาสนี้ไว้ได้ บางทีท่านหมอจูอาจได้เข้าไปในสำนักหมอหลวงชั่วระยะหนึ่ง ท่านหมอลี่เองก็มาจากสำนักหมอหลวง เขากล่าวว่าได้เรียนรู้หลายสิ่งที่ไม่อาจเรียนรู้จากข้างนอกได้ที่นั่น”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย