สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 384

บทที่ 384 ไม่ใช่อุบัติเหตุ

บทที่ 384 ไม่ใช่อุบัติเหตุ

เซี่ยคุนเดินเข้ามาในร้านเสื้อผ้าแล้วเคาะลงบนโต๊ะสามครั้ง

ตึก ตึก ตึก

เถ้าแก่เนี้ยที่กำลังรับรองลูกค้าได้ยินเสียง จึงหันกลับไปมองเซี่ยคุน

“ลูกค้า ท่านอยากจะซื้อเสื้อผ้าสำเร็จหรือซื้อผ้าหรือ?”

“ครึ่ง ๆ” เซี่ยคุนตอบ

“รอเดี๋ยวนะเจ้าคะ”

เถ้าแก่เนี้ยเดินไปส่งลูกค้า ปิดประตู จากนั้นจึงเดินมาหาเซี่ยคุน “นายท่านมีนามว่าอะไร?”

เซี่ยคุนนำป้ายแผ่นหนึ่งออกมาจากหน้าอก

“ที่แท้ก็เป็น…”

“เอาล่ะ ข้าอยากตรวจสอบคนผู้หนึ่ง” เซี่ยคุนวางกระดาษแผ่นหนึ่งลงบนโต๊ะ “ตรวจสอบแล้ว ให้คนส่งไปที่ศาลาว่าการ”

เถ้าแก่เนี้ยรับคำ เปิดประตู แล้วส่งเซี่ยคุนออกไป

ประตูเพิ่งเปิดออกก็พบกับอันอวี้และฮั่วอวิ๋นซิ่วยืนอยู่หน้าประตู

เมื่อเห็นเซี่ยคุนเดินออกมา อีกทั้งข้างหลังยังมีเถ้าแก่เนี้ยตามมา ทั้งสองคนพลันแสดงสีหน้าแปลกประหลาด

เถ้าแก่เนี้ยสัมผัสได้ว่าบรรยากาศไม่ค่อยถูกต้องนัก จึงแสร้งปาดน้ำตาแล้วเอ่ยว่า “นายท่าน ได้โปรดตามหาน้องชายของข้า ถึงแม้น้องชายของข้าจะชอบเที่ยวเล่น เขาก็ไม่เคยอยู่ค้างคืนข้างนอกเลยนะเจ้าคะ”

“ค่อย ๆ รอดูไปก่อน หากน้องชายของเจ้าไม่กลับมาวันนี้ ถึงตอนนั้นก็ให้ไปเขียนคำร้องให้ศาลาว่าการ เขาไม่ได้กลับมาเพียงแค่คืนเดียว ตอนนี้ยังเร็วเกินกว่าที่จะแจ้งคนหาย” เซี่ยคุนเอ่ยเสียงเรียบ

“เจ้าค่ะ”

ฮั่วอวิ๋นซิ่วถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง “ที่แท้นายท่านเซี่ยก็กำลังทำงาน”

เดิมทียังคิดว่าเซี่ยคุนผู้นี้ไม่ซื่อสัตย์เสียอีก! โชคยังดี ๆ

เมื่อครู่นี้อันอวี้ตื่นตระหนกไปชั่วขณะหนึ่งแล้ว พอนางได้ยิน ‘คำอธิบาย’ จึงไม่นึกสงสัยเซี่ยคุนอีก

“เจ้ามาซื้อผ้าที่นี่หรือ?” เซี่ยคุนเอ่ยถาม

“อาจารย์สั่งสินค้าไว้ชุดหนึ่ง นัดหมายไว้ว่าจะมารับวันนี้” อันอวี้กล่าว “ท่านทำงานของท่านเถอะ ไม่นานข้าก็จะกลับไปร้านสาวทอผ้าแล้ว”

เซี่ยคุนเอ่ยว่า “เที่ยงวันข้าจะมารับเจ้าไปทานอาหาร”

ฮั่วอวิ๋นซิ่วมองคู่รักตรงหน้าด้วยความอิจฉา

อันอวี้อ่อนแอเรียบร้อย เทียบกันแล้ว ใบหน้าของเซี่ยคุนดูดุไปเล็กน้อย การผสมผสานนี้ราวกับหมาป่าและกระต่ายตัวน้อย

ความรักที่พวกเขามีต่อกันทำให้คนรู้สึกใจเต้นไปด้วย

ยามบ่าย นักการเกามาหาเซี่ยคุนพร้อมจดหมายฉบับหนึ่ง

“ขอทานน้อยคนหนึ่งมาส่งให้”

เซี่ยคุนเปิดมันออก กวาดตามองแล้วเอ่ยว่า “นี่ให้ใต้เท้า ท่านอยากเข้าไปด้วยกันหรือไม่?”

“เกี่ยวกับคดีเก่าที่ใต้เท้ากำลังตรวจสอบช่วงนี้หรือ?” นักการมีสีหน้าเคร่งขรึม

“อืม”

ระหว่างทาง นักการเกาเอ่ยกับเซี่ยคุนว่า “ตอนนั้นที่เกิดคดีนี้ขึ้นมา ข้ายังเป็นนักการตัวเล็ก ๆ ที่เพิ่งเข้าศาลาว่าการมาได้ไม่นาน รับหน้าที่เฝ้าคุก นักโทษประหารผู้นั้นนิ่งเงียบยิ่ง ทั้งไม่ร้องไห้ไม่ส่งเสียงใด ๆ ข้าวที่ส่งมาให้กินทุกวัน เขาก็กินโดยไม่ปริปาก เขาหลบหนีไปจากศาลาว่าการ แต่หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นข้าก็ไม่รู้แล้ว ข้าในเวลานั้นไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้เท่าใดนัก”

ลู่อี้อ่านจดหมายที่เซี่ยคุนนำมาให้

“ทุบตีสตรีในหอนางโลมจนตาย จากนั้นจึงถูกตัดสินโทษประหาร”

“มิผิด”

“คนจากเมืองเตียนอวี้ เดิมทีก็เป็นเพียงชาวนาธรรมดาทั่วไป เกิดมามีพละกำลังแข็งแรง ที่บ้านมีภรรยาและบุตร ก่อนที่จะเกิดเรื่องนี้ขึ้น เขาถูกบีบบังคับให้ชดใช้หนี้ หลังจากที่เขาตาย ภรรยาและบุตรของเขากลับไปอยู่บ้านหลังใหญ่กว่าเดิม…”

เวินเหวินซงจิบชาหนึ่งคำ ถามความสงสัยที่ผุดขึ้นในใจออกมา “ครอบครัวยากจนถึงเพียงนั้น เขานำเงินที่ใดไปเที่ยวหอนางโลม?”

“ในเมื่อคดีนี้เกิดเหตุที่เมืองเตียนอวี้ เหตุใดต้องนำมาประหารที่เมืองฮู่เป่ย?” ลู่อี้ถามอีกครั้ง

“ดูเหมือนตอนนั้นนายอำเภอเมืองเตียนอวี้เพิ่งได้เลื่อนตำแหน่ง นายอำเภอที่เข้ามารับตำแหน่งต่อไม่อยากฆ่าคนตั้งแต่เพิ่งเข้ารับหน้าที่ครั้งแรก เขาจึงปรึกษากับนายอำเภอเมืองฮู่เป่ยเพื่อโยกย้ายเขามาทางเรา”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย