สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 405

บทที่ 405 เสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์ตกอยู่ในอันตราย

บทที่ 405 เสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์ตกอยู่ในอันตราย

เมื่อลู่อี้ได้ยินว่าลูกสาวของตนหายตัวไปก็ส่งคนออกค้นหาทันที

ทั้งยังสอบถามคนที่เคยพูดคุยกับลู่จื่ออวิ๋น สุดท้ายจึงได้ความว่า เมื่อครู่นี้เสี่ยวเฮยวิ่งออกไป นางจึงวิ่งตามเจ้าลูกหมา นับแต่นั้นก็ไม่มีใครพบเห็นนางอีก

“องค์ชายเก้าก็หายตัวไปเช่นกัน” เซี่ยคุนเอ่ยเสียงเบา

ลู่อี้มองเซี่ยคุน “ข้างกายเขาไม่มีคนคอยคุ้มกันหรือ?”

“เดิมทีมีผู้คุ้มกันอยู่หลายคน ทว่าวันนี้พวกเราสังสรรค์อยู่ในหมู่บ้านของตนเอง ผู้คุ้มกันเหล่านั้นจึงไม่ได้ตามมาด้วย”

“พบเขาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?”

“พวกเขาบอกว่าออกไปด้วยกันกับเสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์”

ลู่อี้พานักการเกาและคนอื่น ๆ ออกไปตามหาทันที

เมื่อเห็นทุกคนมีท่าทีแปลก ๆ บรรดาแขกเหรื่อล้วนสงสัยว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นจึงพากันมาสอบถาม ทว่ามู่ซืออวี่ไร้ทางเลือก ได้แต่ปิดบังไว้เป็นความลับ

“เสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์หายตัวไปแล้ว พวกเราต้องส่งคนไปหาโดยเร็ว” ถงซื่อเอ่ยอย่างกระวนกระวาย “ยังจะมีงานเลี้ยงอะไรอีก? เลิกราไปเถิด ให้ทุกคนกลับไปเถอะ!”

“แขกมากมายถึงเพียงนี้ บางคนเดินทางมาไกล หากเราไล่พวกเขากลับไป เช่นนั้นจะไม่เป็นการล่วงเกินหรือ?” เหยาซื่อเอ่ย “พวกเราเป็นสตรี ทำอะไรไม่ได้มาก เสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์มีนายอำเภอลู่และคนอื่นคอยตามหาแล้ว พวกเขาจะต้องหานางพบอย่างแน่นอน”

ฉานอีกลับมาจากข้างนอก นางโน้มตัวไปกระซิบข้างหูมู่ซืออวี่ “ใต้เท้าพบร่องรอยที่คุณชายฟ่านทิ้งไว้ เขาพาคนไล่ตามไปแล้วเจ้าค่ะ”

“คุณชายฟ่าน?” มู่ซืออวี่เอ่ยถาม “ฟ่านเหยี่ยน?”

“เจ้าค่ะ คุณชายฟ่านและคุณหนูอยู่ด้วยกัน”

อีกด้านหนึ่ง ภายในรถม้า เมื่อลู่จื่ออวิ๋นตื่นขึ้นมา นางพบว่าตนถูกมัด ในปากของนางมีผ้ายัดเอาไว้ อีกทั้งยังมีเด็กชายและเด็กหญิงคนอื่น ๆ อีกหลายคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันนั่งอยู่ข้าง ๆ

ท่ามกลางเด็กเหล่านั้นมีเด็กหนุ่มคนหนึ่ง คนผู้นั้นสวมใส่เสื้อผ้าเนื้อดี ใบหน้าของเขาคุ้นตาเสียจนไม่อาจคุ้นได้มากกว่านี้อีกแล้ว เพราะเขาคือฟ่านเหยี่ยน

ลู่จื่ออวิ๋นดิ้น ทว่าเชือกที่มัดไว้กลับรัดแน่นยิ่งกว่าเดิม

ฟ่านเหยี่ยนส่ายศีรษะ สายตาคู่นั้นราวกับกำลังปลอบใจนาง

รถม้าเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว

ลมพัดม่านหน้าต่างปลิวไสว เผยให้เห็นด้านนอกพอดี ถนนเส้นนี้ไม่ใช่เส้นทางหลัก ส่วนปลายทางมุ่งไปสู่ที่ใดนั้น ลู่จื่ออวิ๋นไม่รู้

ฟ่านเหยี่ยนคิดอยู่เป็นเวลานาน ก่อนที่เขาจะนึกขึ้นได้ หากเขาจำไม่ผิด ตอนที่เขาเพิ่งมาถึงเมืองฮู่เป่ย เขาพาองครักษ์ออกมาล่าสัตว์และผ่านเส้นทางนี้

ถนนเส้นนี้ไม่ค่อยมีคนใช้งานนัก คนที่ทราบว่ามีนั้นก็ไม่มาก และคนที่เคยเดินผ่านกลับไม่มากยิ่งกว่า ทว่าเท่าที่เขารู้ ถนนเส้นนี้มุ่งไปยังเมืองฝูหรง

“ฮือออ”

เด็กหญิงที่อยู่ข้าง ๆ หลายคนร้องไห้ขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว

ปากของพวกนางล้วนถูกอุดไว้ ต่างคนต่างร้องห่มร้องไห้สะอึกสะอื้น ดูหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

ลู่จื่ออวิ๋นก็รู้สึกหวาดกลัวเช่นกัน ทว่าเมื่อนางเห็นฟ่านเหยี่ยน ในใจกลับรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาเล็ก ๆ อย่างไร้เหตุผล

รถม้าหยุดลงแล้ว คนขับหวดแส้เข้ามาข้างใน “ร้องไห้อะไรกัน? หากยังร้องแหกปากอีก ข้าจะจับพวกเจ้าโยนออกไปเป็นอาหารของหมาป่า”

แส้เส้นนั้นเหวี่ยงมาสะเปะสะปะ โดยไม่ได้สนใจว่าจะถูกเด็กที่ร้องไห้หรือไม่ อย่างไรเสียขอแค่เพียงได้เชือดไก่ให้ลิงดูก็เป็นอันใช้ได้แล้ว

ชายผู้นั้นมีเคราปกคลุมไปทั่ว ดังนั้นจึงเห็นหน้าของเขาไม่ชัดเท่าใดนัก ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจงใจแปลงโฉมหรือไม่ มีเพียงรอยแผลเป็นบริเวณหางตาเท่านั้นที่เด่นเป็นจุดสังเกตออกมา

สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ฟ่านเหยี่ยน

ฟ่านเหยี่ยนเป็นเด็กหนุ่ม เขาอายุมากที่สุดท่ามกลางเด็กเหล่านี้

เมื่อชายคนนั้นมองฟ่านเหยี่ยน ฟ่านเหยี่ยนก็รีบส่ายหน้าพร้อมทำตัวสั่นเทิ้ม ดู ๆ ไปแล้วมีท่าทางหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าเป็นนายน้อยประเภทบอบบางอ่อนแอที่ถูกปกป้องคุ้มครองมาอย่างดี

เมื่อเห็นเขามีท่าทีเช่นนี้ ชายผู้นั้นจึงคลายความหวาดระแวงที่มีต่อเขาลง และมองฟ่านเหยี่ยนด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นใบหน้าหล่อเหลาของฟ่านเหยี่ยน สายตาพลันวาววับแปลก ๆ

เด็กหนุ่มอย่างนี้…

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย