สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 467

บทที่ 467 เป็นข้าที่ทำ

บทที่ 467 เป็นข้าที่ทำ

“เดิมทีเขาเป็นถึงพระโอรสที่กษัตริย์องค์ก่อนโปรดปราน ขอแค่เพียงเขาองอาจกว่านี้สักหน่อย บางทีผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรตอนนี้อาจเป็นเขาก็ได้ แต่ท่านดูสิ่งที่เขาทำมาตลอดหลายปีสิ สงบเสงี่ยม ขี้ขลาด ไร้ความสามารถ! ในเมื่อเขาไร้ประโยชน์ถึงเพียงนี้ เช่นนั้นก็ควรเสียสละสักเล็กน้อยเพื่อความสำเร็จของข้า อย่างน้อย ๆ ก็ควรทำหน้าที่ของบิดาเพื่อข้าบ้าง!” จ้าวจื่อโม่มองสองสามีภรรยาอย่างเยือกเย็น

หลีอ๋องไอแค่ก ๆ แล้วมองจ้าวจื่อโม่ด้วยความผิดหวัง

“ข้าทำผิดพลาดไปแล้วจริง ๆ”

จ้าวจื่อโม่ยิ้มเย้ยหยันแล้วหันกลับไปมองลู่อี้ “ใต้เท้าลู่ เดิมทีนี่ยังไม่ถึงฤกษ์งามยามดีที่จะเริ่มก่อกบฏ แต่เพราะท่าน ข้าทำได้เพียงแค่แบกรับความเสี่ยงแล้ว เจ้าอย่าแม้แต่จะคิดว่าวันนี้จะออกไปจากจวนหลีอ๋องได้!”

“คุณชายจ้าวคงอ่านตำราพิชัยสงครามมามากกระมัง? ข้าเห็นว่าท่านมีตำราพิชัยสงครามในห้องตำราเป็นจำนวนมาก อีกทั้งบางเล่มยังเก่าเพราะท่านอ่านพวกมันบ่อย ๆ หลายปีมานี้คงตรากตรำไม่น้อย ทว่าปัญญาชนก็ยังเป็นปัญญาชน ไม่ว่าท่านจะทดลองใช้กลศึกสงครามมากเพียงใดก็เป็นได้เพียงการวางแผนรบบนกระดาษ ในเมื่อตัดสินใจที่จะก่อกบฏ เหตุใดท่านไม่แม้กระทั่งให้ความสนใจผู้ที่ควรให้ความสนใจมากที่สุดอย่างจงอ๋องเล่า?”

“จงอ๋อง? เขาจะทำการใดได้?” จ้าวจื่อโม่ไม่เห็นฟ่านหยวนซีอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย

คนผู้นี้หยิ่งผยองเกินไป

บางทีอาจเป็นเพราะหลายปีมานี้อีกฝ่ายได้รับการเยินยอสรรเสริญจากผู้คนมากเกินไป ประหนึ่งกษัตริย์เย่หลางผู้อวดดี*[1] คิดว่าผู้อื่นล้วนไม่อาจเทียบเทียมความฉลาดของตนได้

“ยามนี้จงอ๋องคงติดต่อกับเจี๋ยตู้สื่อ*[2] หลิ่วแล้ว กองทัพใหญ่ของพวกเขาคงใกล้ถึงเมืองหลีเต็มที” ลู่อี้กล่าว “คนของท่านเหล่านั้นล้วนกระจัดกระจายไปหมด คงยังไม่เคยออกรบจริงกระมัง”

จ้าวจื่อโม่มีสีหน้าเยือกเย็นไม่เอ่ยสิ่งใด

“หากให้เวลาท่านได้เติบโตขึ้นอีกสักสองสามปี ข้าอาจจะถูกท่านหลอกสนิท ทว่าในตอนนี้ ท่านยังขาดประสบการณ์ และคนของท่านก็ยิ่งไร้ประสบการณ์ พวกเขาก็เหมือนกับไก่เล้าหนึ่ง จะมีประโยชน์อะไร?” ลู่อี้กล่าวจบก็หันกลับไปมองหลีอ๋องและหลีหวางเฟย “หากต้องการให้เขารอดชีวิต วิธีที่ดีที่สุดคือห้ามปรามเขาไว้ให้ทันการ เช่นนี้จึงจะเหลือทางรอดมากขึ้น”

“โม่เอ๋อร์…” หลีหวางเฟยคว้าแขนของจ้าวจื่อโม่เอาไว้ “หลายปีที่ผ่านมานี้ นอกจากเรื่องปิดบังสถานะแล้ว มารดาและบิดาก็ไม่เคยทำร้ายเจ้า! เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร?”

“ข้ามีสายเลือดราชวงศ์ที่สูงศักดิ์ แต่พวกท่านกลับโยนข้าให้ตระกูลพ่อค้าวาณิชตระกูลหนึ่งเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ และเมื่อข้าพบหน้าจวิ้นจู่ตัวปลอมผู้นั้น ยังต้องคารวะนางอย่างนอบน้อม นี่หรือที่บอกว่าไม่ได้ปฏิบัติต่อข้าอย่างย่ำแย่!”

“เจ้าห่วงใยบรรดาศักดิ์จอมปลอมนี่นักหรือ?” หลีอ๋องเอ่ยถาม “ไม่ช้าก็เร็วทุกคนย่อมต้องตาย ถึงแม้เจ้าจะเป็นฮ่องเต้อย่างไรก็ต้องตาย เป็นคนธรรมดาทั่วไปก็ต้องตาย ตอนนี้เจ้าเก่งกล้าและมีความสามารถไม่จำเป็นต้องกังวลกับสิ่งใด คนมากมายต่างร้องขอสิ่งที่เจ้ามีแต่ก็ไม่เคยได้มา เหตุใดเจ้าไม่รู้จักหวงแหนเล่า?”

“ข้าอยากเป็นผู้ที่อยู่สูงที่สุด” สายตาของจ้าวจื่อโม่เต็มไปด้วยความปรารถนาในอำนาจ

“ดังนั้น จึงไม่รีรอที่จะทำร้ายบิดาบังเกิดเกล้างั้นหรือ?” หลีหวางเฟยมองเขาด้วยความผิดหวัง “ยาถอนพิษเล่า? เจ้านำยาถอนพิษออกมาเถิด”

“ไม่มียาถอนพิษ นี่เป็นยาพิษชนิดที่ทำให้ป่วยเรื้อรัง มันค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปในกระดูก เช่นนั้นจะมียาถอนพิษได้อย่างไร?” ขณะที่จ้าวจื่อโม่เอ่ย สีหน้าเขาไม่มีความรู้สึกผิดเจือปนแม้แต่น้อย

แต่ก็ควรเป็นเช่นนั้น หากเขายังมีจิตสำนึก คงไม่ลงมือวางยาบิดาตนเอง

ลู่อี้เบื่อหน่ายเกินกว่าจะมาเสียเวลาอยู่กับชายผู้นี้ จึงลุกขึ้นจับจ้าวจื่อโม่เอาไว้

ทว่าจู่ ๆ ก็มีคนผู้หนึ่งโผล่ออกมาจากมุมห้องและหยุดอยู่เบื้องหน้าจ้าวจื่อโม่

“ผู้อาวุโสหู เจ้า…” หลีอ๋องจดจำชายเฒ่าที่พุ่งออกมาได้ทันที สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความโกรธ “เจ้าเป็นคนของข้า จะช่วยเขาได้อย่างไร? เจ้าถูกเขาซื้อตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“ท่านอ๋อง ตอนนั้นที่ข้าน้อยติดตามท่านเพราะท่านเป็นองค์ชายที่ได้รับความโปรดปรานมากที่สุด และมีโอกาสได้ขึ้นครองบัลลังก์สูงกว่าผู้อื่น แต่หลายปีมานี้ข้าผิดหวังในตัวท่านเหลือเกิน นายน้อยฉลาดและมีความสามารถมากกว่าท่าน เขามีความทะเยอทะยาน นี่เป็นเจ้านายที่ข้าต้องการรับใช้”

“พวกเจ้า… พวกเจ้า…”

ทหารกลุ่มใหญ่บุกเข้ามาจากข้างนอก

ผู้อาวุโสหูเอ่ยกับจ้าวจื่อโม่ “นายน้อย ท่านไปก่อน”

เมื่อเห็นลู่อี้กำลังจับจ้องตน จ้าวจื่อโม่จึงหันไปมองหลีหวางเฟย เขาคว้าตัวนางมาและยกมือขึ้นบีบคอ “อย่าเข้ามา! มิเช่นนั้นข้าจะบีบคอนางให้สิ้นใจ”

“โม่เอ๋อร์!” หลีอ๋องโมโหจนร่างสั่นเทิ้ม “ปล่อยมารดาเจ้า! นางเป็นมารดาแท้ ๆ ของเจ้านะ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย