สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 469

บทที่ 469 บิดามารดาที่น่าสงสารในใต้หล้า

บทที่ 469 บิดามารดาที่น่าสงสารในใต้หล้า

ข่าวเรื่องจวนหลีอ๋องและสกุลจ้าวสลับตัวลูกกันแพร่สะพัดไปทั่ว ทุกคนจึงรู้ว่าไม่ควรเรียกฟ่านซือโยวว่าฟ่านซือโยว แต่ต้องเป็นจ้าวซือโยวแทน

ส่วนเรื่องราวน้ำเน่าทั้งหมดนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อนานมาแล้ว

เพื่อที่จะตบตาผู้อื่น สตรีท้องแก่ทั้งสองจากสกุลจ้าวและจวนหลีอ๋องปรากฏตัวขึ้นที่วัดฉีซาน อ้างว่าอยากจะขอพรจากพระพุทธองค์ด้วยกัน ทว่ากลับให้กำเนิดลูกบนภูเขา

วัดฉีซานเป็นสถานที่เช่นใดเล่า? ที่นั่นห่างไกลจากผู้คน นอกจากเหล่าอาจารย์ในวัดแล้ว ย่อมไม่มีผู้ใดไปเพ่นพ่านอยู่แถวนั้น ผู้ทำคลอดล้วนแต่เป็นแม่นมเฒ่าของจวนหลีอ๋อง แน่นอนว่าไม่มีทางไม่ตรวจดูให้แน่ใจ

แม้เรื่องนี้จะได้รับการถ่ายทอดมาปากต่อปากและแพร่กระจายในระยะเวลาสั้น ๆ แต่ทุกคนก็เชื่ออย่างสนิทใจ

ฟ่านซือโยวหน้าตาเหมือนคนสกุลจ้าวจริง ๆ เรื่องนี้มีคนเคยพูดถึงมาก่อนแล้ว ทว่าไม่ได้กล่าวอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ บัดนี้เมื่อ ‘หลักฐาน’ มากมายเผยออกมาจึงเกิดการถกเถียงกัน

ณ สกุลจ้าว ฮูหยินจ้าวมองหญิงสาวตรงหน้านางด้วยสีหน้าซับซ้อน “เจ้าคิดดีแล้วหรือ?”

ฟ่านซือโยวปิดหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้น “ในเมื่อข้าเป็นลูกสาวของสกุลจ้าว ย่อมไม่อาจคงสถานะจวิ้นจู่ได้อีกต่อไป นามไม่แท้ วาจาไม่ถูกต้องเช่นนี้ หากยังใช้อยู่อีกแม้เสี้ยวอึดใจเดียวก็ไม่สบายใจ ยิ่งไปกว่านั้นท่านพ่อท่านแม่ไม่ต้องการให้ลูกสาวที่แท้จริงกลับมาอยู่ข้าง ๆ หรือ? หากพวกท่านรู้สึกว่าไม่เหมาะสมก็ง่ายนัก ข้าจะโกนผมออกบวช จะได้ไม่ทำให้พวกท่านต้องขุ่นข้อง”

“ข้าไม่มีปัญหา ข่าวลือด้านนอกเป็นอย่างนี้แล้ว เจ้าจะกลับมาสกุลจ้าวก็ได้ เพียงแต่เจ้าเคยคิดถึงใจท่านอ๋องและหวางเฟยบ้างหรือไม่?”

ฟ่านซือโยวเงียบไปครู่หนึ่ง

“สกุลจ้าวเป็นแค่เพียงพ่อค้าวาณิชธรรมดา เจ้ากลับมาสกุลจ้าวแล้ว เจ้าจะไม่ใช่จวิ้นจู่อีกต่อไป ภายหน้าอาจไม่ได้แต่งงานกับขุนนางใหญ่โต ตั้งแต่เล็กจนโตเจ้าถูกเลี้ยงดูมาอย่างจวิ้นจู่ เจ้ายินยอมหรือ?”

“ข้า…”

แน่นอนว่านางไม่ยินยอม

อย่างไรก็ตาม เทียบกับบทลงโทษเหล่านั้นแล้ว การปกป้องชีวิตน้อย ๆ ของตนไว้ย่อมสำคัญกว่า

“ท่านแม่ ท่านไม่ยอมรับข้าหรือ?” ฟ่านซือโยวมองฮูหยินจ้าว “หลายปีมานี้ ท่านไม่เคยเสียใจเลยหรือ?”

“ข้าไม่เคยเสียใจ” ฮูหยินจ้าวมองฟ่านซือโยว “เจ้าไม่ใช่ลูกสาวคนแรกของข้า เจ้าก็เห็นสถานการณ์ของพี่สาวกี่คนต่อกี่คนของเจ้ามาก่อนแล้ว ถึงแม้พวกเราจะพยายามเลือกอย่างถี่ถ้วนเพียงใด พวกนางก็แต่งออกไปพอถูไถเท่านั้น เจ้าจะกลับมาก็ย่อมได้ ข้าเชื่อว่าทุกคนในสกุลจ้าวย่อมยินดีต้อนรับเจ้า แต่เจ้าจะปรับตัวกับช่องว่างนี้ได้หรือ?”

“ข้าไม่สนใจ” ฟ่านซือโยวเอ่ย “ข้าอยากกลับมาสกุลจ้าว กลับมายังครอบครัวที่แท้จริงของข้า ได้รู้จักบรรพบุรุษของข้า”

“ได้ หากนี่เป็นสิ่งที่เจ้าเลือก ข้าก็จะบอกท่านอ๋องและหวางเฟย” ฮูหยินจ้าวเอ่ย “เจ้ากลับไปก่อนเถอะ ถึงตอนนั้นข้าจะพาคนไปรับเจ้ากลับมาเอง”

หลังจากฟ่านซือโยวไปแล้ว ฮูหยินจ้าวก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ

แม่นมเฒ่าข้าง ๆ นางเอ่ยว่า “คุณหนูอยากกลับมาสกุลจ้าว เพราะคิดถึงสายสัมพันธ์แม่ลูก เหตุใดฮูหยินดูเหมือนไม่ดีใจเล่าเจ้าคะ?”

“เจ้าคิดว่าข่าวลือข้างนอกนั่นมาจากที่ใด?”

“คงไม่ใช่คุณหนู…”

“หลายปีมานี้ หวางเฟยและท่านอ๋องดีต่อนางยิ่ง ถึงนางจะไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่เคยละเลย ถึงแม้ข้าจะเป็นแม่แท้ ๆ ของนาง แต่เห็นนางได้ใช้ชีวิตเช่นนี้ ข้าก็ยินดีกับวาสนาของลูก ทว่าจิตใจคนนั้นคาดเดาได้ยากนัก แม้แต่ข้ายังเลี้ยงหมาป่าตาขาวตัวหนึ่งอยู่ตั้งหลายปี”

ฮูหยินจ้าวจิบชาแล้วเอ่ยต่อ “ถึงแม้นางจะเป็นลูกสาวแท้ ๆ ทว่าสถานการณ์ในสกุลจ้าวซับซ้อนกว่าจวนหลีอ๋องหลายเท่านัก นางกลับมาสกุลจ้าว ต้องเปลี่ยนสถานะจากจวิ้นจู่มาเป็นบุตรสาวของพ่อค้าวาณิช ครอบครัวพวกเราไม่ใช่สายหลัก นางคิดว่าต้องเผชิญกับชีวิตเช่นไร? นางมีความเฉลียวฉลาดแต่กลับนำมาใช้ต่อผู้ที่รักและเอ็นดูนาง นี่ทำให้ข้าเสียใจอยู่บ้าง”

ระหว่างทางกลับ ฟ่านซือโยวกุมหัวใจที่เริ่มกระวนกระวายของนาง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย