สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 567

บทที่ 567 เจี่ยงเฟิงหยางถูกกดดัน

บทที่ 567 เจี่ยงเฟิงหยางถูกกดดัน

คืนนั้น เมื่อฮูหยินหรงได้ยินว่าเจี่ยงเฟิงหยางไปที่ห้องของอนุทันทีที่กลับมาที่จวนก็เกรี้ยวกราดจนขว้างปาถ้วยไปหลายใบ

หากมีสิ่งใดที่ฮูหยินหรงไม่มั่นใจ สิ่งนั้นก็คือนางไม่สามารถให้กำเนิดลูกชายคนโตให้เจี่ยงเฟิงหยางได้

อย่างไรก็ตาม แม้สกุลเจี่ยงจะไม่มีบุตรชายคนโตจากภรรยาเอก แต่กลับมีจากอนุถึงสามคน

ปีศาจจิ้งจอกเหล่านั้นมักจะฉกบุรุษของนางไปเพราะมีลูกชายให้เจี่ยงเฟิงหยาง ฮูหยินหรงโกรธเสียจนอึดอัดในอกขึ้นมา

“แม่นม เจ้าไปบอกนายท่าน โรคเก่าของข้ากำเริบอีกแล้ว” ฮูหยินหรงสั่ง

แม่นมเฒ่าไม่เอ่ยสิ่งใด เพียงแต่ไปทำตามคำสั่ง

เจี่ยงเฟิงหยางเห็นแก่เส้นสายของสกุลหรง ขอแค่เพียงฮูหยินหรง ‘ป่วย’ เขาจะกลับมาเรือนหลักแต่โดยดี

เจี่ยงเฟิงหยางกลับมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

เขาเอ่ยนิ่ง ๆ “ป่วยแล้วก็เชิญท่านหมอมา ข้าไม่ใช่ท่านหมอ หรือว่าข้ากลับมาแล้วเจ้าจะดีขึ้น?”

ฮูหยินหรงนอนอยู่บนเตียง ท่าทีอ่อนแอเป็นอย่างยิ่ง

“วันนี้ข้าทำอันใดให้ท่านไม่พอใจ ท่านถึงเกลียดชังข้าเพียงนี้ หากรู้ว่าจะมีวันนี้ ตอนนั้นข้าไม่ควรแต่งกับท่านเลยจริง ๆ ข้าจะได้ไม่ถลำลึก และท้ายที่สุดยังถูกท่านเกลียดอีก”

“เจ้าพูดเหลวไหลอันใดกัน?” สีหน้าของเจี่ยงเฟิงหยางไม่น่าดูขึ้นมา “เจ้ารู้หรือไม่ว่าวันนี้ข้าต้องเผชิญความยากลำบากเพียงใด?”

“เรื่องหน้าที่ราชการ เหตุใดท่านต้องเอามาลงกับข้า?” ดวงตาของฮูหยินหรงเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ

“หากไม่ใช่เพราะเจ้าไปล่วงเกินลู่อี้ ข้าจะตกอยู่ในที่นั่งลำบากอย่างวันนี้หรือไม่?” เจี่ยงเฟิงหยางเอ่ย “ในที่สุดข้าก็ปีนป่ายขึ้นไปเป็นถึงรองผู้บัญชาการศาลต้าหลี่ เดิมทีข้าอยู่เหนือกว่าลู่อี้ แต่ตอนนี้กลับดีนัก ลู่อี้ตามข้าทันในระยะเวลาสั้น ๆ ทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากเบื้องบน นี่ไม่นับเป็นอันใดหรอก แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้เวลาข้าอยู่ที่ศาลต้าหลี่ ข้าถูกขัดแข้งขัดขาตลอด ไม่เหลือแม้กระทั่งอำนาจในมือแล้ว!”

“เห็นเจ้ากับจื่อเอ๋อร์ยังดูสุขสบาย เรื่องสาวใช้ผู้นั้นคงจัดการเรียบร้อยแล้วกระมัง? พวกเจ้าคิดว่าเรื่องนี้จบสิ้นแล้วหรือ? ตามความเข้าใจของข้าที่รู้จักลู่อี้ เรื่องนี้ยังไม่จบง่าย ๆ แน่นอน!”

เมื่อนึกถึงวิธีการที่ลู่อี้ใช้ไต่สวนนักโทษและคดีมากมายที่เขาจัดการตลอดหลายวันมานี้ มีอันใดที่ไม่ยุ่งยากเป็นพิเศษบ้าง มีเพียงสตรีโง่เขลาสองคนนี้เท่านั้นที่หาญกล้าเข้าไปยุ่งกับคนที่ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตาเช่นนั้น

ฮูหยินหรงไม่สนใจที่จะแสร้งทำเป็นป่วยอีกต่อไป นางลุกขึ้นมาจากเตียง

“เหตุใดจะยังไม่จบ? ลูกสาวของเขาก็ไม่ได้เป็นอันใดร้ายแรง แค่เพียงเรื่องทะเลาะเบาะแว้งระหว่างเด็ก ๆ เท่านั้น จื่อเอ๋อร์ก็รู้ความผิดของตนแล้ว เขายังจะกำนางไม่ปล่อยอีกหรือ?”

“เจ้าไม่ได้ป่วยอันใดนี่ เอาอย่างนี้เถอะ! ข้าจะไปพักผ่อนที่เรือนอนุสาม เจ้าอยากทำอันใดก็ทำ” เจี่ยงเฟิงหยางเดินออกไปแล้ว

ฮูหยินหรงยิ่งคิดยิ่งกังวล

บัดนี้นางไม่ได้สนใจแล้วว่าบุรุษของนางจะถูกปีศาจจิ้งจอกยั่วยวนไปหรือไม่ ทั้งหมดที่วุ่นวายอยู่ในสมองนางมีเพียงเรื่องของลูกสาวเท่านั้น

ลู่จื่ออวิ๋นยุ่งเป็นอย่างมาก เรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นไม่มีผลต่อนางมากนัก ถึงอย่างไรนางก็ไม่มีเวลาไปเล่นกับเจี่ยงจือ เมื่อนางได้ยินชื่อของเจี่ยงจืออีกครั้ง ก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังพูดคุยเรื่องแต่งงานแล้ว

“เจ้าคิดว่าสกุลใด?” ฉินเหลียนเอ่ยถาม

ฉินเหลียน หรือก็คือบุตรสาวขุนนางจากกรมพระคลัง

ครั้งก่อน นางก็ไปยังเรือนพักผ่อนบนภูเขาเช่นกัน แต่นางอยู่กับเมิ่งหานเยว่เหมยเขียวม้าไม้ไผ่ของนางโดยตลอด จึงไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับลู่จื่อวิ๋นมากนัก

อย่างไรก็ตามหลังจากกลับมาแล้ว ฉินเหลียนต้องการซื้อเสื้อผ้าจากหอซือเป่าชุดหนึ่ง ด้วยตำแหน่งของบิดา นางยังไม่สามารถซื้อสิ่งใดจากหอซือเป่าได้เป็นการชั่วคราว ขณะนั้นก็ได้พบกับลู่จื่ออวิ๋นเข้าพอดี

นับจากนั้นเป็นต้นมา ฉินเหลียนจึงกลายมาเป็นสหายของลู่จื่ออวิ๋น

“ไม่รู้สิ” ลู่จื่ออวิ๋นสั่นหัวเบา ๆ

“ฉู่จี้ซิวจากจวนฉู่กั๋วกง” ฉินเหลียนเอ่ย “คุณชายทั้งสี่แห่งเมืองหลวง! จนถึงตอนนี้ก็เหลือเพียงสองคนแล้วที่ยังว่างอยู่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย