สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 6

บทที่ 6 ไม่มีพิษหรอก ไม่ทำให้เจ้าตายแน่นอน

บทที่ 6 ไม่มีพิษหรอก ไม่ทำให้เจ้าตายแน่นอน

ลู่จื่ออวิ๋นฝันอยู่อย่างยาวนานว่ามีผู้หญิงอ่อนโยนคนหนึ่งบอกว่าเป็นแม่ของนาง นางกอดผู้หญิงคนนั้นแน่นพร้อมร้องไห้อย่างขมขื่น จากนั้นก็พร่ำถามว่าเหตุใดถึงกลับมาตอนนี้ ทำไมแม่ถึงทิ้งตนไว้กับนางปีศาจนั่น

ทันทีที่ลืมตาขึ้น ลู่จื่ออวิ๋นก็เห็นร่างตรงหน้าอย่างเลือนราง ก่อนจะมีบางอย่างที่ทั้งหอมทั้งหวานถูกป้อนเข้าปาก สิ่งนั้นอุ่นจนนางอดใจไม่ไหวยอมกลืนมันลงไป

“ในที่สุดก็กินได้แล้ว” มู่ซืออวี่พึมพำกับตัวเองเมื่อเห็นลู่จื่ออวิ๋นกลืนโจ๊กลงคอไป “เด็กน้อยที่น่าสงสาร ที่ผ่านมาต้องทนทุกข์นัก วางใจเถิด หลังจากนี้ข้าจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดี”

ในเวลานี้ ลู่จื่ออวิ๋นเห็นคนตรงหน้านางอย่างเต็มตา ร่างกายพลันแข็งทื่อจนแทบจะพ่นโจ๊กในปากออกมาเสียด้วยซ้ำ โชคดีที่นางกลืนมันลงไปโดยสัญชาตญาณ ไม่อยากให้อาหารที่หามาอย่างยากลำบากต้องเสียเปล่า

มู่ซืออวี่สัมผัสได้ว่าลู่จื่ออวิ๋นตื่นแล้วจึงยกยิ้มออกมา “ตื่นแล้วหรือ?”

เมื่อเห็นแววตาอันหวาดกลัวและตื่นตระหนกของเด็กหญิงตัวน้อย นางจึงระลึกได้ว่านางไม่ใช่พี่สาวใจดีในยุคปัจจุบันอีกต่อไป แต่เป็นผู้ที่ทำเรื่องเลวร้ายมาไม่น้อย ทั้งยังใช้เลือดเนื้อคนอื่นดั่งทาสคอยรับบาปแทนอีกต่างหาก

นางหุบยิ้ม ตีสีหน้าเคร่งขรึม ก่อนจะเอ่ยอย่างจงใจ “ตื่นแล้วก็กินเอง จะให้ข้าคอยป้อนอยู่รึ?”

นางเห็นลู่จื่ออวิ๋นคู้กายตัวสั่นเทิ้ม ในใจก็ยิ่งรู้สึกผิดจนเกือบจะทิ้งชามในมือ

แม้ว่าเด็กหญิงตัวน้อยจะหน้าซูบซีด ผมเผ้ายุ่งเหยิง สวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง แต่ดวงตาคู่นั้นกลับใสกระจ่างราวกับน้ำพุใสบนภูเขา ดั่งกวางที่วิ่งผ่านในป่า ดุจเพชรเม็ดงามที่เคยเห็นมา จมูกของเด็กหญิงโด่งเป็นสัน องคาพยบงดงาม เห็นได้ชัดเจนตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่แปลกเลยหาก…

หากในอนาคตได้เป็นที่โปรดปรานของสวรรค์ ไม่อาจมีใครเทียบชั้นได้ น่าเสียดายที่หลังจากการปรากฏตัวขององค์หญิงผู้ใสซื่อราวดอกไม้ขาวนั้น นางสนมที่งดงามและเป็นที่โปรดปรานจึงต้องกลายเป็นแมลงหวี่แมลงวัน ชีวิตจบลงไม่สวยนัก

มู่ซืออวี่สติหลุดลอยไปแล้ว

ในครอบครัวนี้ นอกจากสมุนที่คอยรับกระสุนแทนนางแล้วก็เต็มไปด้วยตัวร้าย ทั้งตัวร้ายรอง และตัวร้ายหญิง บนถนนอันมืดมิดนี้ เรื่องที่เกิดจากความเลวร้ายของนางจะมีมากเพียงใดกัน?

ลู่จื่ออวิ๋นที่ลืมตามาเจอกับความน่าตกใจนี้ เมื่อเห็นว่ามู่จืออวี่เงียบไป หัวใจของเด็กน้อยก็ยิ่งหวาดกลัว

“พี่ชาย…”

นางพลันร้องเรียกลู่ฉาวอวี่โดยสัญชาตญาณ

เวลาที่นางหวาดกลัว นางจะไม่เรียกหาลู่อี้ แต่จะเรียกหาลู่ฉาวอวี่แทน

ลู่ฉาวอวี่ใช้น้ำเย็นเช็ดโคลนออกจากร่างกาย จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าสะอาด เมื่อก้าวข้ามธรณีประตูจึงพบว่าลู่จื่ออวิ๋นขดตัวอยู่ตรงมุมเตียงราวกับกระต่ายตัวน้อย ทันทีที่เข้าไปก็เหลือบมองมู่ซืออวี่อย่างไม่สบอารมณ์

“ท่านพี่” เสียงเล็กสั่นเครือ ดวงตาช้อนมองเขาอย่างอ้อนวอน

“ทำอะไรน้องสาวข้าอีกแล้ว?” เมื่อเห็นท่าทางหวาดกลัวของลู่จื่ออวิ๋น ลู่ฉาวอวี่จึงคิดว่ามู่ซืออวี่หาเรื่องน้องสาวเขาอีกครั้ง ความโกรธโหมเป็นไฟปะทุขึ้นในดวงตา “ออกไป น้องสาวของข้าไม่ต้องการให้ท่านมาดูแล”

หัวใจของมู่ซืออวี่พลันบีบรัด แต่นางก็ไม่ได้เอ่ยคำใดออกไป

นางยืนขึ้นพร้อมยัดชามในมือให้ลู่ฉาวอวี่ “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ป้อนเอง! ในหม้อยังมีอยู่อีกไม่น้อย แต่นางหิวมานานนัก ไม่อาจกินมากเกินไปในคราวเดียวหรอก”

ลู่ฉาวอวี่มองไปยังชามในมือ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองมู่ซืออวี่ที่เดินออกไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย