บทที่ 603 งานเลี้ยงฉลองอย่างยิ่งใหญ่
บทที่ 603 งานเลี้ยงฉลองอย่างยิ่งใหญ่
ซูจือหลิ่วเข้าใจความตั้งใจของมู่ซืออวี่
อีกฝ่ายพานางไปด้วยเพราะต้องการให้นางกลมกลืนกับพวกเขาอย่างรวดเร็ว เพื่อทำให้ทุกคนได้รู้ว่าอีกไม่นานนางก็จะเป็นฮูหยินรองสกุลลู่และมีความสัมพันธ์อันดีกับพี่สะใภ้
หลังจากแยกกับลู่เซวียนแล้ว ซูจือหลิ่วกลับไปยังห้องรับรองแขก
“นายท่านรองลู่ว่าอย่างไรหรือ?” ฮูหยินซูที่นั่งอยู่บนตียงเอ่ยขึ้น
“ท่านแม่ เหตุใดท่านจึงนอนอยู่ที่นี่?” ซูจือหลิ่วเอ่ยถาม
“ข้าบอกบ่าวรับใช้น่ะ พวกเราเป็นแขกจะรบกวนผู้อื่นให้เตรียมหลายห้องให้ได้อย่างไรกัน? อีกอย่างเราแม่ลูกไม่ได้พูดคุยเปิดใจกันนานแล้ว วันนี้จะได้พูดคุยเปิดใจกันเสียหน่อย”
ซูจือหลิ่ววางกริชเล่มนั้นลงบนโต๊ะเครื่องแป้ง จากนั้นจึงถอดเครื่องประดับบนศีรษะออก “ข้าคิดว่าท่านเพียงอยากฟังละครเสียอีก”
“คนที่รู้จักข้าดีที่สุดก็มีแต่ลูกสาวข้าแล้ว” ฮูหยินซูเอ่ยถาม “นายท่านรองรั้งเจ้าไว้พูดคุยอันใดหรือ? กริชเล่มนั้นไม่เหมือนของเจ้า หรือว่าเขามอบให้?”
ซูจือหลิ่วยอมรับอย่างเปิดเผย “เป็นเขามอบให้ข้า เขาบอกว่ากริชเล่มนี้ตัดเหล็กราวกับโคลน ข้าคงชอบ”
“ลูกสาวหนอ แม่ไม่รู้ว่าควรยินดีกับเจ้าหรือไม่ แต่แม่กลับรู้สึกกังวลเล็กน้อย…” ฮูหยินซูเอ่ย “นายท่านรองช่างใส่ใจจริง ๆ เขารู้ว่าเจ้าไม่ชอบของอย่างชาดหรือแป้ง แต่ชมชอบดาบกระบี่ไม้กระบอง แต่ลูกสาวเอ๋ย แรกเริ่มที่พวกเจ้าแต่งงานไปเขาคงคิดว่าเจ้าน่าสนใจ แต่หากแต่งกันไปนานวันเข้า เขาจะคิดว่าเจ้าไม่มีความเป็นกุลสตรีหรือไม่?”
“ท่านแม่ พี่หญิงมู่กล่าวแล้ว สกุลลู่ของพวกเขาไม่มีธรรมเนียมรับอนุ” ซูจือหลิ่วเอ่ย “นายท่านรองลู่ก็เคยกล่าวแล้วเช่นกัน เขาไม่มีทางรับอนุเป็นอันขาด”
“แม้เขาไม่ได้รับอนุ แต่หากออกไปหาดอกไม้รายทางเล่า เจ้ายังจะห้ามเขาได้หรือ?”
“เช่นนั้นข้าจะใช้กริชเล่มนี้…” ซูจือหลิ่วแสดงท่าทางประกอบ
“อย่า ที่นี่เป็นจวนลู่ เจ้าอย่าได้พูดจาเหลวไหลไป ระวังผู้อื่นได้ยินเข้า” ฮูหยินซูยกมือขึ้นนวดขมับที่กำลังปวดตุบ ๆ “ต้องโทษพ่อเจ้า ที่ยืนกรานจะให้เจ้าจับดาบกระบี่ ตอนนี้ข้าถึงได้อกสั่นขวัญแขวนเช่นนี้”
สามวันต่อมา สกุลลู่ก็จัดงานเลี้ยงใหญ่โตขึ้น
นอกจากสหายในแวดวงขุนนางของลู่อี้แล้ว ยังมีสหายและท่านอาจารย์ของลู่ฉาวอวี่มาด้วย
มู่ซืออวี่เองก็มีสหายในแวดวงการค้าที่ส่งของขวัญยินดีมาเช่นกัน ทว่านางไม่ได้จัดงานเลี้ยงในวันเดียวกัน แต่กำหนดไว้เป็นวันถัดไป เช่นนี้จะได้ไม่ชวนสับสน
นายน้อยสกุลลู่ได้เป็นเจี้ยหยวน ทั้งยังเป็นเจี้ยหยวนที่อายุน้อยที่สุด เรื่องนี้กลายเป็นหัวข้อพูดคุยกันทั่วทั้งเมืองหลวง ทว่าเมื่อเอ่ยถึงเจี้ยหยวนลู่ผู้นี้แล้ว ทุกคนล้วนเต็มไปด้วยความชื่นชม อย่างไรเสียเขาก็หน้าตาดี ความรู้ยอดเยี่ยม ทั้งยังไม่ได้เป็นคุณชายเสเพลอย่างคุณชายใหญ่สกุลขุนนางสกุลอื่น สิ่งสำคัญที่สุดคือมีบิดามารดาเช่นนี้กลับไม่เคยมัวห่วงเล่น ลู่ฉาวอวี่จึงกลายมาเป็นคุณชายใหญ่ที่เป็นตัวแทนอันดีงามของเหล่าลูกหลานขุนนางทั้งหลาย
“อู่อันโหว ฮูหยินอู่อันโหว และซื่อจื่อมาถึงแล้ว” ผู้รายงานประกาศเสียงก้อง
ฮูหยินอู่อันโหวจึงเอ่ยขึ้น “ท่านโหว ลูกชายคนนี้ของท่านช่างแปลกเสียจริง!”
แม้อู่อันโหวจะอายุมากแล้ว ทว่ามองแล้วดูเหมือนอายุราวสามสิบเท่านั้น เขาและเซี่ยเฉิงจิ่นยืนอยู่ด้วยกันกลับดูไม่เหมือนบิดากับบุตรชาย หากแต่ดูเหมือนพี่ชายน้องชายเสียมากกว่า
เค้าโครงใบหน้าของเซี่ยเฉิงจิ่นเหมือนอู่อันโหวถึงเจ็ดส่วน ที่เหลืออีกสามส่วนผสมผสานความงดงามของฮูหยินอู่อันโหวเข้าไป เห็นได้ชัดว่ารูปโฉมของเซี่ยเฉิงจิ่นนั้นประณีตงดงามกว่าบิดามาก
“ฮูหยิน มีเมื่อใดที่เขาไม่แปลกหรือ?” อู่อันโหวเอ่ย “เจ้าจับตาดูข้าไว้ดีกว่า สาวใช้คนใหม่เมื่อวานนี้เดินชม้ายชายตาไปมารอบ ๆ ข้าอีกแล้ว นางทำให้ข้าปวดหัวยิ่งนัก”
ฮูหยินอู่อันโหวเอ่ยด้วยความหงุดหงิด “มีอย่างที่ไหนกัน รอข้ากลับไปก่อน ข้าจะขับไล่สาวใช้นั่นไปขัดส้วมเสีย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
แอดรบกวนอับตอนที่ 994 ใหม่หน่อยค่ะ เพราะไม่เนื้อหา มีแค่ตอนมาอย่างเดียว เป็นตอนที่กำลังสนุกเลยแอด รบกวนหน่อยน้าาาาาา...
ไม่นะๆๆ เราจองน่องให้ฉาวอวี่น๊า...
เข้าใจสอน เรืดๆๆ...
แอด รออัพเดทตอนต่อไปน๊าาาาาพลีสสสสสสส...
ท่านแม่สอนลูกดีมากเลย...