สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 618

บทที่ 618 นี่ลูกสาวบุญธรรมของท่านหรือ?

บทที่ 618 นี่ลูกสาวบุญธรรมของท่านหรือ?

“ผู้คุ้มกัน…” ลู่เซวียนออกคำสั่ง ชายชุดดำผู้หนึ่งกระโดดออกมาจากเงามืด

เย่อิงเกอพลันประหลาดใจ

คนผู้นี้กระโดดลงมาจากหลังคากระมัง?

เขาอยู่บนหลังคาตลอดเวลาเลยหรือ?

“เห็นแม่นางน้อยผู้หนึ่งเดินไปเดินมารอบจวนตามลำพังหรือไม่?” ลู่เซวียนเอ่ยถาม

ผู้คุ้มกันลับกล่าว “นางไปที่ห้องหอแล้วขอรับ”

ผู้คุ้มกันลับดูแลรับผิดชอบรักษาความปลอดภัยภายในจวน ย่อมไม่บุ่มบ่ามปรากฏตัวหากไม่เกิดเหตุอันตราย

“เจ้าเด็กคนนี้ เหตุใดจึงวิ่งซนไปทั่วนะ?” เย่อิงเกอเอ่ย “พี่ลู่เซวียน ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?”

“ท่านรออยู่ตรงนี้ ข้าจะไปพานางมา”

“ให้ข้าไปขออภัยพี่สะใภ้ด้วยเถิด! หรงอวี้รบกวนนางเช่นนี้ นางไม่โกรธจึงจะดี”

“นางไม่ได้ใจแคบเพียงนั้น”

สิ้นคำ ลู่เซวียนก็เดินไปยังห้องหอ

ภายในห้องหอ ซูจือหลิ่วกำลังจะให้ฉานอีพาแม่นางน้อยออกไป กลับได้ยินเสียงบ่าวรับใช้ด้านนอกเอ่ยเรียก ‘นายท่าน’

นางพลันรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที

ลู่เซวียนเดินเข้าประตูไป เมื่อเห็นฉานอีและโหยวหรงอวี้ คิ้วที่ขมวดมุ่นจึงค่อย ๆ คลายลง

“เหตุใดเจ้าวิ่งไปทั่วเช่นนี้? มารดาของเจ้ากำลังตามหาเจ้าไปทั่ว”

“พ่อบุญธรรม…” โหยวหรงอวี้คว้าชายเสื้อของลู่เซวียนเอาไว้ “พ่อบุญธรรม ข้าคือหรงอวี้ ท่านยังจำข้าได้หรือไม่?”

“พ่อบุญธรรม?” ลู่เซวียนพลันงงงวย “ผู้ใดให้เจ้าเรียกอย่างนั้น?”

“ท่านแม่บอกว่าชีวิตของข้าเป็นท่านที่ให้มา ข้าไม่มีพ่อคนอื่น มีเพียงท่านพ่อบุญธรรม” โหยวหรงอวี้หวาดกลัวเล็กน้อย “ท่านไม่ชอบข้าหรือ? ท่านไม่ชอบให้ข้าเรียกเช่นนี้หรือ?”

ซูจือหลิ่วเอ่ยถาม “นางเป็นบุตรสาวบุญธรรมของท่านหรือ?”

ลู่เซวียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดก็ไม่ได้ปฏิเสธต่อหน้าเด็ก กลับหันไปเอ่ยกับฉานอีแทน “ท่านแม่ของนางกำลังตามหานางอยู่ข้างนอก เจ้าพานางไปหาเถอะ”

“เจ้าค่ะ”

ฉานอีจูงโหยวหรงอวี้ออกไป ลู่เซวียนจึงเอ่ยอธิบายว่า “จริงอยู่ที่ตอนนางเกิดตกอยู่ในอันตราย ข้าจึงพาคนไปช่วย ทว่าข้าไม่ได้มีความตั้งใจรับนางเป็นบุตรบุญธรรม ข้าจะกล่าวกับมารดาของนางให้ชัดเจน เจ้าทานอะไรหรือยัง? วันนี้แขกเหรื่อเยอะ ข้ายังต้องอยู่รับรองอีกสักพัก”

“ทานแล้ว แม่นางฉานอีส่งมาให้”

“พี่สะใภ้เอาใจใส่แต่ไหนแต่ไร โชคดีที่มีนางดูแลเจ้า” ลู่เซวียนเอ่ยแล้วจึงจับผมที่ร่วงลงมาของซูจือหลิ่วขึ้นทัดหู “เครื่องประดับศีรษะหนักเกินไปทั้งยังทำให้รู้สึกไม่สบาย อยู่ที่บ้านสะดวกอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ไม่ต้องเคร่งเกินไปนัก”

หลังจากลู่เซวียนไปแล้ว โม่จู๋สาวใช้ก็เอ่ยขึ้น “ฮูหยิน นายท่านรองดีต่อท่านจริง ๆ นะเจ้าคะ”

“เจ้ามองออกได้อย่างไร? เขาเพียงแค่เอ่ยไม่กี่คำ นี่ก็ดีต่อข้าแล้วหรือ?” ซูจือหลิ่วเอ่ยอย่างไม่แปลกใจนัก

“อย่างไรเสีย นายท่านใหญ่ลู่ก็รักภรรยาเขามากเพียงนั้น นายท่านรองของพวกเราย่อมไม่ด้อยไปกว่ากัน” โม่จู๋กล่าว “นอกจากนี้แล้ว ในเมืองหลวงยังมีสกุลใดที่กล้ารับปากว่าจะไม่รับอนุเล่าเจ้าคะ มีเพียงสกุลลู่ที่รักใคร่ภรรยาและบุตรดั่งชีวิตเท่านั้นที่กล้าเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมา”

เมื่อลู่เซวียนออกมา เย่อิงเกอยังคงรออยู่ตรงนั้นกับโหยวหรงอวี้ ฉานอีรออยู่ข้าง ๆ เมื่อเห็นลู่เซวียนออกมาจึงก้าวมาข้างหน้า บอกว่าเย่อิงเกอต้องการพาเด็กมาขอโทษ

“ลูกข้ายังเล็ก ไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่รู้ว่ารบกวนพี่สะใภ้หรือไม่” เย่อิงเกอกล่าว

“หลิ่วเอ๋อร์ไม่ได้ขี้กลัวเพียงนั้น นางเป็นคนกล้าหาญ ไม่ต้องเอ่ยถึงเด็กเพียงคนหนึ่ง แม้เป็นโจรหลายคนบุกเข้าไปก็ทำให้นางหวาดกลัวไม่ได้” ลู่เซวียนกล่าวต่อ “ทว่ามีเรื่องหนึ่งที่ข้าต้องกล่าว ท่านให้หรงอวี้เรียกข้าว่าพ่อบุญธรรมได้อย่างไร? ข้าจำไม่ได้ว่าเคยรับปากเรื่องนี้”

“ข้าขออภัย พี่ลู่เซวียน เป็นความผิดของข้าเอง…” ดวงตาของเย่อิงเกอแดงเรื่อขึ้นมา “แม่นางฉานอี ท่านช่วยพาหรงอวี้ไปทานอะไรก่อนได้หรือไม่? ข้ายังอยากกล่าวบางอย่างกับพี่ลู่เซวียนเพียงลำพัง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย