สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 642

บทที่ 642 สถานการณ์ที่ชายแดน

บทที่ 642 สถานการณ์ที่ชายแดน

หลังจากเหตุการณ์จมน้ำผ่านพ้นไป คนอื่น ๆ ก็กลับเข้ามาร่วมงานเลี้ยงในครึ่งหลังต่อ

ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ไม่มีผู้ใดเอ่ยถึงอีก ทว่าทุกคนรู้ดีว่าหลังจากวันนี้ เรื่องนี้คงแพร่สะพัดไปทั่ว ชื่อเสียงของแม่นางสกุลหยางและแม่นางสกุลสิง เกรงว่า…

แม่นางสกุลสิงยังนับว่าโชคดี ผู้ที่ช่วยชีวิตนางคือคุณชายใหญ่สกุลลู่ เขาเป็นถึงเด็กอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงผู้ที่สอบขุนนางได้อันดับหนึ่งสามรอบติดต่อกัน หากเรื่องราวเลวร้ายลง บางทีอาจเกิดงานแต่งดี ๆ ขึ้น

ส่วนสกุลหยางน่ะหรือ…

กุลสตรีสกุลใหญ่ถูกข้ารับใช้ช่วยขึ้นมาจากน้ำ อีกทั้งยังถูกแตะตรงนู้นตรงนี้ ไม่รู้ว่าจะเล่าลือออกไปเช่นไร

กล่าวอีกแง่หนึ่ง ถึงแม้จะไม่ได้เสียเปรียบจริง ๆ ทว่าคำคนนั้นมากมาย เพียงแค่อ้าปากก็อาจแต่งเรื่องราวออกไปไกลได้

สกุลหยางและสกุลสิงอับอายเกินกว่าที่จะรั้งอยู่ แม่นางที่ตกน้ำยังคงพักผ่อนอยู่ในห้องรับรองแขก เมื่อพวกนางตื่นขึ้นมา เกรงว่าจะร้อนรนออกไปจากสกุลลู่แทบไม่ทัน

“ฮูหยินอู่อันโหว ท่านผ่ายผอมลงไปหรือไม่?” ลูกสะใภ้ของเจียงเก๋อเหล่า ฮูหยินใหญ่แห่งจวนเจียงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “น่าอิจฉาเสียจริง ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ไม่ผอมลง อีกทั้งยังไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ท่านลองบอกข้าดูหน่อยเถิด ว่าต้องทำอย่างไร ข้าจะได้เรียนรู้เอาไว้บ้าง”

“ฮูหยินเจียง เกรงว่าท่านจะเรียนรู้ไม่ได้น่ะสิ!” ฮูหยินที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยขึ้น “ท้ายที่สุดแล้วสกุลเดิมของท่านก็ไม่ได้มาจากอาณาจักรเฟิ่งหลิน”

“สองอาณาจักรรบรากัน ผู้ที่เจ็บปวดที่สุดไม่ใช่ทหารที่อยู่ชายแดน แต่เป็นฮูหยินอู่อันโหว! หากอาณาจักรเฟิ่งหลินชนะแล้ว ฮูหยินอู่อันโหวจะต้องกลายเป็นเครื่องสังเวยอย่างแน่นอน หากอาณาจักรเราชนะ ฮูหยินอู่อันโหวคงกลายเป็นนักโทษ หากข้าเป็นฮูหยินอู่อันโหว เกรงว่าข้าคงกลัดกลุ้มเสียจนทานอะไรไม่ลง แน่นอนว่ารูปร่างข้าคงผ่ายผอมลงอย่างแน่นอน”

“พวกท่านพูดจบแล้วหรือยัง?” ฮูหยินอู่อันโหวเอ่ยพลางจิบชาด้วยท่าทีนิ่งสงบ “พูดมาเสียเนิ่นนานแค่เพียงเพื่อเย้ยหยันข้า เช่นนั้นต้องทำให้พวกท่านผิดหวังแล้ว ไม่ว่าภายหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้ข้าก็ไม่ใช่นักโทษอีกทั้งยังไม่ใช่เครื่องสังเวย หากพวกท่านยังไม่หยุดพูดจากเหลวไหล ผู้คุ้มกันหญิงเหล่านั้นที่ฮูหยินผู้นี้พามาไม่ใช่พวกไม่กินเนื้อ”

“ฮูหยินทุกท่าน วันนี้เป็นวันดีสำหรับฉาวอวี่ของข้า ข้าไม่ควรเป็นแขกที่แย่งบทบาทของเจ้าภาพ เพียงแต่ พวกท่านยังไม่เคยเห็นฉาวจิ่งน้อยของพวกเรากระมัง”

ขณะที่มู่ซืออวี่เอ่ยเช่นนั้น แม่นมก็พาลู่ฉาวจิ่งออกมา

ลู่ฉาวอวี่ถูกขโมยความสนใจ ทุกคนล้วนมีความรู้สึกซับซ้อนต่อสกุลลู่ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าในใจพวกเขาจะเป็นอย่างไร วันนี้พวกเขายังต้องชื่นชมสกุลลู่

ทันทีที่ลู่ฉาวจิ่งออกมา คำพูดดี ๆ เหล่านั้นก็โพล่งออกมาประหนึ่งไม่ต้องการค่าตอบแทน ความสนใจของทุกคนไปรวมอยู่ที่ลู่ฉาวจิ่ง บรรยากาศคุกรุ่นเหล่านั้นจึงจางหายไป

ฮูหยินอู่อันโหวมองมู่ซืออวี่

มู่ซืออวี่ยิ้มให้กำลังใจนาง

จิตใจของฮูหยินอู่อันโหวสงบลง

นางเองทราบดีว่าในยามเช่นนี้ไม่ควรไปโต้เถียงกับฮูหยินขุนนางเหล่านั้น เพราะรังแต่จะทำให้เรื่องราวซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะยามนี้ที่เซี่ยเฉิงจิ่นยังอยู่ที่ชายแดน หากฮูหยินขุนนางเหล่านั้นกลับไปเป่าหูข้างหมอน ภายหน้าหากถึงยามส่งเสบียงทหารเกิดจงใจใช้ลูกไม้อะไร เช่นนั้นจะยิ่งอันตรายต่อความปลอดภัยของเซี่ยเฉิงจิ่น อย่างไรก็ตาม นางเย่อหยิ่งมาเกินกว่าครึ่งชีวิตแล้ว หากอายุเท่านี้แล้วยังต้องมาอดทนอดกลั้นอีก นางจะทานทนได้อย่างไร?

“เซี่ยซื่อจื่อมีพรสวรรค์รอบด้าน รูปโฉมโนมพรรณยังกล่าวได้ว่าเป็นที่หนึ่งในเมืองหลวง ฮูหยินอู่อันโหวจะต้องมีวิธีการเลี้ยงดูลูกที่ดีเป็นแน่ ไม่สู้บอกวิธีเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ข้าสักสองสามวิธีเล่า” มู่ซืออวี่เอ่ย

“เจ้าเด็กคนนั้นมีอะไรดี?” ฮูหยินอู่อันโหวเอ่ยอย่างเศร้าใจ “ในเมืองหลวงก็ได้ชื่อว่าเป็นปีศาจน้อย ล้วนไม่ปรานีผู้ใด ไม่รู้ว่ามีคนเกลียดเขามากน้อยเพียงใด”

มู่ซืออวี่สนทนากับฮูหยินอู่อันโหวเรื่องการเลี้ยงดูบุตร

ไม่นานมานี้ฮูหยินอู่อันโหวยังกระตือรือร้นกับมู่ซืออวี่เป็นอย่างมาก ทว่าตอนนี้ที่บ้านเกิดเรื่องขึ้น วันนี้นางจึงพูดจาน้อยลง เห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการสร้างปัญหาให้สกุลลู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย