สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 645

บทที่ 645 อำนาจสำคัญถึงเพียงนั้น

บทที่ 645 อำนาจสำคัญถึงเพียงนั้น

ฟ่านเหยี่ยนขึ้นรถม้าด้วยสีหน้าอึมครึม

ผู้ติดตามเอ่ยแนะนำ “ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องโกรธ แต่ไหนแต่ไรมาสตรีก็คล้อยตามบุรุษมาโดยตลอด คุณหนูใหญ่ลู่ตอนนี้ยังดื้อรั้น หากวันหนึ่งท่านได้นั่งอยู่ในตำแหน่งนั้นแล้วต้องการรับนางเป็นสนม นางยังจะกล้ากล่าวปฏิเสธเชียวหรือ? ฮ่องเต้อยากให้ขุนนางตาย ขุนนางไม่อาจไม่ตาย ไม่ว่าแม่นางลู่จะดื้อรั้นเพียงใด นางคงต้องคิดถึงครอบครัวของนางกระมัง?”

“เจ้าพูดถูก ขอแค่เพียงข้าได้นั่งบนตำแหน่งนั้น แม้ว่านางไม่ยินยอมก็ต้องยินยอม ขอแค่นางเป็นสตรีของข้า ข้าสามารถให้ทุกอย่างที่นางต้องการได้ ท่านพ่อท่านแม่นางมีความสามารถเพียงนี้ ข้าสามารถมอบความมั่งคั่งและอำนาจที่มากกว่านี้ให้พวกเขาได้ พี่ชายของนางก็มีพรสวรรค์เช่นกัน ข้าย่อมไม่ปฏิบัติต่อเขาย่ำแย่ และจะต้องให้ความสำคัญกับเขาอย่างแน่นอน”

หลังจากรถม้าจากไป ลู่จื่ออวิ๋นก็ออกมาจากหอซือเป่าเช่นกัน

วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่นางจะรั้งอยู่ที่หอซือเป่าแล้ว

เดิมทีนางก็มาที่หอซือเป่าเพื่อเรียนรู้ทักษะฝีมือ บัดนี้นางได้เรียนรู้เกือบทั้งหมดแล้ว แม้กระทั่งทักษะพิเศษของท่านเจ้าหอและผู้ดูแลทั้งสองคนก็ยังได้เรียนรู้ครบถ้วน ในที่สุดนางก็สามารถกลับบ้านไปใช้เวลาอยู่กับครอบครัวของตนเองได้

ลู่จื่ออวิ๋นเปิดม่านออกและมองกลับไปทางหอซือเป่า

หยางเจิงยืนอยู่บนชั้นลอยและกำลังโบกมือให้นาง

หยางเจิงไม่เหมือนกับลู่จื่ออวิ๋น นางจำเป็นต้องรั้งอยู่ที่นี่เพื่อเลี้ยงดูครอบครัวของตนเอง

อันที่จริงลู่จื่ออวิ๋นยังคงเป็นลูกศิษย์ในนามของท่านเจ้าหอ หากท่านเจ้าหอต้องการความช่วยเหลืออะไร นางก็ไม่อาจเมินเฉยได้

“ท่านแม่…” ลู่จื่ออวิ๋นวิ่งเหยาะ ๆ เข้ามา

“คุณหนูใหญ่ ช้าลงหน่อยเจ้าค่ะ….” ติงเซียงไล่ตามหลังนางมาติด ๆ

“ข้าคิดถึงเสี่ยวชิงเอ๋อร์และฉาวจิ่งแล้ว”

“นับตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ท่านอยากดูอะไรก็ดูสิ่งนั้นได้ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเลยนะเจ้าคะ”

มู่ซืออวี่กำลังอาบแดดอยู่ในสวนหลังบ้าน นางมองแม่นมอุ้มเด็ก ๆ อาบแดดรับวิตามินอยู่

เมื่อได้ยินเสียงของลู่จื่ออวิ๋น มู่ซืออวี่ก็เอ่ยยิ้ม ๆ “กลับมาแล้วหรือ”

“ท่านแม่ เหตุใดข้าได้ยินข่าวลือว่าจวนเจียงมาทาบทามสู่ขอข้าเล่า?”

“ไม่ใช่ข่าวลือ เป็นเรื่องจริง ทว่าข้าปฏิเสธแล้ว” มู่ซืออวี่ลูบหัวลู่จื่ออวิ๋นเบา ๆ “เจ้ายังเด็กนัก อย่างน้อยยังต้องอยู่กับเราต่อไปอีกหลายปี อย่าได้รีบร้อนจากพ่อแม่เลย”

“พี่หญิง…” ลู่จื่อชิงกอดต้นขาของลู่จื่ออวิ๋นเอาไว้แน่น

ลู่จื่ออวิ๋นอุ้มนางขึ้นมาแล้วเอ่ยว่า “เสี่ยวชิงเอ๋อร์ พวกเราทุกคนล้วนต้องอยู่กับท่านพ่อท่านแม่ไปอีกนานแสนนาน นานจนกว่าพวกเขาจะเบื่อ”

“ต้องนาน ๆ” เสี่ยวชิงเอ๋อร์กะพริบตากลมโตของนาง พยักหน้าหงึก ๆ ด้วยท่าทีจริงจัง “อยู่กับท่านพ่อท่านแม่ ไม่แยกจากกัน”

“วันนี้เจ้าอ้วนน้อยข้างบ้านผู้นั้นมาเล่นกับเจ้า เจ้ากลับวิ่งหนีไปไม่แม้แต่ต้องการแม่ด้วยซ้ำ” มู่ซืออวี่จงใจเอ่ยล้อลู่จื่อชิง

“ไม่ใช่เจ้าอ้วน ไม่อ้วน…” ลู่จื่อชิงจ้องมองมู่ซืออวี่ “อย่าว่าสหายข้า เขามีชื่อ ชื่อ… ชื่อ…”

ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ยขึ้น “ข้าง ๆ มีเพื่อนบ้านย้ายมาใหม่หรือ?”

“ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้ตรวจการที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้ง” มู่ซืออวี่เอ่ย “เขาเพิ่งย้ายเข้ามาวันนี้ นายหญิงของบ้านมาส่งของขวัญให้เราด้วยตนเอง”

“ท่านพ่อดูเหมือนจะไม่ชอบผู้ตรวจการ”

“ขุนนางที่ท่านพ่อเจ้าไม่ชอบมีถมเถไป”

ไม่ว่าในราชสำนักจะเกิดคลื่นลมอะไร กิจการของมู่ซืออวี่ก็ยังคงเฟื่องฟู

นางยังสามารถทำการค้าได้อีกมากมายหลายอย่าง ทว่าตอนนี้นางไม่ได้มีความทะเยอทะยานใหญ่โตอะไรแล้ว นางเพียงแค่อยากดูแลกิจการที่มีในมือและดูแลลูกของนางให้ดีเท่านั้น

ตำแหน่งขุนนางของลู่ฉาวอวี่ได้ถูกจัดเตรียมไว้แล้ว

จากเงื่อนไขความสามารถของเขา เขาสามารถอยู่ในเมืองหลวงเป็นขุนนางในเมืองหลวงได้ แม้จะต้องเริ่มต้นจากขั้นที่หก

อย่างไรก็ตาม…

ตำแหน่งที่จัดเตรียมไว้ให้เขานั้นกลับต้องออกไปนอกเมือง

ทันทีที่รู้ข่าว มู่ซืออวี่ก็ปรี่มาที่ห้องตำราทันที ด้วยต้องการจะถามว่าสองพ่อลูกคู่นั้นกำลังเล่นอะไรอยู่กันแน่

“อธิบายมา” เมื่อมู่ซืออวี่ผลักประตูเข้าไป ผู้ที่อยู่ข้างในได้แก่ลู่อี้ ลู่ฉาวอวี่ เซี่ยคุน และเวินเหวินซง พวกเขาหยุดพูดคุยกันทันที

ทุกคนมองหน้ากันไปมา

ลู่อี้จึงกล่าวขึ้นว่า “ข้าจะคุยกับฮูหยิน พวกเจ้ากลับไปทำงานเถอะ!”

“อย่าได้คิดเฉไฉกับข้า ลู่ฉาวอวี่รั้งอยู่ก่อน” มู่ซืออวี่เหลือบมองลู่ฉาวอวี่ที่เติบใหญ่ขึ้นไม่น้อย เขาดูมีภูมิฐานน่าเชื่อถือยิ่งกว่าแต่ก่อน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย