สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 649

บทที่ 649 เลื่อนขั้นหลังจากความวุ่นวาย

บทที่ 649 เลื่อนขั้นหลังจากความวุ่นวาย

ทหารยามที่สับเปลี่ยนเวรมาล้วนเป็นคนของเจียงเก๋อเหล่าแทบทั้งสิ้น ผู้ที่ไม่ใช่ย่อมถูกลอบฆ่าไปแล้ว ทั้งหมดนี้เพื่อให้เป็นไปตามแผนอย่างราบรื่นโดยเร็วและเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีข้อผิดพลาดใด ๆ เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้

ทหารกลุ่มหนึ่งลอบเข้าไปในวังอย่างเงียบเชียบ

คนเหล่านี้ทะยานลงมาจากฟ้าประหนึ่งเทพเซียน

อย่างไรก็ตาม หากเข้าไปมองใกล้ ๆ จะพบว่าพวกเขาใช้บางสิ่งที่คล้ายกับว่าวบินข้ามข้ามกำแพงวังหลวงโดยไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น

“ใต้เท้าฉีช่างเชื่อใจฮูหยินของข้าจริง ๆ” ลู่อี้เหลือบมอง ‘ปีก’ ของฉีเซียว

ฉีเซียวเก็บของกลับไป จากนั้นจึงหันไปมองลู่อี้ “พรสวรรค์ของฮูหยินลู่เป็นที่รู้กันดีทั่วหล้า ทำไมเล่า? ใต้เท้าลู่ไม่เชื่อใจฮูหยินตนเองหรือ?”

“แน่นอนว่าข้าย่อมเชื่อใจฮูหยินของข้า เพียงแต่แต่ไหนแต่ไรมา ข้าก็ไม่คิดนำเรื่องเหล่านี้ไปทำให้นางหนักใจ ฉะนั้นข้าจึงไม่เคยให้นางเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องในราชสำนัก”

“ถึงแม้ฮูหยินจะเป็นสตรี นางก็อยากทำสิ่งที่มีความหมายเหล่านี้ สำหรับนางแล้ว หากนางสามารถช่วยท่านได้ย่อมไม่รู้สึกว่าเรื่องเหล่านี้น่าหนักใจ คงจะรู้สึกว่าตนเองมีค่าเป็นอย่างยิ่งมากกว่า”

สิ้นคำ ฉีเซียวก็ตบลงบนไหล่ลู่อี้เบา ๆ

“ไม่เป็นไร ท่านไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร ฮูหยินจะได้มีอิสระเสรีในการสร้างอาวุธลับที่เป็นประโยชน์ให้หน่วยลับของเราสักหน่อย”

“ฝันไปเถอะ รอเรื่องนี้จบลงแล้ว ข้าจะบอกฮูหยินของข้าให้สร้างมันให้กับศาลต้าหลี่ของเรา ไม่ใช่สร้างให้หน่วยลับของพวกท่าน!”

จำนวนคนที่ใช้ ‘ปีก’ บินเข้ามาในวังหลวงมีมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาปรากฏกายด้านหลัง ‘ฝ่ายกบฏ’ โดยไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น จากนั้นจึงค่อย ๆ จัดการคนพวกนั้นไปอย่างเงียบเชียบ

“ฮูหยินลู่คิดได้อย่างไร? ของสิ่งนี้มีประโยชน์จริง ๆ!”

“ชู่ว วันนี้เป็นการต่อสู้ที่หนักหน่วง อย่าได้วอกแวก”

ภายในพระตำหนัก มือฮ่องเต้ชราหยิบพู่กันขึ้นมา

นานเพียงใดแล้วที่เขาไม่ได้ตรวจฎีกา?

นานเพียงใดแล้วที่เขาไม่ได้แตะพู่กัน?

เหตุใดพู่กันด้ามนี้ถึงได้หนักนัก ดูเหมือนเพียงแค่จรดปลายพู่กันลงไปเส้นเดียวก็เหนื่อยจนไม่อาจเขียนอะไรต่อได้แล้ว

“เขียน!” เจียงเก๋อเหล่าเฝ้ามองอยู่ข้าง ๆ

ฮ่องเต้ชราจ้องมองเจียงเก๋อเหล่าด้วยสายตาโกรธแค้น “เจียงหรูจิ้ง เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่าผู้ใดให้สถานะในยามนี้แก่เจ้า? หากไม่ใช่เพราะข้า เจ้าจะมีวันนี้หรือ!”

“หากไม่ใช่เพราะข้า ฝ่าบาทจะมีวันนี้หรือไม่?” เจียงเก๋อเหล่าเย้ยหยัน “ทรงลืมไปแล้วหรือว่าตนเองได้บัลลังก์มาได้อย่างไร? ตอนนั้นมีคนจะลอบสังหารฝ่าบาท หากไม่ได้ข้าเข้าขวางลูกศรแทน ฝ่าบาทจะรุ่งโรจน์เพียงนี้หรือ? สิ่งที่ติดค้างข้าไว้ วันนี้ถึงเวลาชดใช้แล้ว นอกจากนี้ อย่างไรพระองค์ก็ไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับงานราชการอยู่แล้ว ยกตำแหน่งฮ่องเต้ให้ผู้เยาว์เถิด แล้วข้าจะหาคนที่งดงามยิ่งกว่านี้มาให้”

ตุ้บ! เกิดเสียงต่อสู้ดังขึ้นจากด้านนอก

เมื่อฮ่องเต้ชราได้ยินเสียงนั้น มือของเขาพลันสั่นเทา คราบหมึกจำนวนมากหยดลงบนราชโองการ

ข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์ของเจียงเก๋อเหล่าพาดดาบลงบนคอของฮ่องเต้ชรา “รีบเขียน”

“อย่าได้เสียมารยาทต่อฮ่องเต้” เจียงเก๋อเหล่าเอ่ย “ข้างนอกไม่มีผู้ใดบุกเข้ามาได้ ให้เขาค่อย ๆ เขียนเถิด ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล เก๋อเหล่าผู้นี้ยังมีเวลาเหลือเฟือ”

“อย่างนั้นหรือ?” เสียงของลู่อี้ดังขึ้น

ตุ้บ! คนผู้หนึ่งถูกเตะกระเด็นออกไป

เซี่ยคุนคอยเปิดทางอยู่ด้านหน้าให้ลู่อี้เดินเข้าไปในพระตำหนัก

“ลู่อี้?” สีหน้าของเจียงเก๋อเหล่าเปลี่ยนเป็นตกตะลึง “เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร? เหตุใดเจ้า… ไม่ เป็นไปไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าข้าเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีแล้ว ทุกอย่างล้วนอยู่ในแผนของข้า”

“ท่านโฉดชั่วราวกับหมาป่า หน่วยลับสังเกตเห็นตั้งนานแล้วว่าท่านมีบางอย่างผิดปกติจึงได้ส่งคนคอยจับตาดูท่าน พวกเราได้หารือกับฝ่าบาท แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเรื่องที่ท่านคิดจะกบฏ และรอให้ท่านเผยช่องโหว่ออกมา”

ขณะที่ลู่อี้เอ่ย เขาก็คุกเข่าลงต่อหน้าฮ่องเต้ชรา “กระหม่อมมาช้า ฮ่องเต้โปรดอภัย”

ฮ่องเต้ชราเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเทา “ขุนนางที่รักรีบลุกขึ้นเถิด เจ้ามาได้ทันการพอดี รีบจับกบฏผู้นี้ไปเร็วเข้า!”

ข้ารับใช้ของเจียงเก๋อเหล่าจ่อดาบเข้าไปใกล้คอของฮ่องเต้ “อย่าเข้ามา!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย