สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 660

บทที่ 660 ผู้ใดส่งของขวัญมา

บทที่ 660 ผู้ใดส่งของขวัญมา

“คุณหนู ท่านไม่เปิดดูหรือเจ้าคะ?” ติงเซียงเอ่ยถาม

“ยังไม่เปิด รอรับรองแขกเสร็จแล้วค่อยเปิด” สิ้นคำ ลู่จื่ออวิ๋นก็หันไปเอ่ยกับบ่าวรับใช้ข้าง ๆ “เก็บทั้งหมดไว้ก่อน ดูแลให้ดี ขาดไปไม่ได้แม้แต่กล่องเดียว

“เจ้าค่ะ”

พิธีปักปิ่นซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ลู่อี้จะไม่อยู่ แต่ขั้นตอนสำคัญก็ยังคงต้องทำให้สำเร็จลุล่วง

ลู่เซวียนในฐานะท่านอารอง ย่อมต้องอยู่ที่นี่ในพิธีสำคัญเช่นนี้

ผู้ช่วยในพิธีปักปิ่นคือเจียหลิ่งหลง ผู้มอบปิ่นคือซูจือหลิ่ว ผู้อาวุโสที่เข้าร่วมพิธีมีไม่น้อย ล้วนแต่เป็นคนมีหน้ามีตา

แน่นอนว่าเซี่ยคุนก็พาอันอวี้มาแล้วเช่นกัน ในชีวิตของลู่จื่ออวิ๋น พวกเขาก็เป็นผู้อาวุโสที่มีความสำคัญยิ่ง

ตามหลักเหตุผลแล้ว ผู้อาวุโสที่เข้าร่วมพิธีต้องเป็นญาติสนิทมิตรสหายของครอบครัว ทว่าพวกเขาเพิ่งมาถึงเมืองซานหลินจึงไม่รู้จักคนมากนัก ไม่มีผู้อาวุโสที่มีมิตรไมตรีต่อกัน ดังนั้นมู่ซืออวี่จึงเชิญผู้อาวุโสในท้องถิ่นที่มีครอบครัวรักใคร่ปรองดองมา ผู้อาวุโสที่มีชีวิตสงบสุขประสบความสำเร็จ เพียบพร้อมไปบุตรชายบุตรสาวมาเข้าร่วมพิธี

ผู้ที่ได้เข้าร่วมพิธีปักปิ่นในวันนั้น หลายปีให้หลังยังคงภาคภูมิใจที่ได้เข้าร่วม อย่างไรเสียเจ้าของพิธีปักปิ่นในครั้งนั้นก็โดดเด่นเป็นอย่างมาก ต่อมาภายหลังสถานะยิ่งสูงศักดิ์ขึ้น ผู้ที่เข้าร่วมงานล้วนได้เป็นขุนนางใหญ่โตหรือได้แต่งงานเข้าสกุลผู้สูงศักดิ์ แต่ละคนล้วนพิเศษยิ่ง

แน่นอนว่านั่นเป็นเรื่องในภายหลัง

พิธีปักปิ่นซับซ้อนเป็นอย่างมาก ทุกคนล้วนจริงจัง ไม่ต้องการให้พิธีคัญนี้มีอะไรผิดพลาด

เพราะนี่ถือเป็นการอวยพรต่อการเติบโตของหญิงสาว

เมื่อลู่จื่ออวิ๋นเปลี่ยนไปสวมชุดใหม่ อีกทั้งยังเกล้าผมขึ้น ทุกคนต่างมองแม่นางน้อยด้วยความปลื้มปีติยินดี

“ครั้งแรกที่พบ นางยังเป็นเด็กน้อยผู้หนึ่งอยู่เลย บัดนี้เป็นหญิงสาวแล้ว” ฮูหยินเจี่ยเอ่ย “เมื่อวาน ยามที่ข้ามองดูตนเองในกระจก ผมบนขมับข้าเริ่มขาวเล็กน้อย ข้าจำต้องยอมรับวัยตนเองแล้วจริง ๆ ไม่เหมือนน้องหญิงผู้ที่ยังคงมีชีวิตชีวาเหมือนอย่างเมื่อก่อน”

มู่ซืออวี่เอ่ยยิ้ม ๆ “พี่หญิงแก่ที่ใดกัน? หากพวกเราออกไป ผู้อื่นคงยังคิดว่าข้าเป็นพี่สาว ท่านเป็นน้องสาว”

“ข้ารู้ว่าท่านเพียงพูดจาเหลวไหล แต่ก็ยังคงเชื่อสิ่งที่ท่านกล่าว” ฮูหยินเจี่ยหัวเราะออกมา

“ข้าเพียงแต่กล่าวความจริง” มู่ซืออวี่เอ่ย “เสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์ตอนยังเล็กยากลำบากยิ่งนัก จากนั้นทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ ข้าแทบอยากจะคว้าดาวบนฟ้ามาให้นาง ท่านดูนางสิ ท่าทีสง่างามเปล่งประกาย ข้ายังคิดว่าเร็วเกินไป แต่บุตรสาวเติบใหญ่แล้ว อยู่กับพวกเราได้อีกไม่กี่ปีเท่านั้น”

“ใต้เท้าลู่ครอบครัวท่านมีข่าวมาบ้างหรือไม่?”

“ข้าได้รับจดหมายจากเขาอยู่บ่อยครั้ง ทางนั้นคงราบรื่นทีเดียว”

“ท่านไม่รู้ ท่านนั้นในบ้านข้าแต่ละวันล้วนเฝ้ารอให้ใต้เท้าลู่กลับมา หากใต้เท้าลู่ยังไม่กลับมา คนของพวกเขาคงลำบากยิ่ง แต่โชคยังดี ใต้เท้าลู่เซวียนและใต้เท้าเวินผู้นั้นยังคงปกป้องเขา แต่ละวันเหตุการณ์ล้วนพลิกผลันไปมา นับว่าน่ากลัวแต่ไม่อันตรายใด ๆ เฮ้อ ข้าไม่เข้าใจเรื่องในราชสำนัก พอเห็นเขาหวาดผวาเช่นนี้ทุกวัน ข้าทุกข์ใจจริง ๆ”

“นับ ๆ ดูแล้ว ตอนนี้ลู่อี้ก็ถึงอาณาจักรเหลียงได้สักพัก” มู่ซืออวี่เอ่ย “ข้าเองก็รอการกลับมาของเขาทุกวันเช่นกัน ทว่าเขาอยู่ข้างนอก ผู้ใดจะรู้ว่าต้องเผชิญความยุ่งยากอะไรหรือไม่ ข้าไม่รีบร้อนให้เขากลับมา หวังเพียงแต่ว่าเขาจะปลอดภัย”

“สตรีเราไม่ได้ทะเยอทะยานเช่นบุรุษอย่างพวกเขาที่ต้องการทำเรื่องใหญ่โต เราเพียงแค่ต้องการให้ครอบครัวมีชีวิตที่สงบสุข อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาไม่แยกจากกัน จริงสิ ได้ยินว่าสกุลเจียงและสกุลโม่ล้วนมาหยั่งเชิงท่าทีของท่าน เพราะต้องการสู่ขอลูกสาวบ้านพวกท่าน สองสกุลนี้ล้วนดีเยี่ยม หนุ่มน้อยทั้งสองล้วนเป็นยอดฝีมือ ท่านคิดอย่างไร?”

มู่ซืออวี่มองเจียงหว่านเฉินและโม่ชิงเหยียน “เด็กหนุ่มสองคนนี้เยี่ยมยอดจริง ๆ หน้าตาก็ดี มีความสามารถ อีกทั้งยังนิสัยดีด้วย เขาใส่ใจความรู้สึกลูกสาวบ้านเรา เพียงแต่… ต้องให้ลูกสาวข้าชอบเสียก่อนจึงจะใช้ได้ ชีวิตคนจะว่ายาวก็ยาวจะว่าสั้นก็สั้น แต่ไม่อาจทำให้แล้ว ๆ ไปได้”

“ครอบครัวพวกท่านรักลูกสาว หากเป็นครอบครัวอื่น คงต้องชั่งน้ำหนักว่าสกุลใดจะให้ผลประโยชน์ดีที่สุดเป็นแน่”

“หากเป็นท่าน ท่านยินดีหรือ? เอ่ยราวกับท่านไม่สนใจลูกสาวท่านอย่างไรอย่างนั้น ข้าจะคอยดูว่าหากถึงเวลาหลิงหลงของพวกท่านเอ่ยเรื่องแต่งงาน ท่านจะยังคิดตกอยู่หรือไม่”

หลังจากพิธีปักปิ่นเสร็จสิ้นแล้ว ลู่จื่ออวิ๋นก็ไปกล่าวทักทายพี่หญิงน้องหญิงรุ่นราวคราวเดียวกัน ขณะที่ลู่เซวียนรับหน้าที่รับรองแขกฝ่ายชาย

มู่ซืออวี่ยังคงจัดงานเลี้ยงแบบเลือกทานได้ตามใจชอบเหมือนเมื่อก่อน มีพ่อครัวคอยทำอาหารถึงสิบกว่าคน ผู้ใดสนใจสิ่งใดก็ทานสิ่งนั้น ข้าง ๆ มีขนมที่ทำเสร็จใหม่ ๆ ไม่น้อย เช่น เค้ก ทาร์ตไข่ และขนมอื่น ๆ ที่คนในเมืองซานหลินไม่เคยเห็นมาก่อน ส่วนเครื่องดื่มนั้น นอกจากสุราและเหล้าองุ่นแล้ว ยังมีเครื่องดื่มค็อกเทลอย่างอื่นด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย