สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 666

บทที่ 666 ผู้ที่ลงมือก็คือเขา

บทที่ 666 ผู้ที่ลงมือก็คือเขา

เมืองหลวง จวนเซวียนอ๋อง

เซวียนอ๋องอ่านรายงานที่ส่งมาจากเมืองซานหลินแล้วเอ่ยขึ้น “นี่ไม่ถูกต้อง”

ที่ปรึกษาที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยถาม “มีอะไรผิดปกติหรือขอรับ?”

“ลู่อี้หายตัวไป กระทั่งบัดนี้ยังไม่มีข่าวคราว ข้าส่งคนไปจับตาดูสกุลลู่ หากเกิดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ภายในสกุลลู่ ข้าจะถือโอกาสนี้เข้าควบคุมพวกเขา โดยเฉพาะสมบัติเหล่านั้นของฮูหยินลู่ หากคว้ามาไว้ในกำมือได้ ไม่ว่าจะต้องการทหารม้า หรืออาวุธยุทโธปกรณ์มากน้อยเพียงใดล้วนไม่เป็นปัญหา ทว่า จูเหนิงกลับเขียนในรายงานว่า ‘ทุกอย่างเป็นปกติ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง’ ฮูหยินลู่สงบนิ่งได้ถึงเพียงนี้ หรือว่านางจะรู้ที่อยู่ของลู่อี้?”

“ท่านอ๋อง ขออภัยที่ข้าน้อยต้องเอ่ยตามตรง ทว่าไม่มีผู้ใดรู้ที่อยู่ลู่อี้ดีไปกว่าพวกเรา หน่วยกล้าตายที่เราส่งออกไปนั้นเข้าแทรกซึมในขบวนของลู่อี้ ใช้ความพยายามไปไม่น้อยจึงได้รับความไว้วางใจจากเขา ไม่ว่าลู่อี้จะฉลาดเพียงใด เขาก็คงนึกไม่ถึงว่าคนข้างกายเขาจะเป็นผู้ที่ทำให้เขาตาย ลู่อี้ตกลงไปในทะเล อีกทั้งยังเป็นช่วงที่เกิดคลื่นยักษ์พอดี ท่านอ๋องไม่เคยเห็นความน่าหวาดผวาของคลื่นยักษ์มาก่อน คงไม่รู้ถึงความน่ากลัวของมัน ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางที่ลู่อี้จะรอดชีวิต การที่ฮูหยินลู่ไม่มีท่าทีผิดปกติ นั่นหมายความว่านางยังไม่ทันได้เห็นศพของสามีก็เท่านั้นจึงยังเฝ้ารอคอยให้เกิดปาฏิหาริย์ แต่ในสถานการณ์เช่นนั้นจะมีปาฏิหาริย์ได้อย่างไรเล่า? รอดูเถิด อีกไม่นานสกุลลู่ก็จะได้รู้ว่าลู่อี้ไม่มีวันกลับมาแล้ว ถึงตอนนั้น…”

สกุลลู่จะต้องเปลี่ยนแปลงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง อีกทั้งพวกเขายังมีเหตุผลมากมายที่จะยึดทรัพย์สินของมู่ซืออวี่เป็น ‘ทรัพย์สินของผู้ทรยศ’ จากนั้นก็นำมันมาไว้ในมือของพวกเขาเอง

“ข้าเคยบอกแล้ว เรื่องนี้ไม่อาจให้ผู้ใดรู้ ในสายตาของผู้อื่น ลู่อี้ทรยศราชวงศ์เรา สมคบคิดกับคนของอาณาจักรเหลียง ท้ายที่สุดจึงถูกคนของอาณาจักรเหลียงฆ่าปิดปาก ยังมีฮูหยินลู่… หวังว่าจะใช้สอยนางได้ ทั่วทั้งสกุลลู่ สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดไม่ใช่ทรัพย์สินของฮูหยินลู่ แต่เป็นฮูหยินลู่ผู้นี้ เมื่อถึงเวลาหากข้าออกหน้าช่วยคนอื่น ๆ ของสกุล ฮูหยินลู่ย่อมต้องกลายมาเป็นมีดที่คมที่สุดในมือข้า”

“ท่านอ๋องวางใจ หากนางเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้จะต้องยอมให้ท่านอ๋องได้ใช้สอยอย่างแน่นอน นางเป็นมารดาผู้หนึ่ง ย่อมไม่ได้คำนึงถึงตนเอง หากแต่จะคำนึกถึงลูกชายและลูกสาวของตน โดยเฉพาะคุณหนูใหญ่ลู่ นางมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จัก ยามนี้ตำแหน่งขุนนางของลู่อี้ใหญ่โต ผู้ที่มีความคิดต่อนางเหล่านั้นย่อมไม่กล้าเอารัดเอาเปรียบ แต่หากลู่อี้จากไปแล้ว สกุลลู่ย่อมสูญเสียอำนาจ เช่นนั้นนางก็จะกลายมาเป็นของเล่นของบุรุษ…”

“ข้าเคยบอกหรือไม่ คนในสกุลลู่ที่ไม่ควรแตะต้องมากที่สุดคือลู่จื่ออวิ๋น” เซวียนอ๋องมองที่ปรึกษาด้วยสีหน้าเยือกเย็น

ที่ปรึกษารีบยอมรับความผิดอย่างรวดเร็ว “ข้าน้อยผิดไปแล้ว ท่านอ๋อง เพียงแค่ท่านได้นั่งตำแหน่งนั้น ท่านต้องการสตรีเช่นใดจะเอามาไม่ได้เชียวหรือ? เช่นนั้น คุณหนูสกุลลู่จะต้องเป็นพระสนมของท่าน”

“สิ่งที่ข้าต้องการคือหัวใจของนาง!” หากได้มาเพียงร่างกายของนางจะมีประโยชน์อะไร? นั่นเป็นแค่เพียงเปลือกนอก! เขาอยากให้นางยิ้มให้ ยิ้มให้เขาเพียงคนเดียวเท่านั้น!

“ท่านอ๋องเก่งกาจรอบด้าน สตรีทั่วทั้งใต้หล้าล้วนถูกท่านอ๋องดึงดูดใจ ต้องการชนะใจสตรีเพียงผู้เดียวไม่ง่ายดายหรือ? มีองค์ชายพึงใจ ทั้งยังยินดีมอบความโปรดปรานให้นาง นั่นนับเป็นเกียรติเป็นอย่างสูงแล้ว”

“เจ้าทำให้ข้าสุขใจยิ่งนัก”

ณ เมืองซานหลิน มู่ซืออวี่ตรวจดูสมุดบัญชีที่ส่งมาจากเมืองฮู่เป่ย จากนั้นดูสมุดบัญชีที่ส่งมาจากเรือนพักผ่อนบนภูเขาและเรือนกรุ่นฝันในเมืองหลวง นางวางมันลงแล้วเอ่ยอย่างเย้ยหยัน

“ภาษีการค้าของปีนี้เลวร้ายลงเช่นเคย! นี่คิดจะกินรวบทรัพย์สินของฮูหยินผู้นี้หรืออย่างไร?”

“มีเพียงพวกเราเท่านั้นหรือ?” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ยถาม

“ผิวเผินอาจดูเหมือนว่าภาษีการค้าปรับปรุงแล้ว ไม่ได้พุ่งเป้ามาที่เรา ทว่ามองจากความเป็นจริง พวกเรากลับสูญเสียมหาศาล อันที่จริงข้าไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยกับเงินเพียงแค่นี้ จ่ายภาษีให้ราชสำนักเป็นเรื่องปกติ อย่างไรเสีย ราชสำนักก็ต้องดูแลราษฎรมากมายมหาศาล แต่ข้าโกรธเพราะอีกฝ่ายกินได้ตะกรุมตะกรามเกินไป เห็นได้ชัดว่ากำลังเพ่งเล็งข้า พยายามฉกชิงอาหารไปจากมือข้า นี่ทำให้คนไม่พอใจแล้ว”

“ในเมื่อพวกเขาคิดจะขโมยถ้วยข้าวครอบครัวพวกเราไป เช่นนั้นพวกเราไม่สู้มอบข้าวถ้วยนี้ให้ผู้อื่นเล่า อย่างเช่นราษฎรธรรมดาที่ต้องการความช่วยเหลือ รวมถึงเด็กกำพร้าและแม่ม่ายเหล่านั้นที่ไร้ญาติมิตรให้พึ่งพิงเนื่องจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและภัยพิบัติจากมนุษย์”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย