สรุปเนื้อหา บทที่ 734 สุราครบเดือน – สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย โดย Internet
บท บทที่ 734 สุราครบเดือน ของ สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย ในหมวดนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 734 สุราครบเดือน
บทที่ 734 สุราครบเดือน
ลู่เซวียนมีความสุขมากที่ได้ลูกแฝด สุราครบเดือนย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยง ด้วยเหตุนี้เขาจึงจัดงานใหญ่ขึ้นอีกครั้ง
ซ่างกวนจิ่นซิ่วติดตามฟ่านหยวนซีมาร่วมความครึกครื้นด้วย
แขกฝ่ายบุรุษมีลู่เซวียนและลู่อี้คอยรับรอง ส่วนแขกฝ่ายสตรีมีซูจือหลิ่วที่เป็นนายหญิงของบ้านและมู่ซืออวี่คอยรับรอง
บัดนี้สกุลลู่เปี่ยมอำนาจ แม้ภายในใจทุกคนจะรู้สึกอิจฉาตาร้อนริษยาซูจือหลิ่ว แต่ก็ไม่กล้าทำลายบรรยากาศของงาน อย่างไรเสีย โลกนี้ก็ไม่เคยขาดคนที่ทำให้หมดสนุกและคนผู้นั้นก็คือซูฟางหวา
การปรากฏตัวของเซวียนหวางเฟยซูฟางหวาทำให้บรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาทันที
นางไม่ได้มาเพียงลำพัง แต่ยังพาฟ่านซู่ บุตรชายเพียงคนเดียวของเซวียนอ๋อง หรือก็คือลูกที่จ้าวอวิ๋นซวงให้กำเนิดผู้นั้นมาด้วย
มู่ซืออวี่อยากจะเห็นลูกที่พระเอกและนางเอกให้กำเนิด หลังจากมองดูสองสามครั้ง นางก็พบว่าเป็นเด็กน้อยหน้าตาดีทีเดียว ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นทั้งที่อายุยังน้อยแท้ ๆ แต่ยามตอบคำถามผู้อื่นกลับสุภาพยิ่ง ดูค่อนข้างเฉลียวฉลาดทีเดียว
ซูฟางหวาเคาะลงบนโต๊ะ
จากนั้นฟ่านซู่ก็ยกน้ำชามา
ซูฟางหวาพูดคุยกับสตรีสูงศักดิ์ที่อยู่ข้าง ๆ นางโดยไม่ได้สนใจฟ่านซู่อีก
มู่ซืออวี่และซูจือหลิ่วหันมามองหน้ากัน
คนผู้นี้ป่วยกระมัง?
ต่อหน้าสตรีสกุลขุนนางบุ๋นบู๊ นางยังวางมาดแม่เลี้ยงเช่นนี้ พฤติกรรมดังกล่าวไม่ดูต่ำไปหน่อยหรือ
อย่างไรก็ตาม ซูฟางหวาผู้นี้เป็นเพียงองค์หญิงที่ไม่เป็นที่โปรดปรานผู้หนึ่ง ชีวิตก่อนแต่งงานของนางเทียบไม่ได้กับบุตรสาวขุนนางขั้นเจ็ด จึงกลายเป็นคนใจคอคับแคบอย่างช่วยไม่ได้
ถ้วยชาค่อนข้างร้อน แม้ว่าเด็กน้อยจะได้รับการฝึกฝนให้อดทน ทว่ายามนี้ก็ยังแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมา
“ท่านนี้คือบุตรชายของท่านอ๋องเซวียนกระมัง?” ซูจือหลิ่วเอ่ยขึ้นมาเบา ๆ “ที่นี่มีแต่ผู้ใหญ่เต็มไปหมด เขาเป็นเพียงเด็กคนเดียวรั้งอยู่คงน่าเบื่อยิ่งนัก ปล่อยให้เขาไปเล่นกับเด็กคนอื่น ๆ เถอะ! เด็ก ๆ พาคุณชายน้อยออกไปเล่นเถอะ”
ซูฟางหวาราวกับเพิ่งนึกถึงฟ่านซู่ขึ้นมาได้ นางรับถ้วยชาแล้วเอ่ยเสียงเย็น “เจ้าไปเถอะ!”
ฟ่านซู่โค้งคำนับแล้วถอยออกไป
“บุตรชายเซวียนอ๋องผู้นี้ไม่เลวจริง ๆ ภายหน้าย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน”
“น่าเสียดาย…”
ทุกคนล้วนเข้าใจว่า ‘น่าเสียดาย’ นี้หมายถึงอะไร
น่าเสียดายที่เขาไม่ได้เกิดจากภรรยาเอก อีกทั้งบัดนี้ยังต้องถูกแม่เลี้ยงสอนสั่ง หากมีสถานะสูงขึ้นอีกหน่อย องค์หญิงผู้ไม่เป็นที่โปรดปรานนางนี้ยังจะทำอะไรเขาได้?
งานเลี้ยงสกุลลู่ไม่เคยทำให้คนผิดหวัง
ผู้หนึ่งคือหวางเฟย ผู้หนึ่งคือฮองเฮา หากยังทะเลาะต่อไปเรื่อย ๆ ทุกคนที่อยู่ตรงนี้คงต้องอึดอัดใจเป็นแน่
“ใช่ ๆ รีบพาฮั่วเอ๋อร์และหลีเอ๋อร์ออกมาให้ทุกคนได้ดูเถิด” มู่ซืออวี่เอ่ย “พวกท่านยังไม่รู้กระมัง? ลูกของนายท่านรองลู่กับฮูหยินรองลู่ชื่อลู่จื่อฮั่วและลู่ฉาวหลี พวกท่านไม่เคยเห็นหน้าตาของเสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์และฉาวอวี่ตอนยังเล็ก วันนี้ได้พบพวกเขา พวกท่านก็จะนึกออกเอง เพราะหน้าตาเหมือนกันราวกับแกะ”
“โอ้ ก่อนหน้านี้พวกเรายังเสียดายที่แม่นางน้อยที่น่ารักทั้งยังเฉลียวฉลาดอย่างคุณหนูใหญ่ลู่มีเพียงผู้เดียว เพราะหากมีอีกสักสองสามคน ทุกคนคงไม่ต้องเบียดเสียดแย่งชิงถึงเพียงนี้ ไม่นึกว่าคิดสิ่งใดก็จะได้สิ่งนั้นจริง ๆ ฮูหยินรองลู่ ที่บ้านข้ามีลูกชายภรรยาเอกอายุหนึ่งขวบ ไม่เช่นนั้นท่านลองพิจารณาเขาหน่อยเป็นอย่างไร?”
สตรีที่อยู่ข้าง ๆ ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ยิ้มแย้มพลางต่อว่า “ไร้ยางอาย! พวกเราผู้ใดไม่มีบุตรชายของภรรยาเอกบ้าง แม้พวกเราจะไม่มีบุตรชายของภรรยาเอกก็ยังมีบุตรสาว! เด็กสองคนนั้นเพิ่งอายุได้หนึ่งเดือน ท่านก็ดีดลูกคิดรางแก้วแล้วหรือ เป็นแผนที่ดีเสียจริง ทว่าแม้ท่านฉลาด พวกเราก็ไม่ได้โง่เขลา ฮูหยินรองลู่ ท่านอย่าไปฟังนาง รอให้เด็ก ๆ เติบใหญ่แล้วค่อยปล่อยให้พวกเขาได้เลือกเองเถอะ”
เดิมทีเป็นแค่เพียงการเปลี่ยนหัวข้อเพื่อไม่ให้สถานการณ์น่าอึดอัดเมื่อครู่นี้ดำเนินต่อไป ทว่าหลังจากเอ่ยเรื่องนี้ขึ้น เหล่าสตรีสูงศักดิ์ยิ่งพูดก็ยิ่งอ่อนไหว ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าความคิดเช่นนี้ถูกต้อง
ลูกของบ้านใหญ่สกุลลู่นั้นพวกเขาไม่กล้าอาจเอื้อม ไม่ต้องเอ่ยถึงลู่จื่ออวิ๋นและลู่ฉาวอวี่ หากต้องบรรยายถึงพวกเขา ผู้หนึ่งเปรียบเสมือนอาทิตย์กลางท้องฟ้า อีกผู้หนึ่งก็คงเปรียบเสมือนจันทรากระจ่างยามค่ำคืน ทั้งสองคนสูงส่งไม่อาจไขว่คว้า แม้กระทั่งผู้ที่อายุมากกว่า ยามเผชิญหน้ากับฝาแฝดคู่นี้ยังรู้สึกกดดันเป็นอย่างยิ่ง
ลู่จื่อชิงและลู่ฉาวจิ่ง ฝ่ายแรกเป็นเด็กซุกซนชื่อเสียงเลื่องลือในเมืองหลวง เด็กน้อยที่เคยพบเห็นนาง ไม่ว่าจะแก่กว่าหรืออ่อนกว่า ไม่มีแม้เพียงผู้เดียวที่ไม่ถูกนางทำให้ร้องไห้
ไม่นานมานี้ ในที่สุดก็ได้พบกับปีศาจร้ายอีกผู้หนึ่ง อีกฝ่ายอายุมากกว่านางสิบปี อีกทั้งยังมีสมองที่ชาญฉลาด ปกติแล้วเป็นคนใจกว้างผู้หนึ่ง คำพูดเพียงสองสามคำของนางย่อมหลอกเขาไม่ได้ เมื่อลู่จื่อชิงพบว่าตนไม่ใช่คู่ต่อกรของอีกฝ่าย นางก็นั่งลงกับพื้นทันที ร้องห่มร้องไห้ราวกับถูกรังแก ไม่นานหลังจากนั้น ลู่อี้และบิดาของปีศาจน้อยก็มาถึง สุดท้ายปีศาจน้อยที่มีใบหน้าภาคภูมิผู้นั้นจึงถูกพ่อของเขาตีก้น
บิดาของจอมแสบผู้นั้นก็เป็นผู้ที่รักและถนอมบุตรเช่นกัน ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่เลี้ยงดูปีศาจน้อยผู้หนึ่งออกมาได้ อย่างไรก็ตามครั้งนี้เขาต้องตีลูก ไม่เห็นหรือว่าใบหน้าของท่านอัครมหาเสนาบดีลู่ถมึงทึงเพียงใด? แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้เอ่ยอะไร ทว่ากลับเอาแต่จ้องบุตรชายของเขาราวกับต้องการขูดเนื้อหนังเขาออกมาเป็นชิ้น ๆ หากชักช้ายิ่งกว่านี้ เกรงว่าบุตรชายเขาคงได้เข้าใจความโหดร้ายของชีวิตในไม่ช้า
บ่าวรับใช้พาฝาแฝดน้อยออกมา
ส่วนผู้ที่ออกมาพร้อมกันกับฝาแฝดน้อยคือลู่จื่ออวิ๋นและลู่ฉาวจิ่ง
เหล่าสตรีล้วนล้อมกันเข้ามาดูฝาแฝดที่โดนอุ้มไว้ด้วยความสนใจใคร่รู้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะแอด รบกวนอัพแอดตอนต่อไปด้วยนะคะ...
แอดรบกวนอับตอนที่ 994 ใหม่หน่อยค่ะ เพราะไม่เนื้อหา มีแค่ตอนมาอย่างเดียว เป็นตอนที่กำลังสนุกเลยแอด รบกวนหน่อยน้าาาาาา...
ไม่นะๆๆ เราจองน่องให้ฉาวอวี่น๊า...
เข้าใจสอน เรืดๆๆ...
แอด รออัพเดทตอนต่อไปน๊าาาาาพลีสสสสสสส...
ท่านแม่สอนลูกดีมากเลย...