สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 739

บทที่ 739 ฝ่าบาทกำลังเหน็ดเหนื่อย

บทที่ 739 ฝ่าบาทกำลังเหน็ดเหนื่อย

หลีเซียงมองดูรอยยิ้มไร้เดียงสาของพระนางฮองเฮา พลันรู้สึกอ่อนใจขึ้นมาเล็กน้อย

ฮองเฮาเข้าใจความน่ากลัวยามพิโรธของฮ่องเต้จริงหรือไม่?

โชคดีที่ฝ่าบาทดูเหมือนไม่ได้ใส่ใจ เพียงแค่ไม่พอใจอยู่บ้างเท่านั้น เพราะหากพระองค์พิโรธจริง ๆ สัตว์เลี้ยงที่กำลังจำศีลเหล่านั้นคงมีอาหารใหม่แล้ว

“ฮองเฮา นี่เป็นยาที่ฝ่าบาทพระราชทานให้ท่านเพคะ ท่านจะใส่เองหรือให้บ่าวใส่ให้เพคะ?” แก้มหลีเซียงเปล่งสีแดงเรื่อขึ้นมา

ซ่างกวนจิ่นซิ่วเปิดขวดยาออก ยกขึ้นมาชิดปลายจมูก ลองดมกลิ่นดูแล้วกล่าวกล่าวว่า “หอมยิ่งนัก ข้าจะใส่เอง!”

สิ้นคำ นางก็ควักขี้ผึ้งขึ้นมาส่วนหนึ่งแล้วทาลงไปที่คอ

“ฮองเฮา…”

หลีเซียงนึกอยู่ว่าซ่างกวนจิ่นซิ่วจะทามันอย่างไร หากไม่ใช้ผ้าห่มบัง ผลที่ได้คือฮองเฮาน้อยกลับทาขี้ผึ้งลงบนรอยจ้ำสีแดง

“ฮองเฮา ขี้ผึ้งชนิดนี้ไม่ได้ให้ใช้ตรงนั้นเพคะ” หลีเซียงเริ่มเขินอายบ้างแล้ว

“ไม่ใช้ตรงนี้ แล้วใช้ที่ใดเล่า?” ซ่างกวนจิ่นซิ่วพลันสับสนงุนงง

“ตรงที่ที่พระนางเจ็บที่สุดเพคะ” ใบหน้าของหลีเซียงแดงก่ำราวกับลูกท้อ

นางเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์ผู้หนึ่ง เมื่อต้องเอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ช่างน่าขัดเขินเสียจริง

อย่างไรก็ตาม เจ้านายที่นางรับใช้เปรียบเสมือนผ้าขาวผืนหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าอะไร ๆ ล้วนผ่านมาแล้ว แต่นางกลับไม่เข้าใจสิ่งใดเลย หากหลีเซียงที่เป็นนางกำนัลไม่สอน เกรงว่าฮองเฮาน้อยจะยังคงสับสนงุนงงต่อไปเรื่อย ๆ

“ที่ ๆ เจ็บที่สุด…” ซ่างกวนจิ่นซิ่วเบ้ปาก “ตรงนี้หรือ? ตรงนี้ถูกเขากัด ข้าเจ็บยิ่งนัก”

“ยังมีที่อื่นอีกนะเพคะฮองเฮา” หลีเซียงมองไปที่เอวอีกฝ่ายด้วยสายตาสื่อความหมาย

ซ่างกวนจิ่นซิ่วกอดตนเองแน่น นางมุดเข้าไปในผ้าห่มแล้วเปล่งเสียงครวญครางไม่ยอมออกมา

“เหตุใดเขาถึงได้ทำตัวอันธพาลเช่นนี้?!”

หลีเซียงถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่าท้ายที่สุดฮองเฮาน้อยก็เข้าใจ

หลังจากรออยู่ครู่หนึ่งก็มีเสียงงึมงำดังมาจากในผ้าห่ม “เจ้า… เจ้าออกไปก่อน”

หลีเซียงรู้ว่าเจ้านายหนังหน้าบางจึงเอ่ย “เพคะ บ่าวจะเข้ามาภายหลัง”

หลังจากหลีเซียงไปแล้ว ซ่างกวนจิ่นซิ่วก็ดึงผ้าห่มลง เผยให้เห็นศีรษะเล็ก ๆ น่าเอ็นดู

ใบหน้าของนางแดงเปล่งลั่ง อีกทั้งยังเนียนละเอียด ดวงตาของนางสุกใส แฝงความอ่อนโยนตามแบบฉบับหญิงสาว

“คนผู้นี้ชักจะเกินไปแล้ว!”

หลายวันต่อมา ซ่างกวนจิ่นซิ่วยังกังวลว่าฟ่านหยวนซีจะปรากฏตัวอีกครั้งเมื่อใด

หลีเซียงบอกว่านี่เป็นสิ่งที่สามีภรรยาต้องทำ มีเพียงทำเช่นนี้เท่านั้น นางจึงจะตั้งครรภ์บุตรธิดาของฟ่านหยวนซีได้

ซ่างกวนจิ่นซิ่วเอ่ยถามหลีเซียงว่าหากฝ่าบาทรับสนมนางอื่นเข้ามา พวกนางต้องทำเรื่องเช่นนี้ด้วยใช่หรือไม่

ตอนที่หลีเซียงตอบว่า ‘เพคะ’ หัวใจของฮองเฮาน้อยพลันเต้นกระหน่ำ

หลายวันผ่านไป ฮ่องเต้ไม่ได้มาที่ตำหนักจิ่นซิ่วอีก ซ่างกวนจิ่นซิ่วจึงผ่อนคลายลงได้ในที่สุด ทว่าด้วยเหตุผลบางประการ บางครั้งนางอดมองไปที่ประตูไม่ได้ ราวกับกำลังคาดหวังบางอย่างแต่ก็ดูราวกับหวาดกลัวบางอย่างไปในคราวเดียวกัน

เหตุใดนางจึงเกิดความรู้สึกที่ซับซ้อนเช่นนี้กับพระสวามีของตนเองได้?

“ได้ยินว่าระยะนี้ฝ่าบาททรงพิโรธเพราะขุนนางพ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่ใช่เพราะเรื่องจวนลู่นั่นหรือ ขุนนางในราชสำนักกล่าวว่าฮองเฮามาจากอาณาจักรเฟิ่งหลิน ครั้งนี้เป็นเพราะพระนางยุแยง ตอนนี้พระนางขอให้ฝ่าบาทถอดถอนตนเองและรับสตรีในอาณาจักรเฟิ่งหลินแต่งตั้งขึ้นเป็นฮองเฮาอีกครั้ง”

“นายท่านอัครมหาเสนาบดีลู่ว่าอย่างไร? จะว่าอย่างไรได้ เหล่าขุนนางล้วนออกหน้าเพื่อใต้เท้าลู่เซวียน”

“นายท่านอัครมหาเสนาบดีลู่ไม่ได้กล่าวอะไรแม้แต่น้อย”

ซ่างกวนจิ่นซิ่วฟังข้ารับใช้ภายในวังพูดคุยกัน ขนมในมือนางกลับดูไม่น่าอร่อยแล้ว

มิน่าเล่าหมู่นี้เขาจึงไม่มาเยือนวังหลัง ที่แท้เขาติดพันกับเรื่องในราชสำนัก กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเขาไม่ได้จงใจละเลยนาง อีกทั้งยังไม่ได้โกรธกันด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย