สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 779

บทที่ 779 หลังศึกสงคราม

บทที่ 779 หลังศึกสงคราม

แม้ว่าฝนจะตกติดต่อกันเป็นเวลาสองวันสองคืน แม่ทัพเฟิงและทหารของเขาก็ยังคงไม่หยุดกวาดล้างกากเดนกบฏที่เหลืออยู่

ในระยะนี้เหล่าชาวบ้านก็มีส่วนช่วยเหลือไม่น้อย พวกเขาหากากเดนจากสงครามพบเป็นจำนวนมาก

สงครามจวนจะสงบลงแล้ว ทว่ากากเดนเหล่านั้นยังไม่ถูกกำจัดให้สิ้นซาก ขอเพียงพวกเขายินดียอมจำนน ทางเมื่องฮู่เป่ยก็จะมอบทางรอดสายหนึ่งให้

หากจะสารภาพผิดสร้างคุณงามความดี เช่นนั้นก็ต้องมอบข่าวที่เป็นประโยชน์ออกมา มีคนมอบข่าวที่เป็นประโยชน์ออกมาให้จริง ๆ พวกมู่ซืออวี่จึงใช้ข้อมูลเหล่านั้นเก็บกวาดกากเดนของอีกฝ่ายและจับกุมหน่วยสอดแนมที่กำลังสืบเสาะข่าวได้เป็นจำนวนมาก

ในยามนี้ก็ได้รับข่าวคราวของลู่อี้และฉีเซียวแล้วเช่นกัน

ที่แท้พวกเขาทั้งสองตรวจสอบพบฐานที่มั่นของกลุ่มนั้นแล้ว จึงลอบพาคนเข้าไปที่นั่น จากนั้นก็ดำเนินการแทรกแซงและจัดการ

ส่วนเรื่องที่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างนั้นหรือไม่ เหตุใดไม่มีข่าวออกมานานถึงเพียงนี้ ข่าวที่ได้รับมาไม่ได้กล่าวถึงเหตุผล ทำได้เพียงรอลู่อี้และฉีเซียวกลับมาจึงจะทราบรายละเอียดได้

ทว่ามีเรื่องหนึ่งที่แน่นอน คือลู่อี้และฉีเซียวล้วนสบายดี ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังพบกากเดนของคนกลุ่มนั้นอีกไม่น้อย ครั้งนี้นับได้ว่าเป็นการสร้างความเสียหายอย่างย่อยยับให้กลุ่มดังกล่าวเลยทีเดียว

แน่นอนว่าสิ่งที่มู่ซืออวี่ต้องจัดการในตอนนี้คือ จัดการสถานการณ์หลังสงครามในเมืองฮู่เป่ย

นางสั่งให้คัดแยกศพเป็นเวลาหลายวัน จากนั้นจึงมอบรางวัลให้กับทหารที่มีคุณงามความดี มอบรางวัลให้ราษฎรทั่วไป ท้ายที่สุดจึงสร้างอนุสรณ์สถานเพื่อรำลึกถึงวีรบุรุษในสงคราม

สงครามได้ทิ้งซากศพจำนวนมากเอาไว้ หากไม่จัดการอย่างเหมาะสม ผลที่ตามมาย่อมเป็นโรคระบาด ราษฎรเพิ่งประสบความยากลำบากมาไม่อาจแบกรับภัยร้ายใด ๆ ได้อีก เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องเลวร้าย พวกเขาจึงต้องตัดไฟแต่ต้นลม

หลังจากจัดการเรื่องทหารแล้ว ต่อไปย่อมเป็นการฟื้นฟูเมืองให้เป็นดังเดิม

ส่วนที่ได้รับความเสียหายทั้งหมดจำเป็นต้องได้รับการซ่อมแซม เรื่องนี้ต้องใช้เงินและวัสดุจำนวนมหาศาล

ผู้ใดใช้ให้เมืองฮู่เป่ยมีผู้สนับสนุนทางการเงินเล่า? ถึงแม้ต้องปรับปรุงซ่อมแซมเมืองทั้งเมือง มู่ซืออวี่ก็ยังคงสามารถจ่ายได้ ไม่เช่นนั้น สมญานามสตรีผู้ทำการค้าอันดับหนึ่งในใต้หล้าคงไร้ประโยชน์

“ฮูหยิน…”

“ฮูหยิน…”

เมื่อชาวบ้านเห็นมู่ซืออวี่ พวกเขาก็ค้อมคำนับด้วยความเคารพ

มู่ซืออวี่ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ท่านอาหวัง พื้นถนนทางตะวันออกของเมืองมอบให้เป็นหน้าที่ของท่านและศิษย์แล้ว”

“ฮูหยินวางใจเถิด ข้าจะต้องทำให้ดีเหมือนก่อนเกิดสงครามอย่างแน่นอน” นายช่างหวังตอบรับ

หลังจากฝนตกหนักหยุดลง เลือดในสนามรบก็จางหายไปราวกับว่าไม่เคยเกิดสงครามขึ้นมาก่อน

ในเมืองฮู่เป่ยมีอนุสรณ์สถานของวีรบุษขนาดใหญ่ ที่นั่นบันทึกรายนามวีรบุรุษผู้ล่วงลับเอาไว้ ไม่เพียงเท่านั้น นับตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป วันนี้จะเป็นวันครบรอบของเหล่าวีรบุรุษ เพื่อรำลึกถึงการเสียสละและชัยชนะของพวกเขา

“ฮูหยิน คุกไม่อาจรองรับนักโทษมากมายเพียงนั้นได้อีกต่อไปแล้ว” แม่ทัพเฟิงเอ่ย “ข้าน้อยวางแผนจะนำนักโทษเหล่านั้นกลับไปยังเมืองหลวงและส่งต่อให้กับกรมกลาโหม”

“มอบให้กรมกลาโหมจัดการหรือ? นักโทษกบฏเหล่านั้นควรส่งต่อให้กรมกลาโหมหรือไม่?”

“โดยทั่วไปหากกบฏพ่ายแพ้จะมีเพียงสามผลลัพธ์ หนึ่งคือแขวนคอตายทันที สองคือขายไปเป็นทาสทำงานในเหมือง สามคือรวบเข้ากับกองทัพและทำให้กลายเป็นคนของเรา ผลลัพธ์สุดท้ายขึ้นอยู่กับพระประสงค์ของฝ่าบาท ด้วยเหตุนี้ ข้าน้อยไม่รู้ว่าท้ายที่สุดผลจะเป็นอย่างไรจึงทำได้เพียงมอบให้กรมกลาโหมจัดการดูแลก่อน เมื่อฝ่าบาทมีพระบัญชาลงมา ถึงตอนนั้นจึงจะรู้ว่าพวกเขาจะเป็นเช่นไร”

มู่ซืออวี่เข้าใจแล้ว

“ได้ เช่นนั้นลำบากแม่ทัพเฟิงด้วย” มู่ซืออวี่เอ่ย “จริงสิ นักโทษมากมายเพียงนี้ ท่านเห็นผู้นำทัพกบฏหรือไม่?”

“ไม่เคยเห็นเขามาก่อน” แม่ทัพเฟิงกล่าว “ผู้นำกบฏคนนี้ข้าน้อยเองก็เป็นกังวล อย่างไรเสีย เขาก็เป็นตัวต้นเรื่องในการกระทำผิดครั้งนี้ ทว่า พวกเราพบร่างโจวเสียงเฟยแล้ว แต่หาคนผู้นั้นไม่พบ”

“บางทีท่านอาจไม่รู้จักเขา”

“มิได้ขอรับ ข้าน้อยให้ทหารฝั่งกบฏหลายคนมาระบุตัวแล้ว แต่ไม่มีจริง ๆ”

“ท่านวางแผนจะออกเดินทางเมื่อใด?”

“พวกเราจะออกเดินทางพรุ่งนี้ขอรับ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย