สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 789

บทที่ 789 เจ้าของศักดินาคนใหม่

บทที่ 789 เจ้าของศักดินาคนใหม่

ณ ถนนเมืองถงหยาง จางจื้อหยิบถุงเงินออกมาและเทเงินก้อนสุดท้ายลงบนฝ่ามือ

นี่คือเงินทั้งหมดที่ครอบครัวของเขาเหลืออยู่ เขาผู้ที่เดิมทีเป็นช่างไม้กลับหางานทำไม่ได้แม้แต่น้อย อย่างไรเสียเมืองนี้ก็กำลังจะกลายเป็นเมืองร้าง ผู้ที่เหลืออยู่ล้วนมีแต่ผู้เฒ่าผู้แก่ ผู้ที่อ่อนแอ สตรีและเด็กที่ไม่อาจไปจากที่นี่ได้ ผู้ใดที่เดินทางได้ล้วนไปจากที่นี่แล้ว

ขณะเดินผ่านหน้าประตูศาลาว่าการ เขาก็เห็นนักการคนหนึ่งออกมา นักการคนนั้นเป็นน้องชายภรรยาของเขา เมื่อวานยังบอกว่าวันนี้จะมาลาออก ดูจากท่าทีเช่นนั้น อีกฝ่ายคงจะลาออกจากศาลาว่าการแล้ว

“หลี่ผิง บ่ายนี้มากินข้าวที่บ้านข้าเถอะ!” จางจื้อเก็บความเศร้าบนสีหน้าแล้วเอ่ยทักทายมือปราบหลี่ราวกับว่าไม่มีอะไรผิดปกติ

มือปราบหลี่โบกมือให้ แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ได้หรอกพี่เขย ตอนนี้ข้ารับผิดชอบคนมากกว่าสิบคน ในมือมีเรื่องให้ต้องจัดการมากมาย ไปไม่ได้แล้ว”

“เจ้าบอกว่าจะลาออกแล้วไม่ใช่หรือ?” จางจื้อประหลาดใจ

“ชู่ว!” หลี่ผิงเหลียวมองรอบ ๆ ด้วยสีหน้าตกอกตกใจ “อย่าให้ผู้ใดได้ยินเชียว หากฮูหยินรู้เข้าละก็ เช่นนั้นงานข้าก็คงรักษาไว้ไม่ได้”

“ฮูหยิน…”

“อย่างไรก็ตาม พี่เขย ตอนนี้ข้าไม่ออกแล้ว” มือปราบหลี่ลดเสียงลงแล้วกล่าวว่า “ไม่เพียงแต่ข้าได้รับเบี้ยหวัดมาเท่านั้น แต่ยังได้มากกว่าเมื่อก่อนถึงห้าเท่าเชียวนะ ต่อไปเบี้ยหวัดข้าก็จะได้เท่านี้ ท่านว่างานที่ดีเช่นนี้ที่ใดยังจะมีอีก? แน่นอนว่าข้าต้องอยู่ต่อ พี่เขย เจ้าใหญ่กับเจ้ารองบ้านท่านโตแล้วกระมัง? หมู่นี้ก็ไม่มีการมีงานดี ๆ ทำ หากท่านเชื่อข้าก็พาพวกเขาสองคนมาทำงานกับข้าเถอะ”

“ห้าเท่าหรือ? เจ้าไม่ได้ล้อเล่นกระมัง?” จางจื้อตกใจ

“ความสัมพันธ์เราเป็นอย่างไร? เรื่องอย่างนี้ยังจะล้อเล่นได้หรือ? กล่าวแบบไม่ปิดบัง ข้าตั้งใจว่าจะกลับไปบอกกับยายแก่ที่บ้าน พาเจ้ารองบ้านข้ามาทำงานที่นี่ ภายหน้าติดตามทำงานกับฮูหยินจะต้องรุ่งเรืองอย่างแน่นอน”

เมืองถงหยางเป็นถิ่นทุรกันดาน ข้อมูลข่าวสารเข้าถึงได้ยาก นอกจากนั้นก่อนหน้านี้เมืองถงหยางยังถูกพรรคพวกของโจวเสียงเฟยควบคุม แทบจะตัดขาดจากโลกภายนอก น้อยนักที่พวกชาวบ้านจะได้รู้เรื่องราวข้างนอก

มือปราบหลี่เพิ่งได้รู้จากบ่าวรับใช้ที่ ‘ฮูหยิน’ พามาว่า แท้จริงแล้วฮูหยินผู้นี้เป็นสตรีผู้ทำการค้าที่ร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า บัดนี้ที่นี่เป็นที่ศักดินาของฮูหยิน นั่นหมายความว่านางต้องพัฒนาเมืองให้ดีขึ้นอย่างแน่นอน

หลังจากได้ยินเรื่องนี้ มือปราบหลี่ก็ดีใจที่ตนไม่ได้จากไปในทันที ไม่เช่นนั้นคงพลาดโอกาสแสวงหาโชคลาภแล้ว

“ตอนนี้ศาลาว่าการยังขาดนักการ ในเมืองก็เหลือคนที่แข็งแรงไม่มาก ฮูหยินต้องการให้ข้าหาคนมาเพิ่มให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ย่อมไม่ขาดเบี้ยหวัด”

จางจื้อยังคงนิ่งงัน ขณะที่มือปราบหลี่ติดประกาศบนกระดานข่าว

“ยกเว้นภาษี?” จางจื้ออ่านข้อความบนนั้นแล้วก็ต้องตะลึงอีกครั้ง

มือปราบหลี่เป็นต้องตกใจเพราะเสียงแหลมสูงของจางจื้อ เขาเอ่ยอย่างอดไม่ได้ “พี่เขย วันนี้เหตุใดท่านถึงได้ตกอกตกใจง่ายเพียงนี้เล่า? ไม่ผิด ฮูหยินบอกไว้ ขอเพียงแค่มีทะเบียนบ้านอยู่ในเมืองถงหยาง ย่อมได้รับการยกเว้นภาษีเป็นเวลาสามปี ชาวไร่ชาวนาได้รับยกเว้นภาษีเกษตร พ่อค้าได้รับยกเว้นภาษีการค้า ภาษีอื่น ๆ ก็ได้รับการยกเว้นเช่นกัน ไม่เพียงเท่านี้ ผู้ที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในเมืองถงหยางจะได้รับการดูแล แม้จะเป็นทารกแรกเกิดก็นับเป็นหนึ่งคน หนึ่งคนต่อที่ดินหนึ่งหมู่”

“เช่นนั้นครอบครัวข้ามีแปดคน…”

“เช่นนั้นก็แปดหมู่”

“ได้รับการจัดสรรที่ดิน อีกทั้งยังได้รับการยกเว้นภาษี เช่นนั้นเหตุใดพวกเราต้องไปเล่า?” จางจื้อเอ่ยอย่างตื่นเต้น “ข้าจะกลับไปบอกข่าวดีให้พี่สาวเจ้าฟังประเดี๋ยวนี้!”

“ช้าก่อน พี่เขย” มือปราบหลี่หยิบเงินตำลึงออกมาจากแขนเสื้อ “ข้ารู้ว่าเพื่อรักษาพี่สาวข้า ท่านใช้เงินไปไม่น้อย นี่ข้าให้พวกท่านยืม รอภายหน้าพวกท่านรวยแล้วค่อยคืน”

“หลี่ผิง ฮูหยินผู้นั้นให้เบี้ยหวัดเจ้าห้าเท่าจริง ๆ หรือ?” เริ่มแรกจางจื้อยังคงฟังหูไว้หู แต่ตอนนี้เขาเชื่อสนิทใจแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย