สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 901

บทที่ 901 หาคนผิดออกมา

บทที่ 901 หาคนผิดออกมา

หลังจากลู่จื่ออวิ๋นได้อ่านจดหมายลับจากเซี่ยชิงโจว นางก็เขียนตอบกลับแล้วส่งให้ผู้ส่งสาร บอกให้เขาหาวิธีส่งจดหมายให้เซี่ยชิงโจวโดยเร็ว

หลังจากผู้ส่งสารออกไปแล้ว ลู่จื่ออวิ๋นก็อ่านจดหมายที่เซี่ยชิงโจวส่งมาอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง

“ฮองเฮา มีอะไรหรือเพคะ?” ติงเซียงเอ่ยถาม

“จดหมายฉบับนี้ใต้เท้าเซี่ยไม่ได้เขียน” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ย “ถึงแม้ลายมือจะเหมือนกัน น้ำเสียงเหมือนกัน แม้กระทั่งรูปแบบการเขียนก็เหมือนกัน ทว่าไม่มีรหัสลับที่ข้าตกลงกับเขา”

ติงเซียงเอ่ยด้วยความประหลาดใจ “ฮองเฮาและใต้เท้าเซี่ยตกลงกันเรื่องรหัสลับด้วยหรือเพคะ? บ่าวติดตามฮองเฮาตลอดเวลา เหตุใดไม่รู้เรื่องนี้เล่าเพคะ?”

“เพราะหากปกปิดผู้คนรอบกายได้จึงจะปกปิดผู้อื่นได้” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ย “ใต้เท้าเซี่ยกำลังตกอยู่ในอันตราย ทุกความเคลื่อนไหวของเขาอยู่ภายใต้การจับตามองของผู้อื่น”

“ฮองเฮาคิดจะทำอย่างไรเพคะ?”

“ข้าจะจัดเตรียมกำลังคนไปสนับสนุนและช่วยให้เขาผ่านความยากลำบาก” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ย “ก่อนหน้านี้ศัตรูอยู่ในเงามืด เราอยู่ในที่แจ้ง คราวนี้ข้าจะเป็นนกขมิ้นหลังตั๊กแตนที่กำลังจับจักจั่น*[1]”

“บ่าวเชื่อว่าไม่มีผู้ใดรอดพ้นเงื้อมมือฮองเฮาไปได้แน่นอน” ติงเซียงกล่าว

“ชิงเอ๋อร์กำลังทำอะไรอยู่?”

ติงเซียงเล่าสถานการณ์ล่าสุดของลู่จื่อชิงคร่าว ๆ

“บุตรชายคนโตจวนหยางกั๋วกงอย่างนั้นหรือ?” ลู่จื่ออวิ๋นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา บรรยากาศรอบกายโดดเด่นผุดขึ้นมาในห้วงความคิดนาง “เป็นเขานั่นเอง! ข้าจำเขาได้ ก่อนหน้านี้เขามีคู่หมั้นคู่หมายตั้งแต่วัยเด็กใช่หรือไม่?”

“คุณหนูรองกลายเป็นสหายกับซื่อจื่อจวนหยางกั๋วกง บ่าวส่งคนไปตรวจสอบแล้ว พบว่าซื่อจื่อท่านนั้นเคยมีคู่หมั้นคู่หมายตั้งแต่วัยเด็กผู้หนึ่งจริง ๆ เพคะ เพียงแต่แม่นางผู้นั้นอ่อนแอและป่วยกระเสาะกระแสะตั้งแต่ยังเล็กจึงสิ้นใจไปเมื่อปีก่อน” ติงเซียงเอ่ย “ได้ยินว่าหยางซื่อจื่อและแม่นางท่านนั้นเป็นเหมยเขียวม้าไม้ไผ่ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อนข้างดี หลังจากที่แม่นางท่านนั้นเสียชีวิตหยางซื่อจื่อก็ล้มป่วยลง แม้กระทั่งลุกจากเตียงได้ยังขอลาไปบวชเป็นภิกษุเชียวนะเพคะ”

“ในเมื่อเขามีใจรักใคร่มั่นคงเพียงนั้น จะต้องไม่ต้องตาแม่นางที่สุกเอาเผากินอย่างชิงเอ๋อร์ของเราเป็นแน่ เหตุใดจึงต้องมาเป็นสหายกับชิงเอ๋อร์เล่า?” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ยด้วยท่าทีนิ่งขรึม “จัดเตรียมคนไปจับตาดูเถิด! คนเราไม่จำเป็นต้องทำเรื่องไม่จำเป็นเช่นนี้”

หากเขาเพียงอยากผูกมิตร หรือแม้กระทั่งอยากจะพึ่งพากิ่งไม้สูงใหญ่ล้วนไม่มีปัญหา แต่หากเขาเห็นแม่นางสกุลลู่เป็นของเล่น นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าเขามีชีวิตให้ตายมากมายเพียงใดแล้ว

เรื่องที่ลู่จื่อชิงได้รับบาดเจ็บ จบลงด้วยการฆ่าตัวตายและคำสารภาพผิดของทาสม้าผู้หนึ่ง

ทุกคนล้วนรู้ดีว่าทาสม้าผู้นี้เป็นเพียงตัวละครเล็ก ๆ เบื้องหลังจะต้องมีตัวการใหญ่อยู่ อย่างไรก็ตาม คนผู้นั้นซ่อนตัวอยู่ลึกเกินไป เมื่อใดก็ตามที่กำลังจะสาวถึงตัวเขา เบาะแสก็ขาดตอน ผู้บริสุทธิ์จึงตายไปคนแล้วคนเล่าภายใต้การบงการของคนผู้นั้น ท้ายที่สุด ลู่จื่ออวิ๋นไม่อาจทนต่อการเข่นฆ่าคนไปมากกว่านี้ได้จึงยุติคดีไว้เพียงเท่านี้ก่อน

แน่นอนว่าลู่จื่อชิงไม่พอใจ

นางไม่อาจยอมให้มีทรายในดวงตาได้*[2]

แตกต่างจากลู่ฉาวอวี่และลู่จื่ออวิ๋นสองฝาแฝด ความคิดของนางเป็นอย่างผู้บัญชาการทหาร ดีคือดี ชั่วคือชั่ว ดังนั้นนางจึงไม่พอใจกับผลลัพธ์นี้เป็นอย่างมาก!

คุณหนูรองลู่ไม่พอใจ นั่นย่อมมีคนเดือดร้อนขึ้นมาแล้ว

อย่างเช่นว่า นางขออำนาจในการคุมทหารมาจากลู่จื่ออวิ๋น

คุณหนูรองสกุลลู่ผู้หนึ่ง อายุเยาว์วัย ยังไม่ถึงแม้กระทั่งวัยปักปิ่น ใบหน้าแฝงความอ่อนเยาว์ของนางเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งดื้อรั้น บัดนี้กลับต้องมาเป็นผู้บัญชาการทหารอาณาจักรเฟิ่งหลิน

นับว่าเป็นเรื่องราวที่แปลกประหลาดในใต้หล้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย