สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 909

บทที่ 909 เป็นตายร้ายดีไม่รู้

บทที่ 909 เป็นตายร้ายดีไม่รู้

ทางอาณาจักรฮุ่ยยินดีปรีดา ทว่าอาณาจักรเฟิ่งหลินกลับอึมครึม

พวกเขาเฝ้ารอคอยด้วยความคาดหวัง รอให้ทัพใหญ่ของเซี่ยเฉิงจิ่นกลับมา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดคือ เซี่ยเฉิงจิ่นกลับตกลงไปในทะเลใน ‘เมืองอั้วหลง’ ใกล้ ๆ กับเมืองหลวง เป็นตายร้ายดีไม่แน่ชัด

เมื่อลู่จื่ออวิ๋นรู้ข่าวนี้ก็ล้มป่วยทันที

หลายวันต่อมา ขุนนางที่ปรึกษาก็ออกมาปลอบประโลมจิตใจทหารที่เพิ่งกลับมายังเมืองหลวง เซี่ยชิงโจวช่วยจัดงานเลี้ยงรับรองให้ทหารได้กินดื่มอย่างอิ่มหนำสำราญและได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามเหล่าทหารกลับปฏิเสธงานเลี้ยง รั้งอยู่ในค่ายทหารอย่างกระสับกระส่าย ราวกับว่าพวกเขาได้รับความตกใจอย่างหนัก

ทว่าก็ควรเป็นเช่นนั้น

เซี่ยเฉิงจิ่นยังไม่กลับมา พวกเขาไร้กระดูกสันหลัง งานเฉลิมฉลองเช่นนี้ไม่มีความหมายใด อีกทั้งยังกังวลว่าตนจะถูกดึงเข้าไปพัวพันเพราะเรื่องนี้หรือไม่ ไม่ต้องเอ่ยถึงคุณูปการทางการทหารก่อนหน้านี้เลย แค่พวกเขามีชีวิตรอดได้ก็ไม่เลวแล้ว

“ท่านกั๋วกง ท่านซื่อจื่อ บัดนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้ว” ผู้วางแผนเอ่ยอย่างมีวาทศิลป์ “ฝ่าบาทหายตัวไป แม้นจะไม่พบศพ ทว่าพวกเราล้วนรู้ดีว่านั่นเป็นหายนะ แผ่นดินไม่อาจขาดฮ่องเต้ได้แม้เพียงวันเดียว ดังนั้น การแต่งตั้งผู้สืบทอดบัลลังก์จึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในยามนี้ องค์ชายที่ฮองเฮาให้กำเนิดมีพระชันษาเพียงหนึ่งปี เป็นเพียงเด็กน้อยผู้หนึ่ง จะรับผิดชอบหน้าที่ใหญ่หลวงเพียงนี้ได้อย่างไร? ขอเพียงพวกเราให้ฮองเฮาเขียนราชโองการสืบราชบัลลังก์ด้วยพระองค์เอง บัลลังก์นี้ก็มีผลถูกต้องตามกฎมณเฑียรบาลแล้ว”

“ฮองเฮาเป็นคนสกุลลู่ เจ้าคิดว่านางจะสละราชบัลลังก์ให้ผู้อื่นหรือไร?” อันกั๋วกงเอ่ยด้วยท่าทีสงบ “เว้นเสียแต่ฮองเฮาจะเศร้าพระทัยเกินไปจึงสวรรคตเพราะความรัก ส่วนองค์ชายน้อย อย่างไรก็เป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่ง ผู้ใดจะรู้เล่าว่าเขาเติบใหญ่ขึ้นจะกลายเป็นสวะประเภทใด? ตอนนี้ไม่อาจลงมือฆ่าเขา มิเช่นนั้นเรื่องที่เราทำจะแดงขึ้นมาง่าย ๆ”

“ฮองเฮาทางนั้นก็ลงมือได้ไม่ง่าย…”

“ยามปกติลงมือได้ไม่ง่ายจริง ๆ ทว่าตอนนี้นางป่วยแล้วไม่ใช่หรือ? ของเพียงแค่ป่วย อย่างไรก็ต้องกินยา…”

อาการของฮองเฮาเริ่มทรุดลงเรื่อย ๆ

เดิมทีอุบัติเหตุที่เกิดกับเซี่ยเฉิงจิ่นก็สร้างความตกตะลึงให้กับขุนนางพลเรือนและขุนนางทหารในราชสำนักอยู่แล้ว ยามนี้ฮองเฮายังกำลังจะสวรรคตเพราะตรอมใจจากข่าวร้าย ท้องฟ้าเหนืออาณาจักรเฟิ่งหลินเต็มไปด้วยเมฆครึ้ม ไร้วี่แววของแสงแดดสาดส่อง

ขณะที่พระนางฮองเฮาทรงประชวร ทั้งขุนนางพลเรือนและขุนนางทหารในราชสำนักก็เริ่มถกเถียงกัน มีคนแนะนำขึ้นว่าควรสร้างสุสานให้ฝ่าบาท จัดงานพระบรมศพให้พระองค์อย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ บางคนก็กล่าวว่าเซี่ยเฉิงจิ่นเพิ่งตกลงไปในทะเล อาจยังไม่สวรรคต ควรให้ฮองเฮาควบคุมราชสำนักต่อและส่งคนไปเสาะหาร่องรอยของเซี่ยเฉิงจิ่น

เหตุใดเซี่ยเฉิงจิ่นถึงตกลงไปในทะเลเล่า?

แน่นอนว่าเป็นเพราะเขาถูกลอบสังหารหลายครั้งหลายครา ครานี้เขาถูกมือสังหารไล่ล่า เหนื่อยล้าจนเท้าไม่มั่นคงจึงตกลงไปในทะเล ไม่ว่าจะค้นหาเขาเพียงใดก็หาตัวไม่พบ

ครึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว คนที่ถูกส่งออกไปค้นหาไม่พบวี่แววของเซี่ยเฉิงจิ่น เรื่องสุสานเป็นเรื่องเร่งด่วน อย่างไรเสียก็มีเพียงจัดงานพระบรมศพของเซี่ยเฉิงจิ่นขึ้นก่อนเท่านั้น พวกเขาจึงจะหารือกันได้ว่าจะควรทำอย่างไรต่อ

ณ พระราชวัง มู่ซืออวี่กำลังแกะสลักแบบจำลองม้าไม้

ม้าไม้มีชีวิตขึ้นมาได้ด้วยคมมีดของนาง

“ท่านแม่ ทั้งขุนนางพลเรือนและขุนนางทหารกำลังสร้างสุสานฝังศพให้พี่เขยแล้ว เหตุใดเราไม่ไปดูหน่อยเล่าเจ้าคะ?” ลู่จื่อชิงยืนอยู่ข้างนาง เฝ้ามองท่าทีของมารดา

มู่ซืออวี่ยังคงแกะสลักม้าไม้ต่อไป “ข้ากำลังยุ่ง ไม่มีเวลา”

“สุสานของพี่เขย ไม่สำคัญเท่าม้าไม้ที่ท่านกำลังแกะสลักเลยหรือ?”

“เรื่องนั้นมีคนรับผิดชอบแล้ว ไม่ใช่ความรับผิดชอบของเรา เราเป็นคนอาณาจักรฮุ่ย ช้าเร็วก็ต้องกลับไปยังอาณาจักรตนเอง อย่าได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในอาณาจักรเฟิ่งหลินมากเกินไป พี่หญิงของเจ้าจะได้ไม่ต้องกระอักกระอ่วนใจ”

ลู่จื่อชิง “…”

ที่ผ่านมานางเข้าไปยุ่งน้อยหรือไร?

มากล่าวยามนี้จะไม่สายเกินไปหน่อยหรือ?

หากมารดานางไม่เตือน นางเกือบลืมไปแล้วว่าตนเป็นคนอาณาจักรฮุ่ย พิจารณาจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว ยังคิดว่าสกุลลู่กำลังจะตั้งค่ายในอาณาจักรเฟิ่งหลินเสียอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย