สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 917

บทที่ 917 บุญคุณความแค้นในยุทธภพ

บทที่ 917 บุญคุณความแค้นในยุทธภพ

เสียงบรรเลงฉินดังขึ้น

หนูตัวน้อยเหล่านั้นเริ่มร้อนรนขึ้นเรื่อย ๆ

เสียงกรีดร้องอันน่าสะพรึงกลัวดังขึ้นทั่วทั้งหยางเจียจวง

หนูเหล่านั้นไม่ใช่หนูธรรมดา หากแต่มีพิษชนิดร้ายแรง จำต้องรู้ว่าจอมยุทธ์ผู้โด่งดังในใต้หล้าถูกวางยาถึงสามคน หากพวกเขาเป็นเพียงคนธรรมดาทั่วไป เกรงว่าแม้กระทั่งชีวิตน้อย ๆ นั้นคงรักษาไว้ไม่ได้แล้ว

“ที่แท้เป็นปรมาจารย์จากที่ใดกัน? เหตุใดจึงจงใจพุ่งเป้ามาที่หยางเจียจวงสกุลหยางเรา?”

ลู่จื่อชิงเหลียวมองไปรอบ ๆ แล้วสะกิดฉินโม่ถง “โม่ถง เจ้าเห็นผู้ใดหรือไม่?”

“ไม่เห็น ฟังจากเสียงฉินแล้ว คงมาจากสถานที่ที่ห่างไกลมาก” ฉินโม่ถงเอ่ย “คู่ต่อสู้กำลังควบคุมหนูผ่านเสียงฉินจากที่ห่างไกลเช่นนั้น ย่อมเป็นคนที่แข็งแกร่งมากจริง ๆ หากพวกเราเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดีต้องจากไปโดยเร็ว อย่าได้เอาชีวิตน้อย ๆ ของตนไปเสี่ยง”

“วางใจเถอะ ข้าไม่ล้อเล่นกับชีวิตอย่างแน่นอน” ลู่จื่อชิงมองไปด้านในหยางเจียจวงสกุลหยาง “ท่าไม่ดีแล้ว มีคนถูกหนูกัดอีกจนได้”

เมื่อเห็นดังนั้น เจ้าสำนักหยางก็ตะโกนขึ้นอีกครั้ง “ผู้สูงส่ง ท่านต้องการอย่างไรกันแน่? แทนที่จะฆ่าแกงหยางเจียจวงเรา ไม่สู้ปรากฏตัวออกมาหารือกับข้าผู้เป็นเจ้าสำนัก มีอะไรค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จาไม่ได้หรือ?”

พรึ่บ!

รูปกายสง่างามปรากฏขึ้นบนยอดไม้ คนผู้นั้นสวมอาภรณ์สีน้ำเงิน สวมผ้าปิดหน้าสีเดียวกัน เอวเรียวคอดเผยออกมาให้เห็น ไม่ต้องกล่าวว่ามีเสน่ห์เย้ายวนใจเพียงใด

“เจ้าสำนักหยางต้องการหารือกับข้าจริงหรือ?”

เจ้าสำนักหยางนึกไม่ถึงว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังจะเป็นแม่นางน้อยงดงามสะโอดสะองเช่นนี้

“แม่นางคือผู้ที่ลงมือต่อหยางเจียจวงเราหรือ? พวกเรากับแม่นางมีความแค้นบาดหมางอะไร เหตุใดท่านจึงปฏิบัติต่อสกุลหยางเราโหดร้ายถึงเพียงนี้?”

“เจ้าสำนักหยางจำไม่ได้แล้วหรือ?” สตรีอาภรณ์น้ำเงินยิ้มหวานหยดย้อย “ข้าจะเตือนเจ้าสำนักหยางให้ เมื่อสิบปีก่อนท่านทำอะไรไว้เล่า?”

“สิบปีก่อน… สิบปีก่อน…” เจ้าสำนักหยางหันไปมองสตรีตรงหน้า ราวกับเริ่มเข้าใจหลาย ๆ อย่าง “แม่นางต้องการสิ่งใด?”

“พวกเจ้าเอาของสิ่งใดไป แน่นอนว่าต้องคืนกลับมา” สตรีอาภรณ์น้ำเงินกล่าว “นอกจากนี้ ข้ายังต้องการแขนของเจ้าสำนักหยางเป็นการชดเชย นี่คงไม่มากเกินไปกระมัง?”

“ท่านเจ้าสำนัก ไม่อาจรับปากได้นะขอรับ!”

หลังจากทานยาถอนพิษ กำลังฟื้นฟูกลับคืนมามาแล้ว จอมยุทธ์สองสามคนบนแท่นประลองก็รีบห้ามเจ้าสำนักหยางอย่างรวดเร็ว

“สตรี้ผู้นี้โหดเหี้ยม แม้ท่านจะรับปากนาง นางก็อาจกลืนน้ำลายตนเองได้ หากท่านหักแขนตนจริง ๆ หยางเจียจวงสกุลหยางจะตกอยู่ในอันตรายโดยแท้”

ลู่จื่อชิงแทะเมล็ดแตงโมแล้วเอ่ยกับฉินโม่ถง “เจ้าสำนักหยางผู้นั้นได้ยินคำว่าสิบปีก่อน คนทั้งคนไม่เพียงแต่มีบุญคุณความแค้นเท่านั้น ทว่ายังดูเหมือนเขาได้ทำอะไรผิดไป”

“แม่นางน้อยบนหลังคาผู้นั้น เจ้ากำลังสงสัยใช่หรือไม่ว่าเหตุใดข้าจึงอยากได้แขนข้างหนึ่งของเจ้าสำนักหยาง?”

“ท่านเรียกข้าว่าแม่นางน้อย แต่อายุท่านก็ดูเหมือนจะไม่ได้มากไปกว่ากันนะ!” ลู่จื่อชิงกล่าว

“ข้าเป็นแม่เจ้าได้แล้ว” สตรีอาภรณ์น้ำเงินผู้นั้นหัวเราะร่าพลางกล่าวว่า “เจ้าว่า ข้าเรียกเจ้าว่าแม่นางน้อยได้หรือไม่เล่า?”

ลู่จื่อชิงรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา พินิจดูสตรีอาภรณ์น้ำเงินแล้วกล่าวพึมพำ “ท่านทานยาวิเศษอะไรหรือ? ยังมีอีกหรือไม่? ข้าอยากได้กลับไปให้ท่านแม่กินสักสองเม็ด”

“สิ่งที่ข้าฝึกฝนคือฝึกวิชากำลังภายใน ท่านแม่ของเจ้าไม่อาจฝึกฝนได้ หากเจ้าสนใจ ข้าสามารถรับเจ้าเป็นลูกศิษย์ ข้าดูแล้วเจ้าหน่วยก้านดี อารมณ์ใช้ได้ คงเฉลียวฉลาดอยู่บ้าง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย