บทที่40 สมควรไปก็ต้องไป
“เพี๊ยะ”
เสียงดังคมชัดนี้ทำให้เงียบไปทั้งชั้น
มีรอยแดงประทับอยู่บนหน้าประธานจางอย่างเด่นชัด เงาสีดำที่โฉบผ่านไปนั้นมีพลังมาก มันกระทบลงมาที่แก้มประธานจางจนบวมแดง
เงาดำร่วงลงมา ประธานจางก้มศีรษะลง แสงวูบวาบผ่านเข้ามาในดวงตา
นี่มันรองเท้าแตะ เป็นรองเท้าแตะที่สกปรกและมีกลิ่นเหม็นน่าขยะแขยง!
ประธานจางยกมือขึ้นมาจับที่แก้มของตัวเอง พื้นรองเท้าแตะข้างนั้นทั้งเปื้อนดินและเศษอุจจาระสัตว์...
ร่างกายประธานจางสั่นสะท้าน เขาพยายามระงับความโมโหอย่างรุนแรง!
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับความอับอายนับตั้งแต่เข้ามาทำงานที่บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป
เขาได้รับความอับอายขายขี้หน้าจากจากพวกหมาแมวสองตัวนี้!
แล้วนี่จะให้เขาทนได้อย่างไร? !
พนักงานนับไม่ถ้วนดูตกใจและไม่มีใครคาดคิดว่าเฉินเป่ยจะลงมือเร็วขนาดนี้
เขาตบ...ประธานจางจริงๆหรือนี่?
ควรรู้ไว้นะว่าประธานจางกับคณะกรรมการบริหารบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน
เฉินเป่ยตบหน้าประธานจาง แม้ว่าเขาจะเป็นสามีของหลีชิงเยียนก็เถอะ แต่ก็เป็นเรื่องยากสำหรับหลีชิงเยียนที่ต้องหาคำพูดไปอธิบายให้กับคณะกรรมการบริหารฟัง
นี่ไม่เท่ากับรนหาที่ตายหรอกหรือ?
ประธานจางเงยหน้ามองไปทางเฉินเป่ย ในขณะนี้เฉินเป่ยกำลังยืนเท้าเปล่าข้างเดียว เนื่องจากรองเท้าข้างหนึ่งของเขาถูกโยนออกไป
ประธานจางตัวสั่นพูดด้วยความโมโห “แม่งเอ๊ย! นายกล้าตบฉัน!”
“คนที่ตบก็คือนาย” เฉินเป่ยพูดอย่างไม่รู้สึกรู้สา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยประกายเชือดเฉือน
“นายเสร็จแน่ รปภ.ล่ะ! รปภ.ไปไหนกันหมด!”ประธานจางตะโกนเสียงดังอย่างบ้าคลั่ง ในไม่ช้ารปภ.ก็พุ่งตัวเข้ามา
“จับไอ้สองตัวนี้มา ถ้าฉันไม่ฆ่าพวกมัน ฉันก็ไม่ใช่ซ่าง!” ประธานจางกัดฟันร้องตะโกน แต่ซูเสี่ยวหยุนกลับหันไปมองหน้าเฉินเป่ยอย่างมีนัยยะ
“นายรู้ว่าควรทำอย่างไร” ซูเสี่ยวหยุนกล่าว
เฉินเป่ยเงยหน้า ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็ฉายรังสีแห่งความเยือกเย็น ทำให้รปภ.ทั้งสองหยุดชะงักชั่วคราว ดวงตาของพวกเขาแสดงถึงความหวาดกลัว
พวกเขาไม่เคยเห็นหน้าตาน่ากลัวขนาดนี้มาก่อน ราวกับว่าพวกเขาเห็นฉากนองเลือดผ่านแววตาของเฉินเป่ย หากพวกเขาเดินก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวก็จะกลายเป็นเหมือนคนใดคนหนึ่งในฉากนั้น
“จัดการสิ!” ประธานจางร้องตะโกน “พวกแกอยากโดนไล่ออกหรือไง!”
“หนวกหู!”เฉินเป่ยพูดเสียงเรียบ “ใครกล้าลงมือ ฉันไม่เอาไว้แน่!”
รปภ.สองคนนั้นลังเลตัดสินใจไม่ถูก พวกเขาไม่กล้าลงมือทำ...จากเหตุการณ์ครั้งนั้นพวกเขาก็จดจำเฉินเป่ยได้ดีจึงไม่กล้าลงมือเป็นครั้งที่สอง
แต่อีกด้านหนึ่งก็ไม่กล้าขัดคำสั่งประธานจางแห่งบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป จะเชื่อใครดีนะ?
อยู่ๆประธานจางก็หรี่ตาลง...เห็นได้ชัดว่าคำพูดของเฉินเป่ยมีอำนาจมากกว่าเขา!
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
ในขณะนี้เสียงเหมือนแม่เหล็กแต่เยือกเย็นดังขึ้น ฝูงชนที่รายล้อมก็แยกย้ายกันออกจากทางเดิน หลีชิงเยียนเหยียบรองเท้าส้นสูงเดินอยู่ส่วนท้ายของทางเดิน ขายาวของเธอคู่นั้นเย้ายวนจนน้ำลายสอ
“ประธานหลี” พนักงานหลายคนพูดด้วยความเคารพท่านประธานคนสวยของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป พนักงานหลายหมื่นคนในบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ใครล่ะ...จะไม่รู้จักเธอคนนี้?
หลีชิงเยียนเดินมาข้างหน้า เธอเหลือบมองเด็กสาววัยรุ่นอย่างเย็นชาและพูดว่า "เกิดอะไรขึ้น?"
น้ำเสียงหลีชิงเยียนเต็มไปด้วยพลังงานแม่เหล็ก ราวกับลูกปัดเม็ดใหญ่ที่ร่วงบนแผ่นหยก ทั้งคมชัดและลื่นหู
ซูเสี่ยวหยุนเล่าเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เฉินเป่ยพูดเสริมอีกว่า “คนท้องสามเดือน แม้ว่าไม่ได้เตะออกไปโดยตรง...แต่การเตะนั้นแม่นยำมาก ปกติแล้วประธานจางคงเตะคนท้องบ่อยๆสินะ?”
เฉินเป่ยพูดอย่างเย็นชา แต่พนักงานรอบๆกลับเปลี่ยนสีหน้าในทันที ประธานจางคนนี้...ทำไมถึงโหดเหี้ยมขนาดนี้นะ?
หลีชิงเยียนอดไม่ได้ที่จะปรายตามองประธานจาง “ประธานจาง นำเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงาน ไม่ดีหรอกมั้ง?”
“ถ้าไม่ใช่เพราะสามีกับเพื่อนสาวของคุณสร้างปัญหาล่ะก็ ผมก็จัดการเองได้ พวกเขาเข้ามายุ่งเองแล้วยิ่งทำให้ปัญหามันแย่ลง” ประธานจางพูด
“แน่นอนว่าเธอเป็นเพื่อนรักของฉัน เธอเพิ่งกลับมาที่เมืองเมืองหู้ไห่และกำลังมาร่วมงานกับบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ประธานจางมีปัญหาอะไรงั้นหรือ?” หลีชิงเยียนเลิกคิ้ว
ประธานจางยืนนิ่งชะงัก ผู้หญิงที่ดูเป็นผู้ใหญ่และสวยขนาดนี้เป็นเพื่อนรักของหลีชิงเยียนจริงๆงั้นหรือ?
แล้วยัง...มีการร่วมมือกันทำธุรกิจ แบบนี้เขากำลังทำให้เธอขุ่นเคือง?
“ประธานหลี เรื่องนี้พวกเขาเป็นคนเริ่มก่อน ไม่เกี่ยวกับผมเลย”ประธานจางเงยหน้า สีหน้ามืดมนและเย็นชา
ใบหน้าหลีชิงเยียนถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง เธอมองไปที่เด็กสาวด้วยสีหน้าเจ็บปวดและเห็นอกเห็นใจ พลางเกลียดไม่ลงที่เฉินเป่ยทำแบบนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สายเปย์เบอร์หนึ่ง