บทที่64 แกขู่ใครกัน?
ในตอนที่ป้าสองเตรียมที่จะโผเข้าไปจู่โจมตรงด้านหน้าของเฉินเป่ยนั้น จู่เฉินเป่ยก็ได้ถอยหลังออกไปก้าวหนึ่ง ทำให้ป้าสองกระโจนเข้าสู่ความว่างเปล่า จึงได้ล้มลงกับพื้นไปอย่างแรง
“โครม”
เสียงที่เกิดจากการกระทบกันดังขึ้นมา ป้าสองพยุงตัวลุกขึ้นมาด้วยสภาพที่ใบหน้าคลุกเต็มไปด้วยฝุ่น มองไปยังเฉินเป่ยด้วยสีหน้าอาฆาตแค้น มือเท้าสะเอว เอ่ยออกไปอย่างโกรธเกรี้ยว “แกคิดว่าแกเป็นใครกันหา แกมีสิทธิ์พูดอะไรที่นี่ด้วยงั้นหรอ ถึงได้สั่งให้ฉันหุบปาก แกคู่ควรงั้นหรอ?”
“ไอ้คนชั้นต่ำ ไม่สั่งให้แกไสหัวออกไปจากที่นี่ก็ถือว่าไว้หน้าแกแล้ว สมกับที่ตัวเองเกาะคนชั้นสูงปีนขึ้นมาเสียจริง” ส่วนป้าใหญ่ที่อยู่อีกข้างกันนั้นได้ยิ้มเย็นออกมาเล็กน้อย จากนั้นจิบชาไปคำหนึง
“การ์ดล่ะ มาไล่มันออกไปซะ!” บนโต๊ะรับประทานอาหาร แต่ละสายตาที่มองไปยังร่างของเฉินเป่ยนั้น มีแต่ความโกรธแค้นและดูถูกเหยียดหยามออกไป
สีหน้าของเฉินเป่ยเรียบนิ่ง ส่วนหลีชิงเยียนนั้นก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย พยายามพูดให้เฉินเป่ยหลุดพ้นจากเรื่องนี้ “เขาเป็นสามีของฉัน มีเรื่องอะไร ก็มาเคลียร์กับฉันเอง”
“ไปเคลียร์กับเธอ? พวกแกนี่เป็นเหมือนผีเน่ากับโลงผุเสียจริง อย่าคิดว่าจะรอดไปได้แม้แต่คนเดียว ฉันขอจัดการกับมันก่อน แล้วค่อยมาจัดการแก” ป้าสองเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มเยือกเย็น
สีหน้าของหลีชิงเยียนดูย่ำแย่ขึ้นมาทันที งานเลี้ยงในวันนี้ หลีเช่าเทียนยังไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา แต่ป้าใหญ่ป้าสองพวกนี้ กลับกลายเป็นผู้เริ่มลงมือต่อต้านหลีชิงเยียนออกมา
“ดี” หลีเซิ่งแค่นเสียงออกมา จากนั้นก็เอ่ยพูดเกลี้ยกล่อมออกมา “เรื่องนี้ให้มันหยุดอยู่เพียงแค่นี้เถอะ หยุดกันแค่ตรงนี้ก็พอ”
หลีเซิ่งพูดออกคำสั่งออกมา ป้าใหญ่ป้าสองที่ถึงแม้ว่าจะยังมีสีหน้าเคียดแค้นไม่พอใจออกมา แต่ก็ทำได้เพียงต้องข่มกลั้นมันกลับไปเท่านั้น จ้องมองเฉินเป่ยและหลีชิงเยียนไปอย่างไม่ละสายตา จากนั้นก็นั่งลง
“ชิงเยียน ฉันกับพ่อของแกก็นับว่าเป็นพี่น้องกัน แกมาร่วมงานเลี้ยงของตระกูลหลี ก็ควรจะเรียกฉันคุณลุงสักคำสิ?” หลีเซิ่งยิ้มอย่างอ่อนโยนออกมา
หลีชิงเยียนพยักหน้าออกมาเล็กน้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงน่าดึงดูดออกมา “คุณลุง”
“ดี งั้นก็อาศัยที่แกเรียกลุงคำนี้ เรื่องที่ผ่านมาพวกเราก็ปล่อยให้มันแล้วๆกันไปเถอะ อย่าไปพูดถึงมันอีกเลย” หลีเซิ่งหัวเราะเสียงดังออกมา “รอพวกเรากลับเยี่ยนจิง แกกับพ่อของแกก็กลับไปพร้อมกันเถอะ”
หลีชิงเยียนนิ่งตะลึงไปเล็กน้อย จากนั้นก็ส่ายหัวออกไปทันที เอ่ยพูดอธิบายเสียงหวานออกไปว่า “คุณลุงคะ ตอนนี้บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปยังไม่มีแผนที่จะพัฒนาออกไปยังเมืองเยี่ยนจิง ฉันเกรงว่าฉันคงปลีกตัวไปเยี่ยนจิงไม่ได้หรอกค่ะ”
“ปัง” แก้วไวน์ของหลีเซิ่งวางลงไปบนโต๊ะอย่างแรง ไวน์ในแก้วได้สาดกระจายออกมา สีหน้าของหลีเซิ่งนิ่งขรึมไปเล็กน้อย จากนั้นก็เอ่ยออกมาว่า “ชิงเยียน เรื่องบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปแกไม่ต้องกังวลหรอก เช่าเทียนจะอยู่ที่นี่ช่วยแกดูแลแทนเอง”
ในทันใดนั้นเอง หลีชิงเยียนก็ได้นิ่งชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นใบหน้าสวยนิ่วหน้าออกมาเล็กน้อย ความหมายของคำพูดนี้ของหลีเซิ่งนั้นชัดเจนอย่างมาก...นี่ต้องการจะปล้นกันชัดๆ!
ใบหน้าสวยของหลีชิงเยียนเย็นชาออกมา “คุณลุงคะนี่มันไม่เห็นจะต้องยึดบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปกันไปเลยนี่คะ?”
“ชิงเยียน ฉันขอแนะนำให้แกคิดใหม่อีกครั้ง เมื่อตอนนั้นพ่อของแกไม่ได้คิดให้ดี จึงได้ถูกขับไล่ออกจากบ้านตระกูลหลี ฉันไม่อยากให้แกต้องมีจุดจบแบบนั้น” หลีเซิ่งเอ่ยเสียงต่ำออกไป
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันได้ตัดสินใจแล้ว ถึงแม้ว่าบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปจะล้มละลาย ฉันก็จะไม่โอนสิทธิ์ผู้ถือหุ้นให้ใครแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว!” หลีชิงเยียนแผ่กระจายความเดือดดาลออกมาจากทั่วทั้งร่าง เอ่ยออกมาอย่างเฉียบขาด
“ปัง!” จู่ๆหลีเช่าเทียนก็ยื่นมือเข้ามารวดเร็วอย่างกับสายฟ้าแลบ ฝ่ามือทุบลงไปบนโต๊ะ
ห้องรับประทานอาหารได้ตกอยู่ในความเงียบทันที หลีเช่าเทียนค่อยๆเงยหน้าขึ้น มองไปยังหลีชิงเยียนแล้วเอ่ยออกไปว่า “ชิงเยียน...ฉันให้โอกาสเธอมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว แต่เธอทิ้งมันไปเสียทุกครั้ง!”
“เพื่อเธอ ครั้งแรกฉันถึงได้อดทนถึงขนาดนั้น บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปนั่น ถ้าฉันอยากได้จริงๆ จะยังต้องมาใช้วิธีอ้อมโลกอยู่แบบนี้หรอ?” หลีเช่าเทียนกระโชกเสียงออกมา ร่างของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็นแผ่ออกมาและความเย็นชาเหี้ยมเกรียมที่ทำให้คนอื่นตัวสั่นขวัญเตลิดกันเป็นแถว!
สีหน้าของหลีชิงเยียนนิ่งเรียบ แต่ภายในใจกับเต้นกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง หลีเช่าเทียนพูดไม่ผิดเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าเขาอยากได้ ด้วยอำนาจของตระกูลหลีนั้นทำได้แน่นอน ใช้อำนาจเข้าไปยึดครอง...บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปที่เป็นบริษัทเล็กบริษัทหนึ่ง ไม่มีทางที่จะต่อสู้กับตระกูลสูงส่งตระกูลหนึ่งแห่งเยี่ยนจิงได้อย่างแน่นอน...แต่เขาก็ยังดึงดันที่ให้หลีชิงเยียนมอบสิทธิ์ของการถือหุ้นให้เขา
นี่ สำหรับคนที่มีนิสัยไม่ยอมคนอย่างหลีชิงเยียนนั้นมันเป็นการเหยียบหน้ากันอย่างแรง เหยียบย่ำลงมาด้วยความดูถูกเหยียดหยาม!
ใบหน้าสวยของหลีชิงเยียนเงยหน้าขึ้นไป จากนั้นก็เอ่ยเสียงเย็นออกไป “คุณชายหลี คำตอบก็พูดออกไปชัดเจนแล้วนี่ว่าสิทธิ์ของการถือหุ้นของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ไม่จะว่ายังไงฉันก็ไม่มีวันขาย...คุณชายหลีก็อย่าได้คิดเรื่องอะไรพวกนี้เลย และก็อย่ามาเซ้าซี้ชิงเยียนอีกเลย”
ซ่า! ในบรรยากาศตอนนี้กลิ่นดินปืนที่เข้มข้นปะทุออกมาทันที หลีเช่าเทียนจ้องมองหลีชิงเยียนด้วยสายตาเย็นชา ทรงพลังและดุดัน ในแววตาคู่นั้นของเขา ได้แผ่กระจายรังสีสังหารที่ไม่เคยแสดงมาก่อนออกมา!
เซ้าซี้!
คำพูดนี้ของหลีชิงเยียนได้ทำให้หลีเช่าเทียนเกิดโทสะขึ้นมาทันที ดวงตาสังหารคู่นั้นของหลีเช่าเทียนได้เผยออกมาอีกครั้ง มองจ้องไปยังหลีชิงเยียนด้วยสายตาที่สื่อความหมายชัดเจน ราวกับต้องการเหยียบทำลายหลีชิงเยียนให้สุดแรง!
คุณชายหลีอย่างเขา ผู้เป็นลูกรักสวรรค์แห่งเยี่ยนจิง ผู้หญิงหลายคนต้องมาคุกเข่าเลียแข้งเลียขาเพื่อถวายตัวให้ แต่เขาก็ไม่เคยใส่ใจเลยสักนิด ผลสุดท้ายวันนี้กลับถูกคนอื่นมาเหยียบหน้ากันถึงถิ่นของตน...ไม่นึกเลยว่าเขาจะเซ้าซี้ผู้หญิงคนหนึงได้!
เยี่ยนจิงและหู้ไห่ ประชากรทั้งหัวเซี่ย จะมีสักกี่คนที่กล้าพูดอย่างนี้กับเขา?! หลีชิงเยียน...ได้ทำลายประวัติที่เคยมีไปเรียบร้อย!
นัยน์ตาอ่านยากของหลีเช่าเทียนจ้องมองไปยังหลีชิงเยียน...นี่เป็นการตบหน้ากันต่อหน้าธารกำนัล! คิดจะให้เขาต้องอับอายจนต้องแทรกแผ่นดินหนี! เขาไม่อาจรับการดูหมิ่นพวกนี้ได้อย่างเด็ดขาด!
ทันใดนั้น จู่ ๆป้าใหญ่ของหลีเช่าเทียนก็พรวดพราดลุกยืนขึ้นมา เท้าก้าวเดินมุ่งออกไปยังหลีชิงเยียน ด้วยจิตสังหารที่ดุเดือดรุนแรง!
“หุบปาก ก็แค่ลูกสาวของลูกนอกสมรสอย่างผู้หญิงร่านๆยั่วยวนผู้ชายไปทั่วคนหนึง คู่ควรที่จะมาว่าเช่าเทียนของเราด้วยหรอ แกไม่มีสิทธิ์พูดอะไรที่นี่ ตบปากซะ!” ป้าใหญ่เดินก้าวเข้าไป ฝ่ามือก็เตรียมที่จะฟาดลงไปบนแก้วขาวเนียนของหลีชิงเยียนในอีกไม่ช้า!
หลีชิงเยียนถอยไปข้างหลังอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าสวยมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป ไม่นึกมาก่อนเลยสักนิดว่า จู่ ๆป้าใหญ่จะกล้าเข้ามาลงไม้ลงมือกันได้!
แต่มันก็สายเกินไป การตอบสนองของหลีชิงเยียนช้าไปก้าวเดียว ฝ่ามือใหญ่ของป้าใหญ่ได้ฟาดลงมาอย่างแรง จนใกล้จะฟาดลงไปบนแก้มเนียนนุ่มของหลีชิงเยียนในอีกไม่ช้า!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สายเปย์เบอร์หนึ่ง