มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง นิยาย บท 89

เหอโก๋ชินพยักหน้า อันที่จริงในใจเขาไม่ยอมเชื่อสุดๆ ว่าบ้านหลังนี้เป็นของมู่เซิ่ง

แม้เขากับจ้าวหลินเป็นเพื่อนขาไพ่ แต่ในความสัมพันธ์ของทั้งสองคน เหอโก๋ชินยกตนว่าสูงส่งมาตลอด ถึงจ้าวหลินแต่งเข้าตระกูลร่ำรวยก็เถอะ เพราะในสายตาของเขา ก็ยังสู้ตัวเองไม่ได้อยู่ดี เพราะจ้าวหลินมีลูกเขยขยะยังไงล่ะ

สองสามปีมานี้ เขาเคยชินกับการยกตนว่าสูงส่ง ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือรถ ต้องดีกว่าจ้าวหลิน ถ้าบ้านที่มู่เซิ่งซื้ออยู่ที่นี่จริงๆ อย่าบอกนะว่าเขาดีเลิศกว่าลูกชายตัวเองงั้นเหรอ

เหอโก๋ชินไม่มีทางยอมรับสิ่งนี้เด็ดขาด

“เหอโก๋ชิน พวกนายยืนอยู่ข้างนอกกันทำไมล่ะ รีบเข้ามาสิ”

จ้าวหลินพูดพลาง แสดงสีหน้าโอ้อวดออกมาอย่างชัดเจน

เหอโก๋ชินหงุดหงิดใจ แต่เมื่อคิดถึงว่าอีกเดี๋ยวเหอซวี่จะเปิดโปงเขา จึงกัดฟันเดินเข้าไปในคฤหาสน์

“ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ทุกคนเดินดูตามสบายเลย”

จ้าวหลินพูดในห้องรับแขก เธอไม่รู้หรอกว่าคฤหาสน์หลังนี้ตกแต่งเป็นอย่างไร กลัวพูดผิดแล้วคนอื่นจะรู้ว่าเธอก็มาที่นี่เป็นครั้งแรกเหมือนกัน ดังนั้นจึงตั้งใจให้ทุกคนดูตามสบาย

“มู่เซิ่ง รีบไปทำอาหารสิ ฉันหิวแล้ว”

หลังจากนั้นเธอโบกมือไปมา แล้วพูดสั่งมู่เซิ่ง

มู่เซิ่งพยักหน้า เขาซื้อพวกผักและเนื้อต่างๆ มาเตรียมไว้ล่วงหน้าหนึ่งวัน สั่งให้รปภ.เก็บไว้ในตู้เย็น ต่อไปจะต้องอยู่ที่นี่ จะไม่มีอะไรกินไม่ได้

เจียงหว่านควงแขนมู่เซิ่งตลอดเวลา เธอพูดเบาๆ ว่า “ฉันไปด้วย”

ทุกคนเห็นภาพนี้ รู้สึกแปลกๆ ในใจ จ้าวหลินก็ขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว เห็นลูกสาวตัวเองใกล้ชิดกับไอ้ขยะขนาดนี้ เธอยังรับไม่ได้เหมือนเดิม แต่สถานการณ์ตอนนี้ เธอไม่ได้เอ่ยตำหนิออกมา ซึ่งเกิดขึ้นยากมาก

เหอซวี่และคนอื่นเดินช้าๆ อยู่ในบ้าน

การตกแต่งในบ้านหลังนี้ แม้ไม่ได้ให้ความรู้สึกโอ่อ่าตระการตา แต่มีความงดงามเผยออกมาให้เห็นทุกที่ เทียบกับบ้านใหม่ของตัวเอง เหอซวี่รู้สึกว่าการตกแต่งของบ้านตัวเอง หยาบโลนเหมือนชนบท

หลังจากทุกคนเดินได้หนึ่งรอบ นั่งลงบนโซฟาอย่างระมัดระวัง แล้วพากันเอ่ยชม

“พี่จ้าว บ้านใหม่ของพี่ตกแต่งได้ไม่เลวเลย เห็นแล้วสบายอกสบายใจมาก”

“ใช่เลยพี่จ้าว นี่สิคือความรู้สึกของบ้าน บ้านคือที่หลบภัย คนยุ่งมาทั้งวันเมื่อกลับถึงบ้าน ถ้ายังต้องเจอกับของแวววาวระยิบระยับ จะปวดตาไหม ตอนนี้ฉันอยู่ในห้อง รู้สึกเงียบสงบมาก”

“ใช่ แม้ที่นี่ตกแต่งเรียบง่าย แต่เฟอร์นิเจอร์ไม่ธรรมดาเลย ฉันเคยเห็นโซฟานี้ คงเป็นหนังแท้แบรนด์หลุยส์ วิตตองสินะ ในร้านแบรนด์ขายตั้งสี่แสนแน่ะ”

เมื่อได้ยินว่าโซฟานี้ราคาสี่แสน ทุกคนยิ่งระมัดระวังเข้าไปใหญ่ ถึงกับลุกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว กลัวว่าจะนั่งแล้วทำให้โซฟาราคาสูงพัง

“ฮ่าๆ เล็กหน่อยน่า ทุกคนนั่งตามสบายเลย”

จ้าวหลินโบกมือไปมา ปิดบังรอยยิ้มบนใบหน้าเอาไว้ไม่อยู่

เหอโก๋ชินนั่งอยู่อีกด้าน สีหน้าเย็นชาและอึมครึมมาก เขาส่งเสียงหึอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า “จ้าวหลิน เธอซื้อคฤหาสน์หลังนี้เหรอ จ่ายไปเท่าไรล่ะ”

“เหอโก๋ชิน นายพูดแบบนี้หมายความว่าไง”

เมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายสงสัย จ้าวหลินร้อนใจทันที เธอพูดว่า “คฤหาสน์หลังนี้คือบ้านใหม่ที่ฉันใช้เงินซื้อมา ตั้งแต่ต้นจนจบ แม้แต่การตกแต่งฉันก็ออกเงินเอง”

“เหอะๆ คุณซื้อมาเหรอ”

เหอซวี่ยิ้มเย็นชาอยู่ข้างๆ ตอนนี้เขาจะเปิดโปงจ้าวหลินต่อหน้าทุกคน

“คฤหาสน์ที่นี่ไม่ได้ราคาถูก โดยเฉพาะหลังที่อยู่แถวตรงกลาง จากที่ผมรู้มาราคาที่นี่ 480,000,000 ใช่ไหม”

480,000,000!

คำพูดของเหอซวี่ ทำให้ทุกคนถึงกับสูดหายใจเฮือก

ถึงแม้คาดเดาในใจแล้ว แต่ราคาคฤหาสน์ที่นี่ ยังเหนือกว่าที่พวกเขาจินตนาการเอาไว้มาก

“แล้วยังไงล่ะ” จ้าวหลินก็ตกใจกับราคาเหมือนกัน แต่กัดฟันพูดต่ออย่างรวดเร็ว

ตอนนี้เธอกำลังเพลิดเพลินกับความรู้สึกเหมือนดาวล้อมเดือน จะยอมรับได้ยังไงว่าซื้อบ้านที่นี่ไม่ได้ ถึงต้องแต่งเรื่อง เธอก็ต้องฝืนแต่งเรื่องที่มีเหตุผล

“จ้าวหลิน คฤหาสน์ที่นี่ไม่รับการผ่อนชำระเป็นรายเดือน!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง