เธอกลืนน้ำลายลงแรง ๆ ข่มความขมเฝื่อนในลำคอ “แต่ภาพลักษณ์ของฉู่ซืออี๋ไม่เข้ากับธีมผลิตภัณฑ์”
ฉู่ซืออี๋ทำงานอยู่เมืองนอกสไตล์โก้หรู
“นี่เป็นเรื่องของเธอ ไม่ใช่เรื่องของฉัน” ฟู่เจิงพูด “ฉันรู้ว่าเธอต้องมีวิธีแน่นอน แบรนด์แอมบาสเดอร์นี้สำคัญกับซืออี๋มาก ดังนั้นเธอต้องติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ”
เวินเหลียงตัวชาไปหมด ผิวหน้าแข็งทื่อ ไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้ดี
ฟู่เจิงให้ความสำคัญกับความสามารถของเธอขนาดนี้ แต่กลับผลักรักแรกของเขามาให้ภรรยาตัวจริงอย่างเธอด้วยความโหดเหี้ยม
ฟู่เจิง คุณเห็นฉันเป็นตุ๊กตาดินปั้นจริง ๆ เหรอ เสียใจเจ็บปวดไม่เป็นใช่ไหม?
“ได้ ฉันจะพยายามสุดความสามารถแน่นอนค่ะ” ภายในลำคอของเวินเหลียงเหมือนมีเศษแก้วที่แตกระเนระนาดเกลื่อนพื้น แหบแห้งเต็มประดา ต้องใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดในการเปล่งแต่ละคำ
……
ในห้องน้ำ
เวินเหลียงอาเจียนแห้งไม่หยุด กลับไม่มีอะไรออกมาเลย
เธอลูบท้องน้อยและปลอบลูกในท้อง
กระจกตรงหน้าสะท้อนภาพผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งมีสีหน้าซีดขาว ขอบตาแดงระเรื่อ
เวินเหลียงวักน้ำเย็นล้างหน้าอย่างต่อเนื่อง
ไม่เป็นไร...
ไม่เป็นไร
ก็แค่ให้ฉู่ซืออี๋เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เองไม่ใช่เหรอ?
ก็แค่ติดตามการถ่ายโฆษณาของฉู่ซืออี๋กับการเปิดตัวเองไม่ใช่เหรอ?
นี่คืออาชีพของเธอ เธอต้องทำได้แน่
เวินเหลียงมองตัวเองในกระจกและพยายามคลี่ยิ้มเล็กน้อย
เธอเคยรับปากพ่อไว้ว่า หลังจากเขาจากไป ไม่ว่าเจอเรื่องอะไรจะต้องเข้มแข็งต่อ
พอกลับถึงห้องทำงาน เวินเหลียงโทรศัพท์กลับไปหาผู้จัดการส่วนตัวหลินเยียนหรันเพื่อปลุกปลอบขออภัย แล้วมอบแบรนด์แอมบาสเดอร์น้ำหอมแบรนด์เล็ก ๆ อีกแบรนด์หนึ่งในมือให้หลินเยียนหรันแทน พร้อมรับปากว่าในอนาคตถ้ามีโฆษณาที่เหมาะสมจะพิจารณาหลินเยียนหรันเป็นคนแรก พี่ลี่จึงยอมเลิกราในที่สุด
หลังจากวางสายโทรศัพท์ เวินเหลียงเรียกผู้ช่วยให้เอาข้อมูลเชิงลึกของฉู่ซืออี๋เข้ามา และเปิดประชุมกับพนักงานในแผนก
หลังจากยุ่งงวดทั้งวันจึงกำหนดแผนงานมาสามตัวเลือกได้
เวินเหลียงให้ผู้ช่วยติดต่อผู้จัดการส่วนตัวของฉู่ซืออี๋อีกครั้งเพื่อนัดหมายหารือเรื่องแบรนด์แอมบาสเดอร์
เวินเหลียงพิงพนักเก้าอี้ นวดระหว่างคิ้ว พลางมองเอกสารข้างมืออย่างอ่อนล้า——หนังสือสัญญาหย่า
เธอพลิกอ่านคร่าว ๆ
ฟู่เจิงใจป้ำ ไม่ตระหนี่ถี่เหนียวกับค่าเลิกราสักนิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารักผูกหัวใจท่านประธานปากแข็ง