ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยาก
นางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้น
เด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวง
ฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผล
แต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช
ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ์ สามารถรับประทานผักและผลไม้ได้แม้ในฤดูหนาว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่กล้านึกฝันในอดีต และเรือนกระจกของฮองเฮายิ่งยอดเยี่ยมมากจริงๆ!
เมื่อปลายเดือนสี่ มีการแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ชุดใหม่ ประชาชนได้รับเมล็ดพันธุ์พืชด้วยระบบการยืม หลังจากการเก็บเกี่ยวที่ดีในฤดูใบไม้ร่วง ก็คืนทุนพร้อมดอกเบี้ย ซึ่ไม่เพียงแต่แก้ปัญหาเรื่องกินอยู่ได้หนึ่งปี แต่ยังเพิ่มภาษีบ้านเมือง ซึ่งใช้สำหรับการก่อสร้างของแคว้น รวมถึงสนับสนุนกองทัพได้ด้วย
ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา อินชิงเสวียนได้สะสมข้าวและแป้งหมี่ไว้มากมายในมิติ ยังคงส่งไปฝากขายกับตระกูลหลิว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ได้มีการควบคุมราคาอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นมณฑลหรือเขตใด ผู้ใดกล้าที่จะปรับราคาสินค้าขึ้นอย่างไม่สมเหตุสมผล จะถูกประหารชีวิตทันที!
วันที่สิบหกเดือนสี่ เป็นฤกษ์ดีที่โหราจารย์ทำนายไว้ ในที่สุดองค์หญิงก็กำลังจะเสกสมรส
ในตำหนักชิงฮว๋า เย่ไห่ถังตื่นมาแต่งตัวตั้งแต่เช้าตรู่ เย่จิ่งอวี้ยืนอยู่ข้างนอกตำหนักด้วยความคิดที่ซับซ้อน เย่จิ่งหลานไปแล้ว น้องสาวคนเล็กก็กำลังจะแต่งงาน ฮ่องเต้ต้องอยู่คนเดียวแล้วจริงๆ
โชคดีที่มีเสวียนเอ๋อร์อยู่กับเขา!
เมื่อมองย้อนกลับไปเห็นหญิงสาวผู้อ่อนโยนยืนอยู่ข้างๆ เขา เย่จิ่งอวี้ก็อดไม่ได้ที่จะจับมือนางด้วยอารมณ์ทอดถอนใจ
อินชิงเสวียนเม้มริมฝีปากยิ้มๆ
“ทำไมท่านดูกังวลมากกว่าไห่ถังล่ะ”
เย่จิ่งอวี้ไอแห้งๆ
“ที่ไหนกัน”
ภายในตำหนัก
เย่ไห่ถังสวมชุดพิธีการชั้นสูงตี๋อีสีดำตัดกับสีแดง เสื้อคลุมแขนกว้างสีแดงปักลายเมฆาสีทอง มงกุฎทองคำบนศีรษะหนักสองจิน ดูงดงามหรูหรายิ่งนัก
ถึงกระนั้นนางก็ยังไม่พอใจ ยังรู้สึกว่าตัวเองงดงามไม่พอ
“เอาชิ้นนั้นมาปักให้ข้าด้วย ใส่อันนี้ด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...
มีคนเล่นตุกติกกับชุดของเด็กแล้วอยู่ในวังต้องระมัดระวังก็รู้อยู่นะคราวนี้ผ่านมาทางคนที่สนิท...
ดีจริงแทนที่จะเสียคะแนนได้คะแนนมาเพิ่มอีก...