สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1537

เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย

เมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา

“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”

เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนาง

พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”

อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”

ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้ว

เย่ไห่ถังสูดจมูก

“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”

เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”

หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเล่ห์ ทันทีที่ฮ่องเต้เงยหน้าขึ้น เขาก็เข้าใจความหมายทันที ก็โค้งคำนับแล้วพูดว่า “กระหม่อมจะกลับไปหาแม่ทัพน้อยอินเดี๋ยวนี้”

จู่ๆ เย่ไห่ถังก็เริ่มวิตกกังวล

“เจ้าหยุดก่อน ใครขอให้เจ้าไปบอกแบบนั้น”

นางกระทืบเท้าด้วยความโกรธ หันกลับมาพูดว่า “ในเมื่อถึงฤกษ์มงคลแล้ว ถึงเวลาที่น้องออกจากวัง เสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้รักษาตัวด้วย”

หลังจากพูดจบก็แทบรอไม่ไหวที่จะเดินไปที่ประตูวัง

“รีบพยุงข้ารถเกี้ยวเร็วเข้า อย่าให้เขารออีกนาน”

เย่จิ่งอวี้ยิ้มอย่างขมขื่น

“มีสามีแล้วลืมพี่ชายจริงๆ”

“อยากไปส่งนางที่ประตูวังไหม”

อินชิงเสวียนสามารถเข้าใจอารมณ์ของเย่จิ่งอวี้ได้ ตอนนี้ในวังเหลือเพียงพวกเขาสองคน ซึ่งรู้สึกเหงาเล็กน้อยเหมือนกัน

คนที่เหลืออยู่ก็มีเพียงไท่เฟยกับไท่ผินที่สูงอายุขึ้นเรื่อยๆ พลังงานชีวิตเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ

เย่จิ่งอวี้ส่ายหัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์