“อยากเป็นศัตรูกับพี่ใช่ไหมขนม”
“เออ! อยากเป็นชนิดที่ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบด้วยซ้ำรู้เอาไว้ซะ!”
“ขนม!”
หมับ!
“มานี่!”
“เฮ๊ย! ปล่อย!” ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำฉันก็โดนเขาคว้าข้อมือแล้วดึงให้เดินกลับไปที่รถ ไอ้บ้านี่จะทำอะไรฉันเนี่ย!
“นี่ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ปล่อยสิวะ!” ฉันทั้งร้องตะโกนทั้งพยายามฝืนตัวเอาไว้ไม่ให้ถลาไปตามแรงลากของอีตานี่แต่น้องร่างเล็กเอวบางหุ่นดีเหมือนนางแบบน้องจะไปสู้เฮียเขาที่หุ่นล่ำกล้ามโตได้ยังไง! T^T
“หยุดโวยวายสักทีขนมถ้าไม่อยากโดนจูบโชว์” อีตาเควินหันมากัดฟันพูดกับฉันพร้อมกับส่งสายตาดุมาให้ นี่ไม่ได้กลัวเลยสักนิดถ้าคนเราจะจูบคนอื่นง่าย ๆ แบบนั้น ป่านนี้ฉันโดนจูบเป็นร้อยครั้งแล้วค่ะ
“อย่ามาขู่!”
จุ๊บ!
“อื้อ! อื้อ!!!” ฉันโดนเขาดึงเข้าไปจูบจริง ๆ ค่ะ ตอนแรกนึกว่ามันจะแค่จุ๊บปากแรง ๆ แต่มันไม่ใช่แบบนั้น เพราะเขาล็อกตัวล็อกหน้าฉันไว้แล้วก็เอาปากเขามาประกบปากฉันแรงมาก
“ถ้ายังอยากลองดีอีกคราวนี้จะจูบจริง ๆ ให้ปากเปื่อย ขึ้นรถได้แล้ว” พอเขาผละออกไปก็ขู่ฉันอีกรอบพร้อมกับดันฉันให้เข้าไปนั่งในรถ ตอนนี้ฉันช็อกมากเพราะนั่นมันจูบแรกของฉันเลยนะ ฉันสติแทบหลุดไปแล้วที่ต้องมาเสียเฟิร์สคิสให้ศัตรู!
ปัง!
“กรี๊ด!!!” ฉันได้สติขึ้นมาก็กรี๊ดใส่หน้าไอ้บ้าเควินทันที บักพากมึงมาจูบกูได้จั่งได๋ขนมสูนคัก! (บักพาก = เป็นคำด่าภาษาอีสานความหมายคล้ายคำด่าของภาษากลางว่าไอ้เหี้ย ,จั่งได๋ = ยังไง / อย่างไร , สูนคัก = โมโหมาก / โกรธมาก)
“ขนมเลิกดื้อสักทีได้ไหม” อีตาเควินไม่ได้สะดุ้งสะเทือนกับการกรี๊ดจนเสียงดังลั่นรถของฉันเลยสักนิด เขาแค่หันมามองด้วยความรำคาญแล้วก็พูดออกมาแค่นั้น
“ดื้อบ้าบออะไร! ปลดล็อกรถเดี๋ยวนี้นะ!” ฉันพยายามจะเปิดประตูแต่รถของเขามันเป็นแบบล็อกจากด้านคนขับเท่านั้นทำให้ฉันไม่สามารถเปิดประตูได้ หงุดหงิดโว๊ย!
“พี่ไม่ได้ใจดีนะขนม” เขาพูดออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ทั้งน้ำเสียงแล้วก็สีหน้าของเขามันบอกออกมาชัดเจนว่าเขาไม่ได้แค่ขู่ ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไรเหมือนกันที่ทำให้เขาดูน่ากลัวขึ้นมา อาจจะเพราะฉันไม่เคยเห็นโหมดนี้ของเขามั้งคะก็เลยเลือกที่จะไม่เสี่ยงดีกว่า
-เวลาต่อมา-
“ถึงแล้ว” นี่เป็นคำแรกหลังจากที่เขากับฉันนั่งรถมาด้วยกันตอนนี้อีตานี่ก็จอดรถที่หน้าคณะของฉันเรียบร้อยแล้ว ว่าแต่มาทำไมวะ
“มาทำไม?” ฉันหันไปถามเขาด้วยความสงสัย เมื่อกี้ยังทำท่าเหมือนจะลากฉันไปข่มขืนแต่ตอนนี้ดันพามาที่คณะซึ่งพามาทำไมวะขนมงงค่ะ
“จะมาคุยธุระกับเพื่อนไม่ใช่รึไง” เขาปลดเบลท์ออกแล้วก็หันมาพูดกับฉัน เออว่ะลืมไปเลยว่าโกหกไปแบบนั้น แล้วยังไงคะแค่พามาส่งนี่นะ
“ไม่ต้องทำหน้าสงสัยหรอกพี่จัดการขนมแน่ครับ แต่ไปคุยธุระเรื่องงานกับเพื่อนให้เสร็จก่อนพี่จะรอ” ฮะ! เขาพูดบ้าบออะไรออกมา น้องตกใจมากนะแสดงว่าโมโหแต่ยังมีคุณธรรมจริยธรรมนึกได้ว่าฉันมีธุระต้องจัดการก่อนสินะ ยอมใจค่ะ แต่มากไปกว่านั้นคือฉันไม่ได้นัดเพื่อนไว้ไง
“ใครจะบ้าให้นายมาทำอะไรฮะ”
“ก็ลองวัดใจกันดูว่าพี่จะปล่อยให้เด็กปากดีงี่เง่าแบบเราเดินเชิดออกไปได้ง่าย ๆ ไหม” อีตาเควินบอกฉันพร้อมกับยิ้มร้าย ๆ สำทับมาอีกที
ฉันเดินลงมาจากรถเขาด้วยความงง พอลงรถก็มีสายตาหลายคู่ที่มองรถอยู่ก่อนหน้านั้นแล้วมองมาที่ฉันด้วยความอยากรู้อยากเห็น ก็รถหรูขนาดนี้ใครไม่มองก็บ้าแล้วค่ะ ยิ่งเป็นฉันเดินลงมาด้วยรุ่นน้องก็เลยตาค้างกันไปใหญ่
“จะให้พี่ตามไปด้วยรึเปล่าหรือให้พี่รอที่ลานจอด” อีตาเควินลดกระจกลงมาถาม กล้าคิดนะยะว่าฉันจะอยากให้ตามไปด้วยนั่นสมองหรือซองเลย์คะเฮีย
“ไม่ต้อง! เสร็จแล้วเดี๋ยวลงมาเอง” ฉันแกล้งบอกด้วยใบหน้ามั่น ๆ แต่ฝันไปเถอะค่ะใครจะบ้าย้อนกลับมาหาเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: So Sexy Girl สยบรักร้ายนายเจ้าชู้
ตอนต่อไป มาตอนไหน...