“ดูเหมือนชื่อเสียงของน้องสามจะมีประโยชน์”
“จริงด้วย น้องสามเป็นจอมพลใหญ่ของหน่วยทหาร ถึงแม้คนที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นคนของหน่วยทหารก็ตาม แต่ครั้งนี้ดูเหมือนเป็นการใช้อำนาจในเรื่องส่วนตัว เกรงว่าอาจส่งผลให้ต้องขึ้นศาลทหาร”
“ที่นั่นถือเป็นฝันร้ายของทหารทุกคน”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลินเจิ้นจงก็รู้สึกกระหยิ่มใจ
คนอื่น ๆ ในตระกูลหลินรวมไปถึงคนของตระกูลอื่นต่างก็มีความคิดเช่นนี้ พวกเขาค่อย ๆ หันมองพวกของเฉินอีด้วยใบหน้าหยิ่งยโส
แต่ทว่า !
“ทำไมผู้ช่วยของพวกแกยังไม่มาอีก ?”
จู่ ๆ เฉินอีก็เอ่ยถามขึ้นมาด้วยท่าทีหมดความอดทน
หลินเจิ้นหลงนิ่งเงียบไปพักใหญ่ จากนั้นเขาจึงค่อย ๆ พูดออกมาว่า : “น้องสามของฉันกำลังยุ่งอยู่กับเรื่องภายในหน่วยทหาร ใครจะเหมือนนายที่เกณฑ์ทหารมาเป็นจำนวนมากเพื่อมาจัดการเรื่องส่วนตัวของตนเอง มันหมายความว่าอย่างไรกัน !”
“จริงด้วย”
หลินเทียนหรงเองก็พูดขึ้นมา “ต่อให้แกจะเป็นคนของหน่วยทหาร แต่ครั้งนี้ก็ถือว่าทำผิดกฎของหน่วยทหาร พวกแกรอรับโทษให้ดี ๆ เถอะ ความตายกำลังรอพวกแกอยู่ข้างใน”
“เหอะ ๆ จะต้องติดคุกไปตลอดชีวิต แกเต็มใจจริง ๆ หรือ ? เพื่อนังแพศยาสามคนเนี่ยนะ ?”
เธอแสยะยิ้มออกมาอย่างยโส
แต่เพียงครู่เดียวเธอก็ต้องหุบยิ้ม เพราะสายตาของเฉินอีที่เชือดเฉือนราวกับดาบคมที่กำลังทิ่มแทงเธอ
“แกอยากตายหรือ ?”
“นังสารเลว แกกล้าล่วงเกินนายหญิงกับนายน้อยทั้งสอง อยากรนหาที่ตายหรืออย่างไร !”
เสือขาวเดินตรงไปข้างหน้าแล้วตบเธอเข้าหลายฉาด ด้วยแรงมหาศาลของเขา แม้แต่หลินเจิ้นหลงที่เคยฝึกยุทธ์ก็ไม่อาจทานทนได้ นับประสาอะไรกับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างหลินเทียนหรง เธอหมดสติไปทันที
“แก แก แก !”
เมื่อหลินเจิ้นหลงเห็นหลานสาวของคนเองถูกตบหน้า เขาก็กัดฟันกรอดด้วยความโมโหทันที
แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเสือขาวที่รูปร่างสูงใหญ่กำยำ หลินเจิ้นหลงเองก็รู้สึกตกใจเช่นกัน
“คุกเข่าลง !”
เสือขาวก้าวขึ้นไปด้านหน้า แล้วใช้เท้าเตะคนของตระกูลหลินให้คุกเข่าลงทีละคน ๆ
ส่วนคนนอก เมื่อสบตาเข้ากับดวงตาที่น่ากลัวของเสือขาว ต่างก็รีบคุกเข่าลงในทันที
เมื่อเห็นตระกูลหลินซึ่งมีอิทธิพลมากขนาดนั้น กลับถูกทำร้ายอย่างไม่ไว้หน้า แล้วนับประสาอะไรกับพวกเขา
“คุกเข่าจนกว่าผู้ช่วยของพวกแกจะมา !”
เสือขาวตะคอกเสียงดัง ขณะที่เขากำลังเดินมุ่งหน้าไปหาเฉินอี จู่ ๆ เขาก็หรี่ตาลงและหันหลังกลับในทันที และยื่นมือขวาออกไป
“กระสุน !”
เฉ่าเฉียงเห็นสิ่งที่อยู่บนฝ่ามือของเสือขาวอย่างชัดเจน มันคือลูกกระสุน สิ่งนี้ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันที
“องครักษ์ทุกคน เริ่มปฏิบัติการป้องกันภัยขั้นสูงสุด !”
เฉ่าเฉียงตะโกนเสียงดัง
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเฉินอี ใคร ๆ ก็รู้ดีว่าหากมีเขาอยู่ คงไม่มีใครกล้ายิงเช่นนี้แน่นอน แต่ตอนนี้กลับมีคนทำ
รนหาที่ตายจริง ๆ !
แต่ทว่า !
“พอพูดถึงผีผีก็มา”
เฉินอีพูดด้วยน้ำเสียงปกติ แต่กลับดังเข้าหูของทุกคนพอดี
เฉ่าเฉียงหน้าถอดสี รีบหันมองด้านนอกตำหนักมังกรหยก เห็นทหารระดับพระกาฬกำลังระดมพลเข้ามาปิดล้อมที่นี่เอาไว้ในทันที
คนที่เป็นผู้นำไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลินเจิ้นเป้า !
“น้องสาม !”
ท่าทางของหลินเจิ้นหลงราวกับได้พบเจอผู้ช่วยชีวิต เขารีบตะโกนเสียงดังทันที
หลินเจิ้นเป้าไม่ได้สวมชุดทหาร แต่เดินเข้ามาด้วยท่าทีขึงขังราวกับสวมชุดทหารอยู่
“พี่ใหญ่ !”
เขากำลังจะเข้าไปประคองหลินเจิ้นหลงให้ลุกขึ้น แต่กลับมีคนเข้ามาขวางด้านหน้าของเขาเอาไว้ ไม่ใช่เสือขาว แต่เป็นองครักษ์เสือ
“เจ้ามังกรมีคำสั่ง ให้พวกเขาคุกเข่า แกมีปัญหาอะไรไหม ?” องครักษ์เสือพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
สิ่งนี้ทำให้หลินเจิ้นเป้ารู้สึกโกรธจัดอย่างไม่ต้องสงสัย
“แกคิดว่าแกเป็นใคร ? กล้าขวางทางฉันหรือ ?”
“ฉันเป็นใครนะหรือ ?” องครักษ์เสือหัวเราะเยาะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ศึกเดือด มหากาฬ