“ผู้ ผู้พัน !”
หลังจากเสียงอุทานด้วยความตกใจ เสียงของจอมพลหนุ่มก็ดังขึ้น หลินเจิ้นเป้ารู้สึกประหลาดใจในตอนแรก แต่เมื่อหันกลับไปมองเขาก็ต้องตกตะลึง
ส่วนกองทหารโหวยี่อีกสามพันนายก็ก้มหน้าก้มตาไม่กล้าสบตา
ตอนนี้ทำให้ใครหลายคนรู้สึกใจสั่นขึ้นทันที
“แม้แต่หลินเจิ้นเป้ายังเรียกว่าผู้พัน เขาจะต้องเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทหารโหวยี่ และในเวลาเดียวกันก็เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของหน่วยทหารภาคตะวันออกเฉียงโฮ่ต้าวฝู่ !
กองทหารโหวยี่และทหารมังกรลับต่างเป็นกองกำลังที่อยู่ในระดับเดียวกัน ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือทหารมังกรลับมักจะสู้รบอยู่ในต่างประเทศ จึงมีความแข็งแกร่งยิ่งกว่ากองทหารโหวยี่มาก
แต่ก็ไม่มีใครกล้าดูถูกกองทหารโหวยี่ เพราะผู้บัญชาการกองทหารโหวยี่กองนี้ เป็นจอมพลหนุ่มที่อายุน้อยที่สุดในหน่วยทหารภาคตะวันออกเฉียงใต้ และเกิดในตระกูลโฮ่ซึ่งถือเป็นตระกูลของยอดนักรบ ซึ่งเขาคนนี้ก็คือโฮ่ต้าวฝู่ !
กองทหารโหวยี่จำนวนสามพันนายที่หลินเจิ้นเป้าช่วยเขาดูและอยู่นี้ ก็เป็นเพียงแก่หนึ่งในกองทหารโหวยี่ที่เขามีอยู่ในมือเท่านั้น !
โฮ่ต้าวฝู่เหลือบมองหลินเจิ้นเป้า จากนั้นจึงลูบหน้าผากที่เต็มไปด้วยเลือดของเขา
“ลำบากนายแล้ว”
เมื่อได้ยินคำสี่คำนี้ หลินเจิ้นเป้าก็รู้สึกเบาใจลงอย่างมาก
ดูเหมือนว่าผู้พันจะเข้าข้างเขา
แต่ทว่า คำพูดต่อจากนี้กลับทำให้หลินเจิ้นเป้าและคนอื่น ๆ ต้องยืนผงะอยู่ที่เดิม
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายไม่ใช่ผู้บัญชาการของกองทหารโหวยี่อีกต่อไปแล้ว ส่วนที่เหลือจะจัดการเช่นไรก็แล้วแต่คุณเฉิน ไม่สิ แล้วแต่เจ้ามังกรครับ”
น้ำเสียงของโฮ่ต้าวฝู่ไพเราะอย่างมาก แต่ตอนนี้กลับดูเหมือนเสียงกระซิบจากปีศาจร้าย
หลินเจิ้นเป้าโซเซและทรุดตัวลงบนพื้นในที่สุด
“มี มีสิทธิ์อะไร ?”
“อะไรนะ ?”
โฮ่ต้าวฝู่หัวเราะ
เป็นรอยยิ้มที่เย็นชาอย่างยิ่ง
“นายยังถามอีกหรือว่าฉันมีสิทธิ์อะไร”
“คนที่กล้าบีบบังคับเจ้ามังกรอย่างนายถือว่ามีโทษมหันต์ กองทหารโหวยี่ของฉันไม่มีทางให้อภัยนายแน่นอน”
“อีกอย่าง ดูเหมือนนายจะหยิ่งยโสมากเกินไปแล้ว”
“คนที่ตระกูลหลินของนายดูถูกไม่ใช่เพียงแค่ภรรยาและลูกสาวของเจ้ามังกรเท่านั้น แต่ยังมีครอบครัวของประชาชนตาดำ ๆ อีกนับไม่ถ้วน”
“ก่อนหน้านี้นายต้องการข่มขู่เจ้ามังกร ลงมือกับเขาโดยไร้ความปรานี แต่นายลองดูด้านหลังนายสิ เหยื่อผู้บริสุทธิ์เหล่านั้น พวกเขาทนรับผลที่ตามมาเหล่านี้ได้อย่างนั้นหรือ ?”
หลินเจิ้นเป้ายืนนิ่ง เขาหันกลับไปมองตามสัญชาตญาณ และแสดงอาการตกใจออกมาทันที
คนกลุ่มหนึ่ง
ประมาณสามสิบถึงสี่สิบคน
มีทั้งคนแก่ ทั้งเด็ก ทั้งผู้ชาย ทั้งผู้หญิง
ทุกคนล้วนกำลังจ้องมองเขาและตระกูลหลินด้วยสายตาโกรธแค้น
“พวก พวกคุณ !”
หลินเจิ้นหลงเองก็มองเห็นแล้ว และเขาก็รู้สึกตกใจไม่น้อย
คนเหล่านี้แต่ละคนคือคนในครอบครัวของหญิงสาวที่หลินเทียนเชิงเคยทำร้ายก่อนหน้านี้ มีทั้งบรรดาสามีของพวกเธอ ลูก ๆ พ่อแม่ พี่น้อง
ก่อนหน้านี้เขาใช้เส้นสายในการกดขี่คนเหล่านี้เอาไว้ และบีบบังคับไม่ให้พวกเขามีปากมีเสียง
หากใครที่ไม่เชื่อฟังก็จะส่งลงนรกทันที
แต่ตอนนี้ตระกูลหลินของพวกเขาจบเห่แล้ว
นำโดยเฉ่าเฉียง ตามมาด้วยโฮ่ต้าวฝู่ แล้วยังมีเฉินอีซึ่งไม่รู้ที่มาที่ไปแน่ชัด แต่ดูเหมือนจะมีฐานะที่สูงส่งอย่างมาก แล้วยังจะมีเหตุผลอะไรที่ตระกูลหลินจะไม่จบเห่กัน
ตอนนี้หลินเจิ้นเป้าเข้าใจอย่างถ่องแท้
ความจริงแล้ว คนที่หลินเจิ้นหลง หลินเทียนเชิง รวมไปถึงคนของตระกูลหินทั้งหมดกดขี่ข่มเหง ไม่ได้มีเพียงแค่ภรรยาและลูกสาวของเฉินอีเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องที่อยู่ด้านหลังเหล่านั้นด้วย ซึ่งถือว่าตระกูลหลินทำเรื่องที่ยากเกินกว่าจะให้อภัยได้ !
“เจ้ามังกร คุณตัดสินใจเถอะครับ”
โฮ่ต้าวฝู่ไม่คิดจะหันมองหลินเจิ้นเป้าอีก เขาหันไปหาเฉินอีแล้วยกมือขึ้นคารวะ
ตอนนี้สีหน้าของเฉินอียังคงเรียบเฉย
แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นเหล่านั้น เขาก็รู้ได้ในทันทีว่า เรื่องนี้จำเป็นจะต้องตัดสินใจแล้ว
“ตระกูลหลิน ทั้งเจ้าสำนักหลินและคนที่กระทำความผิดทั้งหมดให้รับโทษด้วยการปลิดชีวิตตัวเอง”
“ส่วนคนที่เหลือในตระกูลหลิน จะได้รับการละเว้นชีวิต แต่ก่อนที่จะมีทายาทรุ่นต่อไป ห้ามประกอบธุรกิจใด ๆ เด็ดขาด”
“พวกแกทำร้ายคนธรรมดา ก็ควรจะต้องลองใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาดูบ้างถึงจะดี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ศึกเดือด มหากาฬ