ศึกเดือด มหากาฬ นิยาย บท 4

สรุปบท บทที่ 4 ชาติหน้าจำไว้ว่าต้องเป็นคนดี: ศึกเดือด มหากาฬ

บทที่ 4 ชาติหน้าจำไว้ว่าต้องเป็นคนดี – ตอนที่ต้องอ่านของ ศึกเดือด มหากาฬ

ตอนนี้ของ ศึกเดือด มหากาฬ โดย Light-Knight ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 4 ชาติหน้าจำไว้ว่าต้องเป็นคนดี จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ลูกน้องเดินเข้ามากางร่มกันแดดสุดหรูพร้อมกับยกเก้าไท่ซือตัวหนึ่งมาตั้งไว้ จากนั้นหลินเทียนเชิงจึงนั่งลงไปอย่างสบายๆ “ถึงสองนาทีอีกแล้ว ไป กระชากเสื้อผ้าของเธอลงมา!”

หลังจากที่ได้ยินประโยคนี้ชายหุ่นล่ำพวกนั้นต่างก็เกิดความอยากรู้อยากลองเต็มไปหมด

การได้ฉีกเสื้อผ้าของสาวสวยอันดับหนึ่งของเมืองฉือ แค่คิดก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว

“ยังกล้ามีคนที่จะมาฆ่าล้างบางฉันหลินเทียนเชิงเก้าชั่วโคตร”

“มาสิ มาดูเธอโดนเรียงคิวจนตายกับตาตัวเองซะ”

“น่าสนุก น่าสนุกจริงๆ เลย” หลินเทียนเชิงจิบชาลงไปอย่างเชื่องช้า ใบหน้าพลันปรากฏรอยยิ้มเยาะเย้ยออกมา

อยากจะช่วยฉินปิงหลัน ฝันไปเถอะ !

ประตูบ้านของหลินเทียนเชิงคนนี้คิดว่าเข้าง่ายขนาดนั้นหรือไง ?

ในขณะนั้นเองบนท้องฟ้าก็มีเสียงเฮลิคอปเตอร์ดังสนั่นขึ้นมา เฉินอีที่นั่งอยู่ในห้องโดยสารมองเห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์ข้างริมทะเลสาบพลันกำหมัดแน่นขึ้นมา จนเสียงกระดูกดังกรอบแกรบ

ผู้หญิงที่คุกเข่าอยู่กับพื้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต้องเป็นฉินปิงหลันแน่นอน

บรรยากาศในห้องโดยสารเหมือนจะกลายเป็นน้ำแข็งขึ้นมา จนหยางเหว่ยที่กำลังร้องขอชีวิตอย่างทรมานหมดสติลงไปด้วยแรงกดดันทรงพลังจากเฉินอี

“เจ้ามังกร ผมจะลงไปจัดการพวกสารเลวนั้น แล้วช่วยนายหญิงออกมาเองครับ !”ดวงตาของมังกรหนึ่งแดงเดือดร้องคำรามออกมา

“ไม่ต้อง ผมจะไปรับเธอด้วยตัวเอง นี่เป็นสิ่งที่ผมติดค้างเธอเอาไว้” จู่ๆ เฉินอีก็สงบอารมณ์ลงมา

มีเพียงมังกรหนึ่งและคนอื่นๆ ที่เข้าใจเท่านั้นว่าเจ้ามังกรที่สงบในตอนนี้ถึงจะเป็นสภาพที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดของเขา เพราะว่านี่คือจุดเริ่มต้นที่เขาจะฆ่าล้างบาง

เฉินอีตวาดสายตามองไปยังหยางเหว่ยที่หมดสติไปแล้วลุกขึ้นยืน

“ชาติหน้าจำไว้ว่าต้องเป็นคนดี”

เฉินอีพูดไปพลางโยนหยางเหว่ยออกจากเฮลิคอปเตอร์ ตกลงไปกระแทกลงท่ามกลางฝูงคนที่อยู่ในลาน

จากนั้นเฉินอีก็ดีดตัวกระโดดลงมาจากเฮลิคอปเตอร์

หลินเทียนเชิงและคนอื่นแหงนหน้าขึ้นไปมองเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่เหนือหัวอย่างสงสัย แต่สิ่งที่เห็นมีเพียงเงาบางอย่างราวกับกระสุนปืนใหญ่ที่ลงมากระแทกกับกลุ่มคนข้างล่าง ในนั้นมีบอดี้การ์ดคนหนึ่งที่ไม่ทันได้หนีจึงถูกกระแทกเข้าจนบาดเจ็บเจียนตาย

หลินเทียนเชิงที่เห็นภาพเห็นการณ์ตรงหน้า ดวงตาหรี่ลง พร้อมกับความรู้สึกไม่ดีผุดขึ้นมาในใจ

การปรากฏตัวโคตรรุนแรง!

อย่าบอกนะว่าไอ้บัดซบนี่เป็นคนมีอำนาจ?

ไม่มีทาง

ถ้าหากฉินปิงหลันมีที่พึ่งแบบนี้ ไม่มีทางที่เขาจะไม่รู้แน่นอน

หลังจากนั้น ร่างคนจำนวนนับไม่ถ้วนก็ลงมาจากฟากฟ้าราวกับเทพเจ้าลงมายังโลกมนุษย์ค่อยๆ ร่อนลงมาอยู่ต่อหน้าของพวกเขาอย่างมั่นคง โดยเฉพาะคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าที่สุดบนร่างกายของเขามีไอพิฆาตพุ่งออกมาจนทำให้ใครที่เห็นเกิดความตื่นตระหนกจนแทบจะต้องคุกเข่าร้องขอชีวิต

ทุกคนในลานไม่เคยเห็นการปรากฏตัวแบบนี้มาก่อน ต่างพากันอึ้งตะลึงไปตามๆ กัน

ก้าวเท้าที่หนักแน่นของเฉินอีก้าวเข้าไปหาฉินปิงหลันอย่างร้อนใจ

ความรู้สึกผิดมากมายหลั่งไหลเข้ามาในใจ ด้วยความที่เขาไม่รู้ว่าควรจะเผชิญหน้ากับผู้หญิงคนนี้อย่างไรดี

ทุกอย่างที่ผู้หญิงคนนี้ต้องแบกรับล้วนเป็นความผิดบาปของตัวเขาในตอนนั้น ตั้งแต่ต้นจนจบตัวเองก็คือไอ้สารเลว

หลังจากที่ฉินปิงหลันได้เห็นเฉินอี แววตาที่สิ้นหวังฉายแววสงสัยออกมา

รู้สึกคุ้นหน้าจัง เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน ?

คราวนี้เหล่าลูกน้องถึงค่อยตั้งสติได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นชายหุ่นล่ำที่สวมเพียงกางเกงใน หรือบอดี้การ์ดรักษาความปลอดภัย ต่างก็ไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวใดๆ เลยทั้งสิ้น

กลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นเหมือนกับตัวร้ายในละครที่ฆ่าคนมาแล้วนับไม่ถ้วน ในขณะที่พวกเขาเป็นเพียงตัวประกอบฉากเท่านั้น ไม่ได้เอาชีวิตมาขาย !

แสงสะท้อนเคลื่อนไหวอีกครั้ง ทำให้แขนซ้ายของหลินเทียนเชิงหลุดลงมา

แขนทั้งสองของหลินเทียนเชิงกุดแล้ว เขาลงไปนอนกลิ้งอยู่กับพื้นพร้อมร้องคร่ำครวญอย่างทรมาน ภายในใจเกิดความหวาดกลัวมากมายไร้ที่สิ้นสุด

นี่มันคนบ้า คนบ้าที่ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นเอาแต่จะฆ่าคนอย่างเดียว

บอดี้การ์ดของตระกูลหลินเตรียมที่จะถอยกลับ แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้หลบหนี มังกรหนึ่งก็ได้นำกองกำลังเล็กตามไปฆ่าทันที

พวกเขาเป็นเหมือนกับเสือที่พุ่งโจมตีฝูงแกะ เพียงครู่เดียวเสียงกรีดร้องก็ดังไปทั่วทุกทิศ

หลังจากผ่านไปสิบนาที การต่อสู้จบลง บอดี้การ์ดนับสิบที่อยู่ในคฤหาสน์ก็นอนกองอยู่กับพื้นอย่างไม่เหลือลมหายใจเลยสักคน!

ในขณะที่อีกฝั่ง หลินเทียนเชิงที่ได้เห็นศพมากมายบนพื้นก็รู้สึกตกใจอย่างถึงขีดสุด จนร่างกายสั่นเทาอย่างรุนแรง

“ไม่……อย่าฆ่าฉัน……อย่า ฉันเป็นคุณชายตระกูลหลิน แก แกจะฆ่าฉันไม่ได้ ……ฉันมีเงิน ฉันจะเอาเงินทั้งหมดให้แกเลย”

หลินเทียนเชิงลืมความเจ็บปวดใช้หลังถูไถค่อยๆ ขยับไปข้างหลังทีละนิดละน้อย

เฉินอีกกัดฟันมองไปยังหลินเทียนเชิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยอายสังหาร พร้อมกับยกดาบอ่อนในมือขึ้นอีกครั้ง

แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจนทำให้เฉินอีชะงักมือลง

“คือคุณ!!”

ฉินปิงหลันลุกขึ้นยืนจ้องเขม็งไปยังเฉินอีอย่างไม่ละสายตาพลางกรีดร้องออกมาเสียงสูง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ศึกเดือด มหากาฬ