กลับมาที่ชั้นยี่สิบห้าของตึงจิ่งช่าง มังกรเขียวแกว่งแขนโยนนักฆ่าหญิงลงกับพื้น
“เจ็บนะ!”
นักฆ่าหญิงถูกปลุกให้ตื่นในทันใดและรู้สึกเจ็บแปล๊บที่หลัง แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นดวงตาของหล่อนก็ต้องเบิกกว้าง
ไม่ต้องพูดถึงชายเสื้อเขียว แม้แต่เป้าหมายของหล่อนก็อยู่ที่นี่ โดยเฉพาะสถานที่นี้ก็ไม่ใช่ห้องที่เขาเคยอยู่ด้วยซ้ำ
“พวกนาย!”
นักฆ่าหญิงตัวสั่นในชั่วพริบตา หล่อนลุกขึ้นมาตั้งท่ามือแต่ก็ต้องพบว่ากริชที่อยู่กับตัวนั้นหายไปแล้ว
เมื่อหันกลับไปก็ต้องพบว่าเป้าหมายในการสังหารของหล่อนกำลังเล่นกับกริชในมือ
“กริชฮามุตสามชั่วอายุคนที่ใช้ปฏิบัติการในสนามรบของจักรวรรดิแอตแลนติก หล่อนนี่มีความสามารถเลยทีเดียว”
เฉินอีกพูดประโยคนี้ออกมา
ในใจของนักฆ่าหญิงสั่นเล็กน้อย
กริชเล่มนี้เป็นอุปกรณ์ทางทหารที่กรมการอุตสาหกรรมทหารจักรวรรดิแอตแลนติกเพิ่งทำขึ้นมาใหม่ ตามหลักแล้วมันมีใช้จำกัดในบางพื้นที่เท่านั้น พวกทหารภายในประเทศเองก็ไม่ค่อยคุ้นเคยกับสิ่งนี้นักแต่ชายที่อยู่ตรงหน้ากลับพูดความจริงนี้ออกมาได้ ในใจของนักฆ่าหญิงจึงเกิดความคิดขึ้นมา–
ข้อมูลที่ได้มาต้องไม่ถูกต้องแน่!
มีลูกน้องที่เก่งกาจกว่าตนอีกทั้งยังรู้ข้อมูลพวกนี้ อีกฝ่ายจะเป็นแค่พนักงานออฟฟิศธรรมดาๆคนหนึ่งได้ยังไงกัน!
“นายเป็นใครกันแน่?”
นักฆ่าหญิงกัดฟันถามและทันใดนั้นหล่อนก็นึกถึงภาพยนตร์ของบางประเทศ ชายพวกนี้คงจะไม่ข่มขืนแล้วค่อยฆ่าหล่อนหรอกใช่ไหม ท้ายที่สุดแล้วผู้นำมูลนิธิก็จะตามหานักฆ่าหญิงและลอบสังหารตนอยู่ดี จุดมุ่งหมายก็คือให้สนุกสนานไปกับความเพลิดเพลินนี้ซะ
แต่หล่อนมองเฉินอีผิดไป
“คนของบริษัทฮามุตเหรอ?”
เฉินอีไม่ได้ตอบคำถาม
เขาต่อสู้ที่ต่างประเทศมานานหลายปี เจอกลุ่มต่อสู้มานับไม่ถ้วนและในบรรดากลุ่มต่อสู้นั้นบริษัทฮามุตก็ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีวิธีการต่อสู้เอกลักษณ์เฉพาะตัว แม้ว่าเฉินอีจะดูถูกดูแคลนแต่เขาก็ยังพอจำได้เลยรู้ว่าวิธีที่นักฆ่าสาวใช้กับมังกรเขียวนั้นเป็นวิธีบริษัทฮามุตใช้นั่นเอง
เปลือกตาของนักฆ่าหญิงสั่นระริก
“นึกไม่ถึงว่านายจะรู้จักบริษัทฮามุตด้วย?”
สิ่งที่หล่อนพูดเกี่ยวกับบริษัทฮามุตนั้นไม่ใช่แค่เรื่องกรมการอุตสาหกรรมทางทหารเท่านั้นแต่ยังพูดถึงองค์กรนักฆ่าที่บริษัทฮามุตบ่มเพาะก่อตั้งขึ้นมาอีกด้วย อีกทั้งเมื่อหล่อนออกจากบริษัทฮามุตก็ได้กลับมาที่ประเทศจีนและทำงานเป็นนักฆ่าแบบพาร์ทไทม์
เฉินอียิ้มพร้อมกับพูดว่า “แน่นอนว่าฉันรู้เรื่ององค์กรนักฆ่าของบริษัทฮามุต ดูเหมือนว่าเมื่อตอนนั้นพวกหล่อนจะส่งคนจำนวนมากมาฆ่าฉันด้วยและหนึ่งในนั้นก็คือฮามุตอีซื่อที่ตอนนี้ได้มาทำงานภายใต้การควบคุมของฉันแล้ว”
“อะไร!”
สีหน้าของนักฆ่าหญิงเปลี่ยนไป
“นายจะมาล้อเล่นอะไรกัน เห็นได้ชัดว่าฮามุตอีซื่อได้ไปลอบสังหารเจ้ามังกรของสำนักมังกรลับที่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนเลยด้วยซ้ำ จะเป็นไปได้ยังไงที่…”
ทันใดนั้น บทสนทนาของนักฆ่าหญิงก็หยุดลงพร้อมกับมองไปที่เฉินอีด้วยหน้าตาที่เหลือเชื่อ “นาย นาย นายคือเจ้ามังกรของสำนักมังกรลับงั้นเหรอ?”
“จริงแท้แน่นอน”
เฉินอีแกว่งมือพร้อมกับโยนกริชกลับไปให้นักฆ่าหญิง “หล่อนอยากจะลองดูหน่อยไหมล่ะ?”
“ฉัน!”
นักฆ่าหญิงกลืนน้ำลายลงอย่างกะทันหัน
เมื่อกริชกลับเข้ามาอยู่ในมือ แน่นอนว่าได้เพิ่มความปลอดภัยขึ้นมาไม่น้อยเลยแต่อย่างไรก็ตามหล่อนกลับไม่กล้าที่จะลงมือกับเฉินอีอยู่ดี
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่เจ้ามังกรของสำนักมังกรลับแต่ลูกน้องของเขาก็ถือว่ามีฝีมือที่เก่งกาจ แล้วใครกันล่ะจะมารับประกันว่าเฉินอีจะมีฝีมือที่แย่กว่าหล่อน?
“เหอะเหอะ” เฉินอีหัวเราะออกมาเล็กน้อย “หล่อนเคยคิดที่จะเปลี่ยนอาชีพบ้างไหม?”
“ห๊ะ?”
“ฉันพูดว่าหล่อนเคยลองคิดที่จะไม่เป็นนักฆ่าไหม การมาเป็นองครักษ์คุ้มกันก็ไม่เลวเหมือนกันนะ ไม่ใช่เหรอ?”
“นายต้องการให้ฉันปกป้องนายงั้นเหรอ?”
นักฆ่าหญิงตกตะลึง ร่างกายมีอาการหนาวสั่นในทันที
องครักษ์หญิงก็เหมือนกับเลขาผู้หญิงนั่นแหละ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ศึกเดือด มหากาฬ