ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 1010

เวลานี้ใจกลางทะเลสาบมีไอหมอกสีเทาน้อยใหญ่หลายสิบกลุ่มลอยอยู่ด้านบน ไอน้ำสีฟ้าหนาเท่านิ้วมือสายแล้วสายเล่าลอยเข้าไปในหมอกสีเทาเหนือผิวทะเลสาบไม่ขาดสาย

ด้านในไอหมอกสีเทาแต่ละกลุ่มเห็นหัวภูตสีเขียวหม่นหัวหนึ่งอยู่เลือนราง

หัวภูตเหล่านี้เหนือปากไม่มีจมูก มีเพียงใบหูข้างหนึ่ง แต่ซ้ายขวาสองฝั่งของศีรษะกลับมีดวงตางอกอยู่ฝั่งละคู่ และบนกระหม่อมของพวกมันยังมีดวงตาขนาดเท่ากำปั้นดวงหนึ่งปิดสนิทอยู่ แลดูประหลาดยิ่งนัก

ภูตเหล่านี้กำลังโคลงศีรษะไปมาอย่างอารมณ์ดี อ้าปากกว้างกลืนกินไอน้ำสีฟ้าท่าทางเพลิดเพลิน

ในตอนนี้เองเสียงแหวกอากาศแสบหูก็ดังขึ้นมาจากขอบฟ้าไกล แสงจิตวิญญาณกะพริบวูบวาบเหนือเทือกเขาสีเทา จากนั้นจุดแสงหลากสีหลายจุดก็ทยอยปรากฏขึ้น

“แย่แล้ว เหมือนจะมีผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์มา รีบหลบเร็ว!” เสียงกรีดร้องตื่นตระหนกดังออกมาจากหมอกสีเทาก้อนหนึ่ง

หลังจากนั้นไอหมอกสีเทาก็ดิ่งลงเบื้องล่างแล้วสลายตัวดัง “ฟู่” ภูตที่มีศีรษะใหญ่โตไม่สมดุลกับร่างกายซึ่งเป็นสีเขียวหยกทั้งตัวกระโดดออกมาจากด้านใน ศีรษะสภาพเหมือนกับหัวภูตที่อยู่ในหมอกสีเทาเมื่อครู่ทุกประการ

เจ้าพวกนี้ก็คือภูตเจ็ดทวารที่พวกหลิ่วหมิงคุยถึงนั่นเอง

ทันทีที่ภูตตนนี้เผยร่างออกมา มันก็มุดเข้าไปในเนินดินลูกหนึ่งริมทะเลสาบอย่างไม่รีรอ

ไอหมอกสีเทาที่เหลือทยอยสลายตัวตามกันมาติดๆ ภูตเจ็ดทวารที่หน้าตาเหมือนกันต่างกระโดดออกมาจากด้านในแล้วพากันมุดเข้าไปในเนินดินลูกที่เหลือ

เวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจให้หลัง ท้องนภาเหนือทะเลสาบก็หลงเหลือไอหมอกสีเทาค่อนข้างใหญ่เพียงไม่กี่ก้อนเท่านั้น

“เหอะ ตระหนกอะไร หากเผ่ามนุษย์อยากกำจัดพวกเราจริง พวกเราคงอยู่ที่นี่ไม่ได้นานแล้ว ข้าคิดว่าคงจะมาทำการค้าครั้งใหม่อีกล่ะสิ จิ๊ๆ” ภูตที่มีดวงตาสีเขียวหยกสองข้างกระโดดออกมาจากไอหมอกก้อนหนึ่ง บนใบหน้าของมันไม่มีสีหน้าหวาดกลัวแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามมันกลับโคลงศีรษะแล้วกลายร่างเป็นปราณสีเทาสายหนึ่งพุ่งขึ้นฟ้า ตรงเข้าไปเผชิญหน้า

“เจ้าพวกผีขี้ขลาด! นี่เป็นโอกาสมั่งคั่งแท้ๆ ดูซิว่าครั้งนี้ผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์จะมอบสมบัติอะไรให้พวกเรา!” ในหมอกสีเทาอีกก้อนหนึ่ง ภูตที่มีดวงตาสองข้างเป็นสีโลหิตตนหนึ่งกระโดดออกมา มันฉีกยิ้มเหี้ยมเกรียมแล้วตามมาติดๆ

ภูตเจ็ดทวารที่อยู่ในหมอกสีเทาไม่กี่ก้อนที่เหลือลังเลอยู่พักหนึ่งก็ตามไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่ยังรักษาระยะห่างเล็กน้อยกับภูตเจ็ดทวารสีแดงและสีเขียวสองตนนั้น

ครู่หนึ่งหลังจากนั้นลำแสงหลากสีก็หยุดอยู่บนท้องนภาเหนือทะเลสาบ กลุ่มของหลิ่วหมิงเผยร่างออกมา

ไอหมอกสีเทาสายหนึ่งม้วนตัวเบื้องหน้าพวกเขา จากนั้นร่างของภูตเจ็ดทวารหลายตนก็ปรากฏออกมา

“ทุกท่านเดินทางมาไกล คิดว่าคงมาแลกเปลี่ยนอีกแล้วสินะ ว่าไปสิครั้งนี้อยากฟังข่าวเรื่องอะไรเล่า?” ยังไม่ทันที่ทุกคนจะเอ่ยปาก ภูตเจ็ดทวารดวงตาสีโลหิตตนนั้นก็ชิงเอ่ยปากขึ้นก่อน

แม้หมอกสีเทาที่ภูตเจ็ดทวารตนนี้สร้างขึ้นมาจะใหญ่กว่าภูตตนอื่นอยู่บ้าง แต่มันก็พลังระดับของเหลวจิตวิญญาณขั้นปลายเท่านั้น ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกหลิ่วหมิง ในน้ำเสียงกลับไม่แสดงความขลาดกลัวออกมาแม้แต่น้อย

“ขออภัยยิ่งนัก ครั้งนี้พวกเราได้รับคำสั่งมากำจัดพวกเจ้า!” ผู้ฝึกฝนแซ่หมิ่นผู้มีใบหน้าซีดเหลืองหัวเราะแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขายกแขนเสื้อขึ้นอย่างไม่มีเค้าลางบอกแม้แต่น้อย ดัชนีกระบี่ก่อตัวกลายเป็นแสงสีเทาเส้นหนึ่งพุ่งออกไป

เสียงกระบี่ครวญทุ้มต่ำดังขึ้น!

แสงสีเทาเจิดจ้าแสบตาสว่างขึ้นเหนือศีรษะของภูตเจ็ดทวารที่มีดวงตาสีเลือด กระบี่ยักษ์สีเทาหม่นเล่มหนึ่งขยายใหญ่ขณะแล่นโต้ลม จากนั้นสั่นแผ่วเบากลายเป็นรุ้งยาวสีเทาเส้นหนึ่งฟันลงมา

“พวกเจ้า…”

ภูตเจ็ดทวารดวงตาสีเลือดสีหน้าเปลี่ยนไปในพริบตา ไอหมอกสีเทาทั่วร่างหดเข้าไปก่อนจะระเบิดออกมาจากดวงตาที่อยู่เหนือหัว ลำแสงสีเลือดหนาเท่าแขนโถมออกมาประจันหน้ากับรุ้งยาวสีเทาที่พุ่งเข้าใส่

เสียงดังสนั่นดังขึ้นครั้งหนึ่ง ลำแสงสีแดงปะทะกับรุ้งยาวสีเทาอย่างรุนแรงแล้วพังทลายกลายเป็นละอองแสงสีแดงในพริบตา

แสงสีเทากะพริบวูบหนึ่ง

ไอหมอกทั้งก้อนก็ถูกผ่าจากหนึ่งเป็นสอง ภูตเจ็ดทวารดวงตาสีเลือดร่างแยกเป็นสองเสี่ยงร่วงหล่นจากท้องนภา

นับตั้งแต่หัวหน้ากลุ่มคนนี้ลงมือจนกระทั่งสังหารภูตเจ็ดทวารดวงตาสีโลหิตตนนี้สำเร็จแทบจะเกิดขึ้นในเวลาหนึ่งลมหายใจ นี่ทำให้ภูตหลายตนที่เหลือรวมทั้งภูตเจ็ดทวารดวงตาสีเขียวหยกสีหน้าเปลี่ยนไปในฉับพลัน พวกมันรีบแปลงเป็นไอหมอกสีเทาก้อนแล้วก้อนเล่าแหวกท้องฟ้าหนีไปทางผิวทะเลสาบทันที

“หัวหน้า นี่ท่านทำอะไร พวกเราไม่ได้จะแลกเปลี่ยนกับภูตเจ็ดทวารหรือ” บุรุษผู้สะพายคันศรที่อยู่ด้านหลังเพิ่งได้สติกลับมา เขาเอ่ยถามทั้งสีหน้าตกตะลึง

“เจ้ามองไม่ออกหรือ ยามนี้ภูตเจ็ดทวารเหล่านี้เหิมเกริมจนจะมาต่อรองเงื่อนไขกับพวกเรา! หากไม่แสดงพลังให้พวกมันเห็นเสียบ้าง พวกมันแต่ละตนจะเหยียบบนหน้าพวกเราแล้ว” ผู้เฒ่าหลังค่อมหัวเราะทุ้มต่ำแผ่วเบาแล้วหันไปส่งกระแสจิตกับทุกคน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา