ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 1013

หลิ่วหมิงที่อยู่กลางรุ้งกระบี่หัวเราะหยัน

แม้หางกระดูกของผีสุนัขยักษ์ตัวนี้จะนับได้ว่าทนทาน แต่เมื่อครู่ก็ถูกวิชากระบี่ยักษ์ของกระบี่ขู่หลุนฟันบาดเจ็บไปแล้ว ต่อให้ใช้พลังวิเศษบางอย่างของภูตผีทำให้แข็งแกร่งขึ้น แต่จะขวางการโจมตีของวิชากระบี่ร่างเป็นหนึ่งได้อีกอย่างไร

เขาโบกมือข้างหนึ่ง รุ้งกระบี่สีม่วงส่ายแผ่วเบาหนหนึ่งก็เคลื่อนเป็นวงรอบกระบองกระดูกที่เกิดจากหางอสูรได้อย่างสบายๆ

ฉึบ! หางกระดูกของสุนัขยักษ์ฉับพลันถูกตัดเรียบเสมอฐานจนกลายเป็นท่อนๆ

แต่รุ้งกระบี่สีม่วงก็ชะงัก จากที่ฟันลงมาหยุดไปชั่วครู่เช่นกัน

สุนัขยักษ์สีดำไม่มีเวลาสนใจความเจ็บปวดที่ส่งมาจากส่วนหาง สี่ขาหมอบกับพื้น ร่างกายก้มโค้งหมายจะพุ่งถอยไปด้านหลัง

หลังจากประมือเมื่อครู่ ผีตนนี้ก็รู้แล้วว่าคู่ต่อสู้ตรงหน้าคนนี้ที่ดูเหมือนพลังเวทจะอ่อนแอกว่ามันมาก แท้จริงพลังแข็งแกร่งจนน่ากลัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชาท่าร่างที่ผลุบโผล่ดั่งภูตผีของเขา เมื่อประสานกับแสงกระบี่สีม่วงที่ดุดันอย่างที่สุดสายนั้น กระทั่งหางกระดูกที่แข็งแกร่งที่สุดในร่างกายมันก็ยังถูกฟันขาดอย่างง่ายดาย สิ่งนี้ทำให้มันรู้สึกว่าต้านทานไม่ไหวอย่างสิ้นเชิง

ในตอนนี้เอง เหตุพลิกผันก็บังเกิด!

พริบตาที่สุนัขยักษ์สีดำเอนตัวพุ่งออกมา กองเศษหินข้างใต้ร่างก็ส่งเสียงดัง “บึ๊ม” โคลนเลนสีดำนับไม่ถ้วนที่มีก้อนหินปะปนอยู่ระเบิดกระจายไปทั่วทุกสารทิศ แสงสีทองสว่างวูบหนึ่ง แมงป่องกระดูกขนาดเท่าฝ่ามือก็พุ่งรวดเร็วออกมาจากด้านในแล้วขยับวูบเดียวไปปรากฏตัวตรงท้องของสุนัขยักษ์ มันก็คือเซียเอ๋อร์ที่ไม่รู้กลับมามีขนาดเท่าเดิมตั้งแต่เมื่อไรนั่นเอง

แมงป่องกระดูกร่างกายขยายใหญ่ขึ้นในฉับพลัน เหล็กในที่ปลายหางกลายเป็นสีทองอร่ามแล้วสะบัด

“ฉึกๆ” เส้นสีทองสิบกว่าเส้นพุ่งเร็วรี่ออกมามากมาย เพียงพริบตาก็ทะลวงผ่านปราณสีดำที่ปกป้องร่างกายของสุนัขยักษ์อยู่แล้วจมเข้าไปในท้องน้อยซึ่งเป็นจุดอ่อนแอที่สุดของมัน

สุนัขยักษ์สีดำคิดไม่ถึงว่าจะถูกจู่โจมกะทันหันจากด้านล่าง ร่างกายมหึมาสั่นสะท้านกลางอากาศ ปากก็ร้องโหยหวน ปราณสีดำรอบร่างฉับพลันปั่นป่วน มันเซวูบหนึ่งหวิดจะร่วงจากท้องฟ้า

ในพริบตานี้เองรุ้งกระบี่สีม่วงที่อยู่ไม่ไกลก็ขยับขึ้นมาอีกครั้งแล้วพุ่งเข้ามาตวัดรอบลำคอของสุนัขยักษ์

สีหน้าเจ็บปวดทรมานบนใบหน้าของสุนัขยักษ์นิ่งค้าง หลังจากนั้นรอยเส้นสีเลือดวงหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงลำคอของมัน

“ตุ้บ” หัวมหึมาเอียงกะเท่เร่จากนั้นร่วงลงมากลิ้งหลุนๆ เหมือนผลแตงที่ถูกตัด ร่างกายมหึมาของมันล้มกระแทกกองเศษหินเบื้องล่างอย่างหนักหน่วงพร้อมกัน เศษฝุ่นควันปลิวฟุ้งอยู่พักหนึ่งจึงสงบลง

แสงกระบี่สีม่วงดับลงเผยให้เห็นร่างของหลิ่วหมิง กระบี่ขู่หลุนเบื้องหน้าสั่นเล็กน้อยก่อนจะกลายเป็นแสงสีม่วงสายหนึ่งบินเข้าไปในแขนเสื้อของเขา

เขามองศพของสุนัขยักษ์สีดำแล้วกวาดจิตสัมผัสรอบหนึ่ง เมื่อแน่ใจว่ามันตายจนไม่อาจตายได้อีกแล้ว เขาจึงถอนหายใจยาว

อสูรตัวนี้พลังแข็งแกร่ง พลังเวทเทียบเท่ากับผู้ฝึกฝนระดับแก่นแท้ขั้นกลางแล้ว แต่สุดท้ายน่าเสียดายที่สติปัญญามีไม่พอ มิเช่นนั้นเขาคงไม่อาจสังหารมันได้อย่างฉับไวเช่นนี้

ในเวลานี้เองตราสัญลักษณ์มงกุฎสีทองบนหัวของแมงป่องที่ลอยอยู่กลางอากาศก็เปล่งแสงสีทองสว่าง สาดแสงสีทองแสบตามากมายลงไปเบื้องล่าง

เลือดเนื้อบนศพของสุนัขยักษ์ส่งเสียงดังชี่ท่ามกลางแสงสีทองที่สาดส่องแล้วกลายเป็นปราณดำลอยพวยพุ่งขึ้นไป

แมงป่องกรีดร้องอย่างตื่นเต้นเบาๆ มันอ้าปากแล้วออกแรงสูด ปราณสีดำทั้งหมดทะลักเข้าไปในปากของมันราวกับวาฬสูบน้ำ

หลิ่วหมิงมองภาพตรงหน้า คิ้วขมวดเล็กน้อยแต่ไม่ได้ขัดขวาง

เห็นชัดว่าเนื่องจากเซียเอ๋อร์กลืนไข่ของอสูรประหลาดซือเฉินลงไปก่อนหน้านี้ มันจึงมีพลังป้องกันพิเศษบางอย่าง แสงสีทองที่เปล่งออกมาเหมือนจะปราบภูตผีได้และเลือดเนื้อของสุนัขตัวนี้ก็ดูเหมือนจะดึงดูดมันอย่างมาก ก่อนหน้านี้มันจึงแสดงท่าทีก้าวร้าวเช่นนั้น

แต่ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะดีหรือร้าย เขาไม่อาจคาดเดาได้ ทว่าจนถึงตอนนี้ทุกสิ่งเหมือนจะพัฒนาไปในทิศทางที่ดี

หลังจากสูดปราณดำจำนวนมากเข้าไป รอยปริแตกรอบร่างเซียเอ๋อร์ก็ฟื้นคืนสภาพเดิมอย่างรวดเร็ว แสงสีทองที่เปล่งออกมาจากร่างยิ่งสว่างขึ้นทุกที ส่วนศพของผีสุนัขยักษ์ก็สลายไปด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเช่นกัน

ขณะที่หัวมหึมาของมันใกล้จะสลายไปจนหมดนั่นเอง “ฟึบ” แสงมืดหม่นสีดำเส้นหนึ่งก็พุ่งเร็วรี่ออกมาจากด้านใน พุ่งขึ้นไปยังหลุมยักษ์ด้านบนอย่างเร็วไวยิ่งนัก

“เหอะ!”

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ดวงตาพลันทอแสงเย็นเยียบ แสงหม่นดวงนี้เห็นชัดว่าเป็นวิญญาณของผีสุนัขยักษ์ตัวนี้ เขาจะต้องสังหารมันเสีย

ไหนเลยเขาจะรู้แสงหม่นสีดำเพิ่งบินออกไปได้ไม่ไกล แมงป่องกระดูกฉับพลันอ้าปาก แสงสีทองสายหนึ่งพุ่งออกมาโจมตีไอสีดำที่พุ่งหายวับไปอย่างจัง

เสียงกรีดร้องทุกข์ทรมานดังออกมาจากในดวงแสง ครู่หนึ่งหลังจากนั้นดวงแสงมืดหม่นก็แตกกระจายดุจฟองอากาศกลายเป็นไอสีดำจุดแล้วจุดเล่าสลายไป

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ในดวงตาก็เผยแววตาพอใจออกมาจางๆ ดูท่าความสามารถในการข่มภูตผี ของเซียเอ๋อร์จะเหนือกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้

เวลานี้ศพของสุนัขยักษ์สีดำสลายหายไปหมดแล้ว เมื่อไอสีดำจุดสุดท้ายถูกเซียเอ๋อร์กลืนลงไป รอยแผลรอบร่างของมันไม่เพียงหายดีดังเดิม แต่เปลือกสีเงินยังทอแสงแวววาวออกมาอีกด้วย

“นายท่าน!” หลังจากร่างของเซียเอ๋อร์ส่องแสงออกมา มันก็กลายร่างเป็นหญิงสาวผู้สวมชุดตาข่ายสีดำนางหนึ่ง สองมือลูบท้อง ใบหน้าเผยสีหน้าพออกพอใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา