ขณะที่ทั้งสี่คนฝ่ามาถึงช่องโหว่ได้อย่างราบรื่น เหตุพลิกผันก็บังเกิด!
แสงสีน้ำตาลกับสีดำสองสีสว่างวูบขึ้นรอบด้าน สุนัขผีสีน้ำตาลสิบกว่าตัวไม่รู้โผล่ออกมาจากที่ไหนพุ่งมาขวางหน้าพวกเขาไว้
จากนั้นแสงดาบสีดำมากมายก็โถมเข้ามามืดฟ้ามัวดินจากทั่วทุกสารทิศ
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ รูม่านตาพลันหดเล็ก ในใจคิดเร็วไว มือข้างหนึ่งตบข้างเอว แสงสีทองสะดุดตาสายหนึ่งพุ่งออกมา มันส่องสว่างวูบหนึ่งก็กลายเป็นแมงป่องขนาดหนึ่งจั้งกว่าตัวหนึ่ง
ทันทีที่อสูรเลี้ยงตัวนี้ปรากฏ ภาพมงกุฎสีทองบนหัวก็ส่องสว่างทันที ลำแสงสีทองหนาเท่าถังน้ำเส้นหนึ่งพุ่งออกมาจากด้านใน จุดที่มันพุ่งผ่าน ไอหมอกสีเทาทั้งหมดถูกกวาดหายไปในพริบตา ลมปราณเย็นยะเยือกถูกสูบเข้าไปจนกลายเป็นอบอุ่นในทันใด
เมื่อแสงสีทองกวาดผ่าน สุนัขผีสิบกว่าตัวนั้นก็กระโดดหลบด้วยสีหน้าหวาดกลัว มันแยกเขี้ยวส่งเสียงคำรามต่ำๆ แต่ไม่กล้าเข้าใกล้พวกหลิ่วหมิงสักนิด
ส่วนแสงดาบสีดำมืดฟ้ามัวดินเหล่านั้นถูกพวกผู้เฒ่าหลังค่อมร่วมมือกันใช้วิชาปัดป้องออกไป
ในตอนนี้เอง เสียง “ฟึบๆ” หลายครั้งก็ดังขึ้น ตรงช่องโหว่ขนาดสองถึงสามจั้ง มีเงาสีเทาเจ็ดถึงแปดร่างปรากฏ ร่างของผีรองแม่ทัพระดับผลึกตนแล้วตนเล่าปรากฏตัวขวางหน้าพวกเขาอย่างรวดเร็ว
ทหารผีเหล่านี้ไม่มีเจตนาจะเข้ามาโจมตี แต่พวกมันอ้าปากพ่นหมอกภูตสีเทาก้อนแล้วก้อนเล่าออกมาก่อตัวเป็นเกราะหมอกขนาดยักษ์อันหนึ่ง หมายจะขังพวกหลิ่วหมิงเอาไว้ด้านใน
“ทุกท่าน จะรอดหรือตายอยู่ที่การสู้ครั้งนี้แล้ว ตามมาให้ทัน!” หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็ตวาดลั่น สองแขนยื่นไปด้านหน้า
เสียงมังกรคำรามดังก้องท้องฟ้า!
มังกรหมอกสีดำยาวยี่สิบจั้งห้าตัวพุ่งออกมาจากด้านหลังของหลิ่วหมิง พวกมันหอบเซียเอ๋อร์ออกมาด้วยแล้วรวมตัวกันกลายเป็นมังกรสีดำยาวสามสิบถึงสี่สิบจั้งตัวหนึ่งพุ่งเร็วรี่ไปด้านหน้า
เมื่อมังกรหมอกพุ่งทะลวงไปถึงขอบ มันก็อ้าปากกว้าง แสงสีทองดวงหนึ่งพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว เซียเอ๋อร์นั่นเอง
ภาพสัญลักษณ์มงกุฎสีทองบนหน้าผากของเซียเอ๋อร์ส่องแสงวูบวาบไม่หยุด แสงสีทองผืนใหญ่กวาดไปเบื้องหน้า
ผีรองแม่ทัพสิบกว่าตนที่เดิมทีขวางอยู่ตรงช่องโหว่ต่างพากันเผยสีหน้าหวาดกลัวยามเห็นแสงสีทองมาถึง แต่พวกมันก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ ดาบขนาดใหญ่ในมือยกขวางอยู่ตรงหน้าอก
“บึ๊ม” เสียงดังสนั่น
จุดที่แสงสีทองพุ่งผ่าน ดาบโค้งสีดำในมือผีรองแม่ทัพสิบกว่าตนต่างพังทลาย ร่างกายของพวกมันเองก็สลายหายไปไร้ร่องรอย
ทันทีที่แสงสีทองพุ่งผ่าน ช่องโหว่ขนาดสองถึงสามจั้งด้านหน้าก็ถูกขยายขนาดขึ้นอีกเท่าหนึ่ง
แสงสีเงินสว่างวูบบนแผ่นหลังหลิ่วหมิง ปีกเนื้อสีเงินคู่หนึ่งงอกออกมา กระพือเพียงครั้งเดียว เขาก็กลายเป็นรุ้งยาวสีเงินเส้นหนึ่งพุ่งทะลุช่องออกไป
แมงป่องกระดูกกลายเป็นแสงสีทองดวงหนึ่งตามมาข้างหลัง
พวกหญิงสาวชุดแดงเห็นเช่นนี้ก็ดีใจยิ่ง พยายามสุดกำลังเร่งลำแสงตามไปติดๆ
มีแสงสีทองจากสัญลักษณ์มงกุฎบนหัวเซียเอ๋อร์เบิกทาง หลังจากเหาะเร็วจี๋และต่อสู้อย่างดุเดือดอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายพวกหลิ่วหมิงก็พุ่งออกมาจากทะเลหมอกหนาทึบได้
“แย่แล้ว สหายฉิวเหมือนจะไม่ได้ออกมาด้วย?”
ทุกคนยังไม่ทันเหาะออกไปไกลนักก็พบว่าจากที่เดิมทีมีกันสี่คน ตอนนี้เหลือเพียงสามแล้ว ผู้ที่หายไปก็คือผู้เฒ่าหลังค่อมผู้นั้น
ยามนี้ทั้งร่างของหญิงสาวชุดแดงอาบไปด้วยโลหิต ท่าทางบาดเจ็บไม่น้อย ส่วนคุณชายเยาว์วัยผู้สง่างามผู้นั้นตอนนี้ก็เสื้อผ้ารุ่งริ่ง อาวุธจิตวิญญาณรูปพัดพับในมือหม่นหมองไร้ประกาย
หลิ่วหมิงเพิ่งตบถุงหล่อเลี้ยงวิญญาณข้างเอวเก็บเซียเอ๋อร์กลับเข้าไปในถุงหนังข้างเอวเสร็จ เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เขาก็หันไปมองด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
แต่ช่องทางออกจากทะเลหมอกที่อยู่ไกลๆ กำลังประสานปิดลงดังเดิมด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า อยากกลับไปช่วยคนเห็นชัดว่าทำไม่ได้
ในตอนนี้เองเสียงอสนีบาตสะเทือนฟ้าสะเทือนดินก็ดังขึ้นอีกครั้ง แสงกระบี่สีเทาสายหนึ่งแหวกท้องฟ้าออกมาจากอีกฝั่งหนึ่งของทะเลหมอก มันกะพริบวูบวาบไม่กี่หนก็ร่อนลงตรงหน้าทุกคน
“ยังนิ่งทำอะไร อยากจะตกอยู่ในค่ายกลกำแพงผีอีกรอบหรือ?” เมื่อแสงกระบี่ดับลง บุรุษผอมสูงใบหน้าซีดเหลืองผู้หนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วตวาดเบาๆ
“หัวหน้าหมิ่น! พวกสหายฉิว…” หญิงสาวคิดจะรายงานเรื่องที่สหายทั้งสองหายไปในกับดักทันที
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ออกไปจากที่นี่ก่อนค่อยว่ากัน!” บุรุษแซ่หมิ่นเอ่ยขัดคำพูดของหญิงสาวในทันใด แล้วกระตุ้นกระบี่จิตวิญญาณสีเทา เหาะอย่างรวดเร็วไปทางทิศเหนือ
พวกหลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ย่อมได้แต่กระตุ้นลำแสงตามไปเช่นเดียวกัน
หลังจากพวกเขาเหาะเร็วจี๋ตลอดทางไม่ได้หยุดเป็นเวลาหนึ่งชั่วยามกว่า ในที่สุดก็ออกมาจากป่ารกร้างผืนนั้นได้
ลำแสงของทุกคนจึงลดความเร็วลง
“ครั้งนี้เอาชีวิตรอดมาได้ ต้องขอบคุณพี่หลิ่วที่ช่วยเหลือจริงๆ น้องซาบซึ้งยิ่งนัก!” ตอนนี้หญิงสาวชุดแดงถึงสีหน้าผ่อนคลาย ถอนสายบัวคำนับหลิ่วหมิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา