บนกำแพงเมืองจินกวัง ผู้อาวุโสเช่นทารกเฮ่าเยวี่ยเห็นภาพนี้ล้วนโล่งใจขึ้นเล็กน้อย
“ธงผนึกจิตวิญญาณที่ผู้อาวุโสเหยาสร้างเหล่านี้มหัศจรรย์จริงแท้ รวมพลังเวทของผู้ฝึกฝนทั้งหน่วยย่อยไว้ที่ตัวของหัวหน้าทำให้พลังโจมตีของพวกเขาเพิ่มพรวดขึ้นหลายเท่า วิธีการเช่นนี้ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน” ทารกเฮ่าเยวี่ยเอ่ยชม
ในโลกแห่งการฝึกฝนวิธีรวมพลังเวทเช่นนี้ไม่ใช่จะไม่มี แต่พวกมันจำต้องใช้ชั้นจำกัดที่ซับซ้อนอย่างที่สุดอีกทั้งยังมีเงื่อนไขที่เคร่งครัดกว่าจะใช้ได้จริง ตัวอย่างเช่นผู้ฝึกฝนเหล่านี้ต้องฝึกฝนวิชาชนิดเดียวกันและยังต้องฝึกร่วมกันเป็นเวลานานกว่าจะทำได้
ยามนี้เพียงอาศัยธงคำสั่งชิ้นเล็กๆ ชุดหนึ่งก็ทำให้เกิดผลลัพธ์นี้ได้ทันที เรียกได้ว่าน่าตะลึงจริงๆ
คำชมของทารกเฮ่าเยวี่ยออกมาจากใจจริง
สายตาของผู้อาวุโสคนอื่นที่มองไปยังผู้อาวุโสเหยาก็เต็มไปด้วยแววตานับถือเช่นกัน
“ธงผนึกจิตวิญญาณชุดนี้นับว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จ แต่มันยังมีจุดอ่อนเหมือนกัน นั่นก็คือความว่องไวด้อยไปบ้าง ยังต้องพัฒนาต่อไป” ผู้เฒ่าแซ่เหยาส่ายศีรษะยิ้มน้อยๆ สีหน้าบนใบหน้ามีความภาคภูมิใจอยู่เลือนราง
“กองทัพผีร้ายเพียงเสียทัพหน้าไปเท่านั้น หลังจากนี้จะต้องโต้กลับแน่ พวกเจ้าจับตาดูสถานการณ์ศึกอย่างใกล้ชิด!” ผู้เฒ่าแซ่เหยาเก็บงำอารมณ์อย่างรวดเร็วแล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“รับทราบ” พวกทารกเฮ่าเยวี่ยรีบตอบ
ปรากฏว่าผู้อาวุโสแซ่เหยาเพิ่งเอ่ยจบไม่นานก็เป็นเช่นที่เขาคาด กองทัพผีร้ายโต้ตอบอย่างรวดเร็วยิ่งนัก
กองทัพผีร้ายฝั่งบุรุษแซ่หมิ่นด้านนี้มีเสียงแตรทุ้มต่ำดังมาจากด้านหลัง ผีร้ายและอสูรที่พุ่งเข้าชนเมืองจินกวังอยู่เมื่อได้ยินเสียงนี้ก็หยุดทันทีแล้วทยอยตั้งกระบวนทัพป้องกัน
ต่อจากนั้นเสียงตะโกนก้องก็ดังขึ้นจากกลางกระบวนทัพรูปวงกลมที่ประกอบไปด้วยผีร้ายหลายร้อยตนด้านล่าง ปราณวิญญาณสีดำแผ่กว้าง หมอกสีดำก้อนแล้วก้อนเล่าผุดออกมารวมตัวกันกลายเป็นหนวดสีดำมหึมาหลายเส้นอย่างรวดเร็วยิ่ง
ฟึบๆ เสียงแหวกอากาศดังลั่น หนวดสีดำพาสายลมแรงดังหวีดหวิวหวดเข้าใส่ผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์กลุ่มหนึ่งที่อยู่ใกล้
ผู้ฝึกฝนกลุ่มนี้ก็คือหน่วยย่อยที่บุรุษแซ่หมิ่นเป็นผู้นำนั่นเอง
บุรุษแซ่หมิ่นแค่นหัวเราะ มือตั้งท่าเคล็ดวิชา แสงกระบี่สีเทาปรากฏขึ้นแล้วพุ่งเข้าประจันกับหนวดหนาเส้นหนึ่ง
แสงกระบี่สีเทาเลือนหายวูบเดียวก็ขยายจนใหญ่ร้อยจั้ง “ฉึบ” แล้วฟันหนวดสีดำเส้นหนึ่งสะบั้นอย่างง่ายดาย
ฟึบ ฟึบ!
หนวดเส้นอื่นเลี้ยวเปลี่ยนทิศอย่างแปลกประหลาด พุ่งอ้อมผู้ฝึกฝนแซ่หมิ่นแล้วตวัดเข้าใส่สมาชิกคนอื่นด้านหลังเขาจากหลายทิศ
ฉึบ ฉึบ!
พริบตาเดียวปลายหนวดก็มีเส้นสีดำเรียวเล็กมากมายยุ่บยั่บพุ่งกระจายออกมาล้อมสมาชิกหน่วยยี่สิบกว่าคนเอาไว้
เสียงกรีดร้องดังระงม
เนื่องจากเดิมทีศิษย์ด้านหลังทุ่มสมาธิทั้งหมดถ่ายเทพลังเวททั้งร่างไปยังร่างของบุรุษแซ่หมิ่นที่อยู่ด้านหน้า เมื่อเส้นสีดำเรียวเล็กหลายเส้นพุ่งลงมาจึงมีศิษย์เจ็ดถึงแปดคนถูกทะลวงเป็นรวงผึ้งหรือแม้จะปกป้องจุดสำคัญไว้ได้ แต่จุดอื่นก็ถูกแทงทะลุสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปทันที
บุรุษแซ่หมิ่นหน้าถอดสี เคล็ดกระบี่ที่มือเปลี่ยนไปทันที ท่าเคล็ดวิชาเปลี่ยนแปรดุจกงล้อ กระบี่ยักษ์สีเทาพร่าเลือนวูบหนึ่งก็มีแสงกระบี่ยักษ์หน้าตาเหมือนกันทุกประการอีกหลายสายแยกออกมาในทันใด
วิชาเงากระบี่แยกแสงนั่นเอง!
ฉึบ ฉึบ ฉึบ! เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นติดกันเป็นพรวน
หนวดหลายเส้นยังไม่ทันโจมตีระลอกสองก็ถูกแสงกระบี่สีเทาที่แยกออกมาสี่เล่มสะบั้นอย่างเฉียบขาดและว่องไว
บุรุษแซ่หมิ่นแค่นเสียงเหอะ สองมือสะบัด เงากระบี่สีเทานับไม่ถ้วนปรากฏออกมาทันที พวกมันพร่าเลือนวูบหนึ่ง เงากระบี่ทั้งหมดก็รวมกันอยู่ที่เดียว เพียงพริบตารวมตัวเป็นแสงกระบี่มหึมาขนาดร้อยกว่าจั้งเส้นหนึ่งอีกครั้ง
บุรุษแซ่หมิ่นดวงตาทอประกายเย็นเยียบ แสงกระบี่ยักษ์สีเทาพุ่งเร็วรี่ลงมาพาเสียงเปรี้ยงดุจอสนีบาตคำรามฟันเข้าใส่กองทัพรูปวงกลมของผีร้ายเบื้องล่าง
ฟู่!
ปราณสีดำกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าลอยออกมาจากในกองทัพผีร้ายรวมตัวกันเป็นม่านแสงปราณสีดำหนารูปโล่
“ครืด” เสียงดุจฉีกโลหะ
ม่านแสงรูปโล่ทนอยู่ได้เพียงไม่กี่ลมหายใจก็ถูกแสงกระบี่ยักษ์ฟันทรุดลงไปแล้วพังทลายเสียงดังสนั่น
แสงกระบี่สีเทาร่วงใส่กองทัพผีร้ายเสียงดังสนั่นดุจเขาไท่ซานกดทับศีรษะ
เปรี้ยง! เสียงดังสนั่นสะเทือนฟ้า ผีร้ายหลายร้อยตนแทบจะถูกแสงกระบี่สีเทากลืนเข้าไปในพริบตา ยังไม่ทันกรีดร้องร้องสักแอะก็กลายเป็นชิ้นๆ
หลังจากทำลายกองทัพผีร้ายจุดนี้ แผ่นค่ายกลสีขาวแผ่นหนึ่งที่มัดติดกับแขนของบุรุษแซ่หมิ่นก็เปล่งแสงทันที เสียงหนึ่งดังออกมาจากด้านในอย่างพอดิบพอดี
“หมิ่นหรง รีบไปช่วยเสริมหน่วยย่อยทางตะวันออกเฉียงเหนือด้านหลังเจ้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา