แผ่นดินฉับพลันสั่นสะเทือนรุนแรงยาวเป็นแนว!
สองตาของสิบสองภูตยักษ์รากษสเปล่งแสงสีแดงประหลาด ปราณสีเทาพวยพุ่งออกมารอบร่าง ยกเท้าหนักอึ้งวิ่งทะยานตีวงล้อมเข้ามาหาผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์ด้านนี้
ภูตยักษ์รากษสสูงหกสิบถึงเจ็ดสิบจั้งประหนึ่งภูเขาน้อยสิบสองลูกเรียงแถว แรงกดดันจิตวิญญาณท่วมฟ้าที่ปะทุออกมาพัดปราณหยินทั้งหมดบริเวณใกล้ๆ จนปั่นป่วนไม่หยุด ทำให้ผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์รวมทั้งหลิ่วหมิงต่างตกตะลึง!
บนท้องฟ้าด้านหลังภูตยักษ์รากษส วงล้อในมือบุรุษวัยกลางคนชุดดำเปล่งแสงสีม่วง ผิวสีม่วงคล้ำบนร่างสิบสองรากษสเริ่มปรากฏลวดลายสีดำประหลาดดวงแล้วดวงเล่า
ทันใดนั้นเสาแสงสีม่วงเข้มสิบสองต้นพลันทยอยพุ่งจากร่างขึ้นฟ้า
วาบ!
เสาแสงทั้งหมดระเบิดตามต่อกัน ทันใดนั้นเงาอสูรดุร้ายขนาดมหึมาสิบสองตัวก็ปรากฏด้านใน!
อสูรยักษ์แต่ละตัวหน้าตาเหมือนภูตยักษ์รากษสที่อยู่ข้างใต้พวกมันทุกประการ ร่างกายของรากษสฉับพลันแผ่บรรยากาศน่ากลัวท่วมท้น
หลังจากนั้นเสียงคำรามดังสนั่นจนหูแทบดับก็ดังขึ้น!
เสาแสงสีม่วงต้นแล้วต้นเล่าที่หุ้มเงาอสูรยักษ์อยู่กะพริบตอบรับกันและกันท่ามกลางผืนนภาสีเทามืดสลัว เพียงพริบตาพวกมันก็กลายเป็นเงาเข็มทิศกลมสีม่วงเข้มที่มีหัวลูกศรมหึมาหมุนวนเชื่องช้าอยู่ตรงกลาง
เงาอสูรยักษ์ทั้งสิบสองตนแบ่งกันครองพื้นที่บนเงาเข็มทิศสิบสองส่วนเท่าๆ กัน!
“ระวัง นี่…นี่คือค่ายกลสิบสองรากษสพิฆาตเซียนในตำนาน!”
บุรุษวัยกลางคนแซ่เว่ยตะโกนอย่างตกตะลึง เขาโบกมือยิงเคล็ดวิชาสายหนึ่ง ร่างกายของมนุษย์ทองคำยักษ์พลันส่องแสง สองมือกุมประสานกันเบื้องหน้า เสียงชิ้งดังขึ้นครั้งหนึ่ง กระบี่แสงมหึมาในมือขยายใหญ่ขึ้นหนึ่งเท่ากว่าทันที ใหญ่แทบจะใกล้เคียงกับร่างกาย
บึ๊ม!
ร่างกายใหญ่ยักษ์ของหุ่นเทพอนธการจากนิกายเทียนกงโผมาอยู่ข้างมนุษย์ทองคำยักษ์ จากนั้นเงาสีดำก็พุ่งเข้ามา กิ้งก่ามารคลั่งมายืนอยู่ด้วยกันกับมนุษย์ทองคำยักษ์เช่นกัน
“สิบสองรากษสยกให้พวกเรารับมือ เรื่องที่เหลือฝากพวกเจ้าแล้ว” เสียงของบุรุษวัยกลางคนผมขาวดังออกมาจากในร่างหุ่นเทพอนธการ
สิ้นเสียงสิบสองรากษสก็ทะยานมาเข้ามาใกล้ ลูกศรมหึมาใจกลางเข็มทิศสีม่วงเข้มเหนือศีรษะเคลื่อนเร็วจี๋จนสั่นไหวเบาๆ หยุดอยู่ตรงตำแหน่งเงาวานรยักษ์
ทันใดนั้นเงาวานรยักษ์ก็อ้าปาก พ่นลำแสงเส้นหนาสีทองหม่นเส้นหนึ่งพุ่งเร็วจี๋เข้าใส่พวกมนุษย์ทองคำยักษ์
ลำแสงสีทองหม่นยังไม่ทันพุ่งมาถึงตรงหน้าพวกมนุษย์ทองคำยักษ์ก็ระเบิดกลายเป็นลิ่มแสงสีทองหม่นนับไม่ถ้วน โถมเข้าใส่พวกมนุษย์ทองคำยักษ์ทั้งสามตนมืดฟ้ามัวดินดั่งพายุฝนกระหน่ำ
ชั่วขณะหนึ่งเสียงแหวกอากาศหวีดแหลมดังก้องผืนฟ้าและผืนดิน ลิ่มแสงสีทองหม่นนับไม่ถ้วนพุ่งตัดท้องฟ้าจนเกิดรอยปริแตกเรียวเล็กเส้นแล้วเส้นเล่า แสดงให้เห็นว่าในลิ่มแสงแต่ละแท่งบรรจุพลังมหาศาลเอาไว้
หุ่นเทพอนธการเปล่งแสงเจิดจ้าออกมาจากชุดเกราะสีน้ำตาลอ่อนบนร่าง ร่างกายโค้งดุจคันศรก่อนจะทะยานเข้าใส่สิบสองรากษสท่ามกลางลิ่มแสงสีทองหม่นนับไม่ถ้วนที่พุ่งเร็วรี่มาเต็มท้องฟ้า
ชิ้ง!
ทันทีที่ลิ่มแสงสีทองหม่นปะทะกับชุดเกราะทั่วร่างหุ่นเทพอนธการ พวกมันก็ระเบิดเป็นชิ้นๆ นอกจากรอยสีขาวเล็กน้อยก็ไม่ส่งผลอื่นใดแม้แต่น้อย
ดาบยักษ์สองเล่มในมือหุ่นเทพอนธการฟันไขว้เป็นรูปอักษรสือ[1] แสงดาบสีเหลืองขนาดร้อยจั้งสองสายพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว
เคร้ง!
แสงดาบสองสายที่ไขว้กันเป็นรูปอักษรสือฟันลงบนร่างภูตยักษ์รากษสตนหนึ่งที่มีใบหน้าเป็นอาชา จนเกิดเสียงโลหะเสียดสีกัน
ร่างของภูตยักษ์รากษสหน้าอาชาเปล่งแสงแวววาวสีม่วงเข้ม ทันใดนั้นพลังมหาศาลที่แฝงอยู่ในแสงดาบก็กระจายไปยังร่างของภูตยักษ์รากษสทั้งหมดผ่านเสาแสงบนตัวสิบสองรากษสที่เชื่อมอยู่กับเงาเข็มทิศด้านบน
ร่างกายของรากษสหน้าอาชาถอยหลังไปหลายก้าว แต่ตั้งหลักได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นภาพนี้ สายตาของบุรุษวัยกลางคนแซ่เว่ยที่อยู่บนร่างมนุษย์ทองคำยักษ์กับหญิงงามแซ่ฉีจากนิกายปีศาจลี้ลับที่อยู่บนหัวของกิ้งก่ามารคลั่งก็ฉายแววตกตะลึง ทว่าอึดใจต่อมาทั้งสองก็โจมตีออกมาพร้อมกัน
มนุษย์ทองคำยักษ์ชูกระบี่แสงมหึมาในมือขึ้นสูง แล้วตวัดวงโค้งสีทองเส้นหนาฟันลงมาเบื้องหน้าทันที
แสงกระบี่รูปจันทร์เสี้ยวอันร้อนระอุถาโถมมาดั่งเกลียวคลื่นคลั่ง
เกล็ดสีดำสนิทบนร่างกิ้งก่ามารคลั่งลุกตั้ง พลังเวทปริมาณมากรวมตัวเหนือเขาเดี่ยวบนหัวของมัน จากนั้นสายฟ้าร้อนผ่าวสีแดงหม่นสายหนึ่งก็พุ่งพรวดเข้าโจมตีสิบสองรากษส
ด้านหลังสิบสองรากษส ผีแม่ทัพใหญ่ชุดดำสีหน้าเคร่งขรึม วงล้อในมือหมุนเร็วไว เข็มของเงาเข็มทิศสีม่วงที่อยู่ด้านบนของสิบสองรากษสหมุนอย่างรวดเร็ว เสาแสงห้าสีสายแล้วสายเล่าพุ่งพรวดออกมาปะทะกับแสงกระบี่สีทองและอสนีบาตสีแดง
บึ๊ม!
เสียงดังสนั่นสะเทือนแก้วหูแทบดับดังลอยออกไปไกลโพ้น จุดที่พลังเวทสองฝั่งปะทะกันอย่างรุนแรง มิติฉีกออกเป็นรอยแยกมหึมาเส้นแล้วเส้นเล่า บริเวณร้อยลี้ที่คลื่นพลังเวทแผ่ไปถึงเกิดพายุขนาดมหึมากลบร่างใหญ่โตของมนุษย์ทองคำยักษ์กับภูตยักษ์รากษสเข้าไป
มองจากไกลๆ ท้องนภาตรงนั้นเดี๋ยวเป็นสีทอง เดี๋ยวเป็นสีแดงหม่น เสียงอสนีบาตระเบิดดังกึกก้องลอยออกมา มีแสงสว่างสองสายพุ่งพรวดออกมาเป็นระยะ เมื่อจมหายไปในพื้นดินหรือจมหายไปในท้องนภาบริเวณใกล้ๆ แรงสั่นสะเทือนรุนแรงก็ปะทุขึ้น ทิวเขาที่อยู่ใกล้เหล่านั้นพริบตาที่ถูกสัมผัสพลันสลายกลายเป็นผุยผง ผืนดินบริเวณข้างเคียงสั่นไหวรุนแรงจนเกิดหลุมดินขนาดหลายสิบจั้งหลุมแล้วหลุมเล่า
อีกด้านหนึ่ง
ไม่ว่ากองทัพผีร้ายหรือผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์ ก่อนหน้าศึกใหญ่จะเริ่มต้น พวกเขาก็พากันหนีไปทางทุ่งราบทิศเหนือก่อนแล้ว เหตุเพราะกลัวว่าหลงเข้าไปในการต่อสู้ระดับเชี่ยวชาญมหัศจรรย์ ซึ่งมีกี่ชีวิตก็ไม่พอใช้
หลังจากออกห่างการต่อสู้มาได้เกินร้อยลี้ ทุกคนก็หยุด จากนั้นทั้งสองฝ่ายต่างก็ปะทะกันอย่างดุเดือดภายใต้คำสั่งของยอดฝีมือระดับดาราพยากรณ์ของตน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา