ดูจากเครื่องแต่งกายที่สวม ชาวยมโลกผู้นี้เหมือนจะเป็นเผ่ายมโลกที่มาจากโลกข้างนอก พลังเพียงระดับแก่นแท้เท่านั้น แต่เอาชนะผู้ท้าประลองที่ขึ้นมาบนเวทีประลองได้สามตนติดแล้ว จึงดึงความสนใจของผู้คนมาไม่น้อยเช่นกัน
จิตสัมผัสอันเฉียบคมของหลิ่วหมิงย่อมสัมผัสสายตาของชาวยมโลกผู้นี้ได้ เขามองกลับไปอย่างแปลกใจทันที
ปรากฏว่าชาวยมโลกผู้นี้กลับยิ้มอย่างเป็นมิตรให้เขา ทำให้หลิ่วหมิงมึนงงไปเล็กน้อย ในใจพึมพำกับตนเองอยู่พักหนึ่ง
ในเวลาเดียวกันบนเวทีประลองทั้งสิบ การประลองก็ผลัดกันดำเนินไปอย่างดุเดือด
เวทีประลองที่หลิ่วหมิงอยู่ ด้วยความที่เขาขึ้นมาก็แสดงพลังข่มขวัญทันที ชั่วเวลาหนึ่งจึงไม่มีผู้ใดกล้าขึ้นเวทีมาท้าสู้
พอดีเพราะสถานการณ์เช่นนี้ คนที่ล้อมดูอยู่เหล่านั้นเพียงครู่เดียวก็ย้ายความสนใจไปยังการต่อสู้บนเวทีประลองอื่น
หลิ่วหมิงจึงสบาย นั่งขัดสมาธิหลับตาทำสมาธิกลางเวทีประลอง
แต่อย่างไรนี่ก็เป็นเวทีประลองแข่งขันคัดเลือก หลิ่วหมิงเป็นเพียงผู้ฝึกฝนระดับแก่นเสมือนคนหนึ่ง เวลาครึ่งหนึ่งของชั่วจิบชาผ่านไป บุรุษร่างใหญ่ระดับแก่นแท้ขั้นต้นผู้มีเรือนร่างกำยำแข็งแกร่งตนหนึ่งก็กระโดดขึ้นมาบนเวทีประลอง
“ข้าซาเหยียน ขอท่านโปรดชี้แนะด้วย”
พร้อมกับที่ชั้นจำกัดสีเทาส่องแสงขึ้น บุรุษร่างใหญ่กำยำก็ประสานมือเอ่ยขึ้นมา
“อิ่นหาน” หลิ่วหมิงประสานมือให้เขา
ครั้งนี้ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเตรียมตัวมาก่อนหรือไม่ ไม่ทันรอให้หลิ่วหมิงเคลื่อนไหวอย่างใด บุรุษร่างใหญ่กำยำก็ตวาดเบาๆ ปราณสีเทาทะลักออกมาจากทั่วร่าง สองเท้าวิ่งทะยานพุ่งตรงเข้ามาหาหลิ่วหมิง
เสียงตึงๆ ดังสนั่น เวทีประลองทั้งเวทีสั่นไหวไม่หยุดตามฝีเท้าอันหนักอึ้งของบุรุษร่างใหญ่ ร่างกายของบุรุษร่างใหญ่กำยำค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น ปราณสีเทารอบร่างกระหวัดเกี่ยวกันอยู่พักหนึ่งก็กลายเป็นเงาภูเขาน้อยสีเทาหม่นขนาดหลายสิบจั้งลูกหนึ่งพุ่งตรงเข้ามาหาหลิ่วหมิง พลังน่าทึ่งทีเดียว
แต่เดิมคิดว่าเผ่ายมโลกชำนาญวิชาสายวิญญาณ คิดไม่ถึงว่าในหมู่ชาวยมโลกก็มีผู้ฝึกร่างที่ห้าวหาญเช่นนี้ด้วย
สีหน้าประหลาดใจพาดผ่านใบหน้าของหลิ่วหมิง สองมือใช้เคล็ดวิชาทันที
ปราณดำโถมออกมา พร้อมกับเสียงมังกรคำรามดังก้องฟ้า!
มังกรหมอกสีดำยาวยี่สิบกว่าจั้งห้าตัว โผล่ออกมาจากแผ่นหลังของหลิ่วหมิงแล้วเหาะวนขึ้นไปบนฟ้า พวกมันบินวนอย่างว่องไวบนท้องฟ้าเหนือเวทีประลองรอบหนึ่งก็เข้าประจันหน้ากับภูเขาน้อยสีเทาหม่นที่พุ่งเร็วรี่มาถึงทันที
“ปุ้งๆ” เสียงแผ่วเบาดังขึ้นหลายครั้ง!
มังกรหมอกสีดำโถมใส่ภูเขาน้อยสีเทาที่บุรุษร่างกำยำสร้างขึ้นตามต่อกัน แต่ปรากฏว่าพวกมันกลับพังทลายราวกับหน้าต่างกระดาษแล้วสลายกลายเป็นหมอกดำหนาทึบ ไม่อาจขัดขวางภูเขาน้อยจากการเข้าใกล้หลิ่วหมิงได้แม้แต่นิด
“ลูกไม้กระจอก!” เสียงหัวเราะหยันของซาเหยียนดังออกมาจากด้านในภูเขาน้อยสีเทาหม่น
ทว่าตอนที่ภูเขาน้อยของเขาอยู่ห่างจากหลิ่วหมิงเพียงเอื้อมมือนั่นเอง ร่างกายของหลิ่วหมิงพลันขยับวูบเดียวหายไปจากที่เดิม
อึดใจต่อมาหลังจากที่หลิ่วหมิงเลือนหายไป เขาก็ปรากฏตัวห่างไปด้านหลังซาเหยียนสิบจั้ง
“เหอะ!” เสียงแค่นหยันที่มีความโกรธเกรี้ยวปะปนอยู่ของซาเหยียนดังออกมาจากในภูเขาน้อยสีเทาที่โจมตีพลาดเป้า จากนั้นเขาก็หักเลี้ยวแล้วพุ่งเข้าใส่หลิ่วหมิงอีกครั้ง
“คุกมืด”
แววตาของหลิ่วหมิงเย็นเยียบ เขาจี้นิ้วไปบนอากาศรอบเงาภูเขาน้อยที่บุรุษร่างกำยำสร้างขึ้น มังกรหมอกสีดำที่เดิมถูกบุรุษกำยำชนจนทลายกลายเป็นหมอกสีดำเต็มฟ้า ชั่วพริบตาก็รวมตัวกันอีกครั้งกลายเป็นแสงสีดำเส้นแล้วเส้นเล่าถักทอประสานกันแล้วกลืนเขาเข้าไป
ต่อจากนั้นดวงตาของหลิ่วหมิงพลันเปล่งประกายเจิดจ้า เขายกแขนเสื้อ เสียงใสกังวานดังขึ้น แสงสีเทาสายหนึ่งพุ่งออกมา ด้านในแสงสีเทาเห็นกระบี่ยาวสีเทาตลอดเล่มยาวสามฉื่อกว่าเล่มหนึ่งอย่างชัดเจน!
กระบี่ยาวแลดูหม่นหมองไร้ประกายไม่สะดุดตาสักนิด แต่เมื่อเคล็ดกระบี่ที่มือของหลิ่วหมิงควบคุม ลวดลายยมโลกสามสิบหกลายบนผิวก็เปล่งแสงในทันใด ปราณยมโลกสีเทาสายแล้วสายเล่าทะลักออกมาจากในตัวกระบี่!
ทันใดนั้นรุ้งยาวสีเทาสายหนึ่งพลันวาดผ่านท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว “ฟึบ” จากนั้นทะลวงเข้าไปในคุกมืด
นั่นคือกระบี่วิญญาณมืดแม่ลูกที่เพิ่งได้มาใหม่นั่นเอง!
จะว่าไปแล้ว วันนั้นหลังจากหลิ่วหมิงได้อาวุธยมโลกชิ้นนี้มาก็เสียเวลาศึกษาอยู่พักหนึ่ง
ยังดีที่ระดับพลังวันนี้ของเขาบรรลุระดับแก่นเสมือนแล้ว การผูกพันธะกับอาวุธจิตวิญญาณจำพวกกระบี่ที่เข้ากับวิชาของตนชิ้นหนึ่งย่อมไม่ใช่ปัญหา หลังแบ่งสมาธิทำงานสองอย่างอยู่ทั้งวันทั้งคืน เขาใช้เวลาไม่เท่าไรก็ผูกพันธะสำเร็จ
ในเมื่อกระบี่เล่มนี้มีคำว่า ‘แม่ลูก’ อยู่ในชื่อ ย่อมหมายความว่าเป็นกระบี่ชุดหนึ่งที่มีสองเล่ม เล่มใหญ่กับเล่มเล็ก เล่มยาวกับเล่มสั้น
แต่จุดที่เยี่ยมยอดของมันอยู่ที่กระบี่ลูกซ่อนอยู่ในตัวกระบี่แม่ กระบี่แม่มุ่งโจมตี กระบี่ลูกช่วยลอบจู่โจม ศัตรูที่จดจ่อป้องกันการโจมตีจากกระบี่แม่อยู่จึงมักถูกกระบี่ลูกที่ปรากฏขึ้นกะทันหันทำร้ายอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
เมื่อผนวกกับกระบี่ชุดนี้เป็นอาวุธยมโลกที่ใช้ปราณหยินในการควบคุม หากประสานกับวิชามังกรพยัคฆ์ทมิฬย่อมได้ผลลัพธ์เยี่ยมยอด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา