ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 1088

ทันทีที่ไอหมอกสีดำด้านในคุกมืดสัมผัสถูกเปลวเพลิงสีเขียว เสียง “ชี่” ก็ดังขึ้น ควันลอยฟุ้ง ไอหมอกสีดำถูกมันฉีกจนเป็นช่องขนาดหนึ่งจั้งกว่าช่องหนึ่งจริงๆ

วานรขนเขียวดีใจมาก ร่างกายขยับคิดจะฉวยโอกาสเหาะออกไปด้านนอก

แต่มันเพิ่งเหาะออกมาได้ไม่กี่จั้ง เมฆดำด้านหน้าก็ปั่นป่วน ช่องว่างสมานปิดลงในทันใด

จากนั้นเสียงกระแสลมก็ดังฮู่มาจากสองฝั่งซ้ายขวา ภูตผีสีดำที่มีเขาเดี่ยวสีขาวดำสองตนกระโดดออกมาแล้วแยกเขี้ยวยิงฟันกระโจนเข้าใส่

วานรขนเขียวตกตะลึง สองแขนของวานรพลันขยายขนาด เปลวเพลิงสีเขียวลุกโชนขึ้นบนท่อนแขน มือข้างเดียวคว้าผีสีดำสองตนไว้แล้วออกแรงบีบจนแหลก

ทว่าร่างของผีสีดำสองตัวกลับขยายใหญ่อย่างฉับพลันแล้วระเบิดดัง “โพละ” กลายเป็นหมอกสีดำสายหนึ่ง

ฝ่ามือของวานรขนเขียวเจ็บแปลบ หมอกสีดำมีไอน้ำหนาวเย็นอยู่เลือนราง ทำให้เปลวเพลิงสีเขียวบนร่างมันมอดลงไปไม่น้อย

วานรขนเขียวมีสติปัญญา เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ในที่สุดดวงตาจึงปรากฏแววตาร้อนรน

ในตอนนี้เองหมอกดำรอบด้านก็ปั่นป่วนอีกครั้ง ภูตผีสีดำหน้าตาเหมือนกันทุกประการตนแล้วตนเล่าทยอยกระโดดออกมาจนมากเกือบร้อยตน เสียงภูตผีคร่ำครวญดังระงม แย่งชิงกันโถมเข้าใส่วานรขนเขียว

วานรขนเขียวคำรามอ๋าวๆ ฟังดูประหลาด กรงเล็บคมสองข้างสะบัดรุนแรงซ้ายขวาเบื้องหน้าร่าง คมดาบแสงสีหยกทรงวงจันทร์สิบกว่าสายปรากฏขึ้นกลางอากาศแล้วพุ่งดังหวีดหวิวฟันบรรดาภูตผี

คมดาบแสงรูปจันทร์เสี้ยวทรงพลังไม่น้อย จุดที่พุ่งผ่านฟันขวางบั่นเอวผีเขาเดียวหลายตัวอย่างง่ายดายดุจยกฝ่ามือ จนพวกมันกลายเป็นเมฆสีดำผืนแล้วผืนเล่าใหม่อีกครั้ง

แต่เมฆดำโถมมาไม่หยุด ทุกครั้งที่มีผีตนหนึ่งถูกสังหารก็มีอีกตนหนึ่งกระโดดออกมาทันทีประหนึ่งไม่หมดไม่สิ้น!

วานรขนเขียวสำแดงพลัง พริบตาเดียวสังหารผีเขาเดียวไปนับร้อยตน ทว่าเมฆดำสี่ด้านแปดทิศไม่เพียงไม่ถอยออกไป ตรงกันข้ามกับยิ่งบีบใกล้

ความถี่ที่ภูตผีกระโดดออกมาจากเมฆดำเร็วขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งพวกมันยังพ่นลำแสงสีดำสายแล้วสายเล่าออกมาโจมตี

เปลวเพลิงสีเขียวลุกโชนบนร่างวานรขนเขียว ปกป้องทั้งร่างเอาไว้

ลำแสงสีดำนับไม่ถ้วนกระทบลงบนเปลวเพลิงสีเขียวดั่งเม็ดฝน แม้จะสลายไปทันที แต่เปลวเพลิงสีเขียวบนผิวของวานรก็หม่นแสงลงเรื่อยๆ

สองตาของวานรขนเขียวทอแสงสีเขียวเจิดจ้าแล้วหยุดส่งคมดาบแสงออกมาโจมตีในทันใด สองกำปั้นทุบหน้าอกอย่างแรง

เปลวเพลิงสีเขียวบนร่างมันฉับพลันสลายไป เสียงกึกดังขึ้นพักหนึ่ง ทันใดนั้นร่างกายก็ขยายใหญ่หลายเท่าในพริบตา ฝ่ามือมหึมาฟาดรัวใส่ภูตผีรอบด้าน บ้างถูกตบปลิว บ้างถูกตบแหลก เมฆดำรอบด้านถูกมันแหวกออกได้ไม่น้อย

วานรขนเขียวคำรามระบายโทสะพร้อมกับทุ่มแรงเพิ่มขึ้นเพื่อดิ้นหลุดจากมิติสีดำแห่งนี้

ในตอนนั้นเองหลิ่วหมิงที่อยู่นอกคุกมืดก็ท่องมนตร์แผ่วเบาหลายประโยคออกจากปากโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าสักนิด

ลึกเข้าไปในมิติคุกมืด เมฆดำที่ถาโถมอยู่รอบด้านฉับพลันสั่นสะเทือน จากนั้นหมุนวนอย่างรวดเร็วโดยมีวานรขนเขียวเป็นใจกลางแล้วบีบเข้าหาตรงกลาง ภูตผีเหล่านั้นผสานเข้าไปในเมฆดำแล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย

วานรขนเขียวคำรามดังลั่น กรงเล็บอสูรมหึมาเหวี่ยงตะปบเมฆดำที่บีบเข้ามา

ทันทีที่สัมผัสถูกเมฆดำ วานรขนเขียวจึงพบว่ามันแตกต่างจากเดิม เมฆดำเหล่านั้นหนักอึ้งอย่างประหลาด อีกทั้งยังเหนียวอย่างยิ่ง พละกำลังของมันไม่อาจฉีกเป้าหมายได้ง่ายๆ

วานรขนเขียวคำรามลั่นหลายครั้งพยายามฉีกทึ้งเมฆดำรอบตัวแต่ไร้ผล เมฆดำเคลื่อนวนแล้วบีบเข้ามาอย่างรวดเร็ว

พริบตาเดียวเมฆดำพลันก่อตัวเป็นพายุหมุนสีดำมหึมาลูกหนึ่งล้อมวานรขนเขียวไว้ด้านใน พาร่างกายมโหฬารของมันให้หมุนตามไปด้วย

วานรขนเขียวคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว มันดิ้นรนสุดกำลัง แต่เวลานี้เองจู่ๆ ร่างกายของมันก็สั่นสะท้าน ร่างกายมหึมาส่งเสียงดังกึกๆ ก่อนจะหดเล็กลงเป็นขนาดเท่าเดิมอย่างรวดเร็ว

ประกายแสงสีเขียวในดวงตาของวานรขนเขียวดับมอด มีแววตาคล้ายมนุษย์ปรากฏขึ้นมาจางๆ ก่อนที่สองแขนจะประสานหมัดคำนับ

มิติคุกมืดสีดำสนิทที่อยู่ในโถงรับแขกสั่นเบาๆ แล้วสลายลงพร้อมเสียงดังกึกก้อง กลายเป็นไอสีดำหนาทึบ เผยร่างของวานรขนเขียวออกมา

เมื่อหลิ่วหมิงทำท่าเคล็ดวิชาด้วยมือข้างหนึ่ง ปราณสีดำหนาทึบก็ประหนึ่งวาฬสูบน้ำจมหายเข้าไปในกระหม่อมของหลิ่วหมิง หายไปอย่างไร้ร่องรอย

ดวงตาของวานรขนเขียวฟื้นกลับมาเป็นสีเดิม มันร้องเจี๊ยกๆ แล้วมองหลิ่วหมิงด้วยแววตาที่ค่อนข้างจะหวาดกลัว ร่างกายขยับครั้งเดียวกลายเป็นแสงสีเขียวสายหนึ่งเหาะกลับไปอยู่ในถุงข้างเอวของปี้เหยียน

“ดีมาก มิติคุกมืดของพี่อิ่นหานทรงพลังยิ่งนัก เหนือกว่าที่ข้าคาดไว้เสียอีก” ปี้เหยียนหัวเราะฮ่าๆ เอ่ยขึ้นพร้อมกับเผยสีหน้าชื่นชมออกมาอย่างไม่รู้ตัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา