เห็นชัดว่าไส้เดือนสัมผัสได้ถึงความเร็วที่เปลี่ยนไปของหลิ่วหมิง มันร้องคำรามด้วยความหวาดกลัว ร่างกายทิ้งตัวลงเบื้องล่างอย่างฉับพลัน หนีเข้าไปในหุบเขาแห่งหนึ่งด้านล่างทันที
ในเวลาเดียวกันมันก็หันหัวกลับมาพ่นลำแสงสีเทาหนาเส้นหนึ่งโจมตีหลิ่วหมิง
หลิ่วหมิงขยับมือทำท่าเคล็ดกระบี่ ปราณกระบี่สีม่วงรอบร่างเปล่งแสงสว่างจ้าหมุนวนรอบร่าง จากนั้นก่อตัวเป็นกระบี่ยักษ์สีม่วงกึ่งโปร่งใสขนาดร้อยจั้งเล่มหนึ่งในพริบตา เส้นสายฟ้าสีม่วงเส้นแล้วส้นเล่าวนล้อมอยู่บนตัวกระบี่
วิชากระบี่ร่างเป็นหนึ่งนั่นเอง!
กระบี่ยักษ์ยังไม่ทันขยับ อากาศรอบด้านพลั่นสั่นสะเทือนเป็นวงคลื่นที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า
หลังจากเลื่อนเข้าสู่ระดับแก่นแท้ พลังของหลิ่วหมิงยามใช้วิชาลับชนิดนี้มากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า
กระบี่ยักษ์สีม่วงฟันลงมาแผ่วเบาก็โจมตีลำแสงสีเทาที่ไส้เดือนพ่นออกมาจนสลาย ต่อจากนั้นขยับวูบเดียวก็ปรากฏขึ้นเหนือหัวไส้เดือน
ไส้เดือนถูกจิตกระบี่ท่วมฟ้าสายหนึ่งบีบเข้าใกล้จึงหวาดผวาอย่างห้ามไม่ได้ กระบี่ยักษ์สีม่วงว่องไวนัก มันทำทันเพียงสร้างแสงคุ้มกันร่างสีเทาชั้นหนึ่ง กระบี่ยักษ์ก็พาลมปราณยิ่งใหญ่ฟันลงมาแล้ว
ในตอนนี้เองผิวของกระบี่ยักษ์พลันเกิดเสียงอสนีบาตคำราม อสนีบาตสีทองเส้นแล้วเส้นเล่าฉับพลันปรากฏ ชั่วพริบตากระบี่ยักษ์สีม่วงกลายเป็นกระบี่สายฟ้าสีทอง
กระบี่สายฟ้าสีทองพร่าเลือนวูบหนึ่งก็แล่นผ่านร่างกายของไส้เดือนในพริบตา แสงสีเทาบนร่างของมันฉีกแยกจากกันเสียงดังประหนึ่งกระดาษ
ร่างกายของแมลงโงนเงนอยู่กลางท้องฟ้า พริบตาเดียวตรงหน้าอกกับส่วนท้องก็สะบั้นเป็นสอง โลหิตสีเทานับไม่ถ้วนสาดกระจาย
กระบี่ยักษ์สีทองกะพริบแสงแล้วสลายตัวไป เผยร่างของหลิ่วหมิงออกมา
เวลานี้บนร่างของเขามีอสนีบาตสีทองเส้นแล้วเส้นเล่าวนล้อมดุจเทพสายฟ้าสีทององค์หนึ่ง บนหน้าอกมีตราสัญลักษณ์ห้าสีอันลี้ลับซับซ้อนดวงหนึ่งปรากฏ นั่นก็คือตราสัญลักษณ์ของวิชาสายฟ้าสวรรค์นั่นเอง
แสงอสนีบาตสีทองเปล่งแสงวูบเดียวก็หายไป หลิ่วหมิงสีหน้าซีดเผือดเล็กน้อย แต่ในดวงตาฉายแววยินดีอยู่เจือจาง
เมื่อผสานวิชาสายฟ้าสวรรค์เข้าไปในกระบี่ขู่หลุน พลังของกระบี่หลุนก็มากขึ้นอักโขอย่างเห็นได้ชัด มิเช่นนั้นแม้วิชากระบี่ร่างเป็นหนึ่งเมื่อครู่จะทำร้ายแมลงระดับดาราพยากรณ์ได้ แต่ก็คงไม่อาจสะบั้นมันเป็นสองส่วนได้อย่างหมดจด
ร่างกายสองท่อนของไส้เดือนร่วงลงกระแทกพื้นหุบเขาดุจอุกกาบาต ฝุ่นดินนับไม่ถ้วนฟุ้งขึ้นมา
ทว่าตรงรอยแผลระหว่างร่างกายสองท่อนนี้กลับมีแสงสีเทาสายหนึ่งไหวเวียนวน จากนั้นทั้งสองท่อนพลันกลายเป็นแสงสีเทาสองสายหนีแยกไปสองทิศทาง
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนั้นก็ตะลึงไปวูบหนึ่ง แต่ทันใดนั้นก็แค่นเสียงหยัน เขาตบหัวไหล่ซ้าย แสงเรืองรองสีน้ำเงินม้วนตัวเข้าไปล้อมร่างกายท่อนที่เป็นส่วนหัวของไส้เดือนอย่างว่องไวปานสายฟ้าแลบ ในเวลาเดียวกันมืออีกข้างหนึ่งก็ชิ้นิ้ว กระบี่บินขู่หลุนพุ่งพรวดดุจสายฟ้าไปยังทิศทางของร่างกายอีกครึ่งท่อน
แสงกระบี่ไวดุจสายฟ้าแลบ พริบตาเดียวก็แล่นวนรอบร่างกายอีกครึ่งท่อน แล้ววนถอยย้อนกลับพร้อมเสียงหวีดแหลม “บึ๊ม” ร่างกายครึ่งท่อนของไส้เดือนฉับพลันสลายกลายเป็นผุยผง
ครู่หนึ่งหลังจากนั้นแสงเรืองรองสีน้ำเงินก็ม้วนตัวกลับมาตรงหน้าหลิ่วหมิง
ด้านในแสงสีน้ำเงินหุ้มดวงแสงสีเทาดวงหนึ่งไว้ มันกำลังพุ่งชนซ้ายทีขวาทีดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ทว่าทุกครั้งที่มันสัมผัสถูกแสงสีน้ำเงิน แสงสีเทาของตัวมันก็ถูกแสงสีน้ำเงินกลืนกินเข้าไปไม่น้อย
หลังจากลองอยู่หลายครั้ง ในที่สุดดวงแสงสีเทาก็ยอมอยู่เฉยๆ ด้านในมองเห็นคนขนาดจิ๋วที่ครึ่งร่างเป็นมนุษย์ครึ่งร่างเป็นไส้เดือนอยู่เลือนราง น่าจะเป็นดวงจิตของแมลงระดับดาราพยากรณ์ตัวนี้
“จู๋เสิน! นี่คือพลังของจู๋เสิน เจ้าหนู เจ้าฝึกปรือพลังนี้ได้อย่างไร?” ดวงจิตของแมลงกรีดร้องเสียงดุดันใส่หลิ่วหมิง
“พูดมากจริง!”
หลิ่วหมิงเลิกคิ้วสองข้าง เขาคร้านจะเปลืองคำพูดกับดวงจิตของแมลงตัวนี้ มือข้างหนึ่งยื่นเข้าไปในแสงสีน้ำเงิน แสงสีดำแผ่ออกจากมือล้อมดวงจิตของแมลงไว้ด้านใน
วิชาลับค้นวิญญาณ!
แมลงระดับดาราพยากรณ์น่าจะรู้เรื่องราวไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกำลังพลของแมลงที่กระจายอยู่ในเทือกเขาหม่อนเขียว มิเช่นนั้นหลิ่วหมิงคงสังหารดวงจิตดวงนี้ในหมัดเดียวไปนานแล้ว
“อ้าก!”
“เจ้าครอบครองพลังของจู๋เสิน…ย่อมเป็นคนที่พวกเราเผ่าหนอนผีเสื้อต้องสังหาร…ท่านราชินีหนอนผีเสื้อไม่มีทางปล่อยเจ้าไว้!” ดวงจิตของแมลงระดับดาราพยากรณ์คำรามเสียงเหี้ยม เสียงเบาลงเรื่อยๆ จนในที่สุดก็กลายเป็นความเงียบ
หลิ่วหมิงสีหน้าเรียบเฉยไม่สนใจแม้สักนิด ฝ่ามือเปล่งแสงสีดำสว่างจ้าล้อมดวงจิตของแมลงระดับดาราพยากรณ์ไว้ จากนั้นพลังจิตมหาศาลจึงแทรกเข้าไปด้านใน
ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าใด หลิ่วหมิงจึงลืมตาขึ้น สองมือถูกันทันที ดวงวิญญาณของแมลงกรีดร้องโหยหวนครั้งหนึ่งก่อนสลายกลายเป็นเถ้าธุลี
ในตอนนี้เองลำแสงสีน้ำเงินสายหนึ่งก็เหาะเร็วรี่มาถึง หลังจากกะพริบแสงวูบหนึ่ง เรือนร่างอรชรของหลงเหยียนเฟยก็ปรากฏตัวขึ้น
สตรีนางนี้เห็นศพของไส้เดือนบนพื้น รูม่านตาพลันหดเล็กลงเล็กน้อย จากนั้นดวงตาก็ฉายแววยินดี มือข้างหนึ่งยกขึ้นโบก กระบี่น้อยสีเงินที่แผ่ปราณกระบี่ดุดันเล่มหนึ่งลอยออกมาจากศพของแมลง เหาะฟึบกลับมาอยู่ในมือของนาง
กระบี่น้อยสีเงินแสงหม่นหมองลงไปบ้าง เห็นชัดว่าพลังจิตวิญญาณถูกทำลายตอนอยู่ในท้องของแมลงเล็กน้อย แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา