สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1159 ไฟสงครามปะทุรอบด้าน – ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา โดย Internet
บท ตอนที่ 1159 ไฟสงครามปะทุรอบด้าน ของ ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
“นี่มันอะไรกัน…” หลิ่วหมิงนึกสงสัย เขาไม่พบเงื่อนงำเกี่ยวกับสิ่งนี้สักเท่าไรในความทรงจำของแมลงระดับดาราพยากรณ์
ประตูศิลาบานนั้นที่เปิดเข้ามายังที่แห่งนี้ถูกแมลงระดับดาราพยากรณ์ตัวนั้นทำลายเมื่อครู่ แต่ด้านในนี้เขาพบเพียงค่ายกลเคลื่อนย้ายอันนี้เท่านั้น ไม่มีสิ่งอื่น
“ช่างเถิด รอวันหน้ามีโอกาสค่อยๆ ศึกษาก็แล้วกัน” หลิ่วหมิงพิเคราะห์ลวดลายค่ายกลบนแผ่นศิลาครู่หนึ่ง น่าเสียดายที่ความรู้ในด้านค่ายกลของเขาหาเงื่อนงำไม่พบแม้แต่น้อย
เขาโบกมือเก็บแผ่นศิลาสีน้ำเงินเข้าไปในแหวนย่อส่วน
จากนั้นเขาจึงวนรอบห้องศิลารอบหนึ่ง หลังจากไม่พบสิ่งใดจึงไม่ได้รั้งอยู่ที่นี่นาน ย้อนกลับไปทางเดิม
ไม่นานหลังจากนั้นหลิ่วหมิงก็กลับมาถึงเหมืองแร่
เวลานี้การต่อสู้สงบลงแล้ว แมลงหลายพันตัวมีเพียงส่วนน้อยที่ฉวยจังหวะวุ่นวายหนีออกไปได้ แมลงส่วนที่เหลือล้วนถูกกวาดล้างจนสิ้นซากระหว่างการต่อสู้กับศิษย์นิกายยอดบริสุทธิ์ที่มีคุนอวี้เป็นผู้นำ
สมาชิกตระกูลจากป้อมปราการตระกูลเยี่ยกำลังเก็บกวาดสนามรบภายใต้การบังคับบัญชาของหัวหน้าตระกูลเยี่ย ศพของแมลงระดับล่างถึงระดับกลางเหล่านี้มีมูลค่าประมาณหนึ่ง แม้ผู้คนจากนิกายยอดบริสุทธิ์จะไม่เห็นค่า แต่สำหรับตระกูลเยี่ยแล้วมีประโยชน์อยู่บ้าง
“ศิษย์พี่หลิ่ว ท่านกลับมาแล้ว!”
“ศิษย์น้องหลิ่ว”
“สหายหลิ่ว”
เมื่อเห็นหลิ่วหมิงกลับมา ผู้คนจากนิกายยอดบริสุทธิ์รวมถึงหัวหน้าตระกูลเยี่ยก็พากันเหาะขึ้นฟ้ามาต้อนรับทันที
“ข้ามีธุระเล็กน้อยจึงมาช้าไปสักหน่อย ขอทุกท่านโปรดอภัย ดูท่าแมลงที่ยึดครองเขตนี้อยู่จะถูกกำจัดหมดแล้ว” สายตาของหลิ่วหมิงกวาดมองรอบด้านแล้วประสานมือเอ่ยขึ้นมา
“หนีไปได้ราวสองสามร้อยตัว แต่น่าจะก่อเภทภัยไม่ได้แล้ว ศิษย์น้องไม่ต้องกังวล” คุนอวี้หัวเราะพลางเอ่ยบอก
“หากเป็นเช่นนั้นย่อมดีที่สุด ใช่แล้ว เมื่อครู่ข้าใช้วิชาลับค้นวิญญาณกับแมลงระดับดาราพยากรณ์ตัวนั้นจึงรู้ว่าแมลงเหล่านี้หนีมาจาสถานที่ชื่อหุบเขาวิญญาณร่ำไห้ จำนวนก็มีเพียงเท่านี้ น่าจะไม่มีแมลงหลบซ่อนอยู่อีกแล้ว” หลิ่วหมิงประสานมือให้คุนอวี้ จากนั้นเปลี่ยนประเด็นไปพูดถึงข้อมูลซึ่งได้มาจากความทรงจำของแมลงระดับดาราพยากรณ์
“ฝั่งข้าก็ค้นวิญญาณแมลงหลายตัวได้ข่าวมาคล้ายกัน ดูท่าภารกิจครั้งนี้นับว่าลุล่วงแล้ว” คุนอวี้พยักหน้า
เมื่อคุนอวี้เอ่ยคำนี้ออกมา ทุกคนจากนิกายยอดบริสุทธิ์ล้วนเผยสีหน้ายินดี
ภารกิจสำเร็จย่อมหมายความว่าพวกเขาจะได้แต้มคุณูปการก้อนหนึ่งกับรางวัลจากนิกายมาไว้ในมือ
หัวหน้าตระกูลเยี่ยก็ดีใจเกินกว่าที่หวังเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนี้หลังจากนี้ตระกูลของตนก็คงอยู่ที่เทือกเขาหม่อนเขียวได้โดยไม่ถูกเหล่าแมลงก่อกวนอีกระยะหนึ่ง
หากมีเวลาให้พักหายใจหายคอ อาศัยสมบัติกับเส้นสายของตระกูลเขาย่อมวางค่ายกลป้องกันอันร้ายกาจขึ้นมาได้ เมื่อถึงเวลาหากมีแมลงมาบุกอีกย่อมพอต้านไว้ได้จนกำลังเสริมมาถึง
หลังจากนั้นแม้หัวหน้าตระกูลเยี่ยจะพยายามเชื้อเชิญเหล่าศิษย์นิกายยอดบริสุทธิ์ให้ค้างแรมที่ป้อมปราการตระกูลเยี่ยเพื่อแสดงไมตรีของเจ้าบ้านเพียงไร พวกหลิ่วหมิงก็ไม่ได้รั้งอยู่ต่อ แต่ออกเดินทางกลับอย่างรวดเร็ว จนรู้สึกว่าการเดินทางครั้งนี้เร่งรีบนัก
หลายวันหลังจากนั้นพวกหลิ่วหมิงก็กลับมาถึงเทือกเขาหมื่นวิญญาณอีกครั้ง
เมื่อได้ยินว่าหลิ่วหมิงสังหารเผ่าหนอนผีเสื้อระดับดาราพยากรณ์ตัวหนึ่ง แม้จะเป็นเพียงแมลงระดับดาราพยากรณ์ขั้นต้น เทียนเกอเจินเหรินก็ยังคงมีแววตาประหลาดใจ
ทุกคนรวมถึงหลิ่วหมิงย่อมได้รางวัลเป็นแต้มคุณูปการก้อนโต ในกลุ่มคนเหล่านั้นหลิ่วหมิงย่อมมีความดีความชอบมากที่สุด ไม่เสียแรงที่เขาลำบากตรากตรำกับการเดินทางครั้งนี้
หลังจากทุกคนแยกย้ายกันไป หลิ่วหมิงกับเจียหลานก็เหาะไปด้วยกันขณะที่คุยกันไปพลาง หลังจากส่งเจียหลานกลับยอดเขาเลื่อนลอย เขาจึงเดินทางมายังหอเก็บคัมภีร์ของนิกายโดยไม่หยุดแวะพัก
กล่าวไปแล้วนับตั้งแต่กลายเป็นศิษย์ลับ เขาก็เข้าไปอ่านอ่านคัมภีร์ที่ให้สิทธิเฉพาะศิษย์ลับของวังเจดีย์ได้ ส่วนการอ่านคัมภีร์ในหอเก็บคัมภีร์ของนิกายยิ่งไม่เสียค่าใช้จ่ายอย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้เพียงจ่ายแต้มคุณูปการจำนวนหนึ่งก็คัดลอกคัมภีร์ที่นี่ได้อีกด้วย
หลิ่วหมิงเสียแต้มคุณูปการจำนวนหนึ่งคัดลอกคัมภีร์เกี่ยวกับค่ายกลเคลื่อนย้ายและศาสตร์ค่ายกลชุดหนึ่งมา จากนั้นจึงกลับไปถ้ำที่พักบนวังเจดีย์
เป้าหมายของเขาย่อมทำเพื่อแผ่นศิลาลึกลับที่ได้มาจากยอดเขาหยกแผ่นนั้น
เพราะเขาสังหรณ์ว่าของสิ่งนี้น่าจะไม่ใช่ค่ายกลเคลื่อนย้ายธรรมดาแน่นอน
หลังจากเก็บตัวศึกษาอยู่หลายวัน หลิ่วหมิงเพิ่งเข้าใจลวดลายค่ายกลบนแผ่นศิลาได้น้อยนิด ไม่ว่าจะพยายามกระตุ้นอย่างไร ลวดลายค่ายกลก็ไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นคืนสภาพเดิมแม้แต่น้อย
แต่ฤทธิ์ในการดูดซับปราณจิตวิญญาณแห่งฟ้าดินของศิลารวมจิตวิญญาณเหล่านั้นรอบแผ่นศิลากลับไม่หายไป สิ่งที่ประหลาดก็คือปราณจิตวิญญาณที่ศิลารวมจิตวิญญาณดูดซับมาเหมือนถูกเหวไร้ก้นกลืนกินเข้าไป ไม่อาจกักเก็บไว้ได้แม้แต่น้อย
แต่การศึกษาหลายวันนี้มิใช่จะไร้ผล หลิ่วหมิงพบว่าแผ่นศิลาสีน้ำเงินที่สลักลวดลายค่ายกลหาใช่ของธรรมดา แต่เป็นวัตถุดิบจิตวิญญาณยุคโบราณชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่าหยกนภาคราม เป็นวัตถุดิบจิตวิญญาณชั้นเลิศสำหรับทำแผ่นค่ายกลซึ่งน่าจะสาบสูญไปจากแผ่นดินจงเทียนนานแล้ว
หลายวันหลังจากนั้นหลิ่วหมิงผู้อยู่ในถ้ำที่พักก็ได้รับภารกิจอีกอย่างจากเทียนเกอเจินเหริน ในเวลาเดียวกันข่าวที่เขาสังหารเผ่าหนอนผีเสื้อระดับดาราพยากรณ์ก็เล่าลือกันไปทั่วนิกายยอดบริสุทธิ์
เบื้องบนนับตั้งแต่ผู้อาวุโสสูงสุดระดับเชี่ยวชาญมหัศจรรย์จรดศิษย์สายนอกที่เพิ่งเข้านิกายเบื้องล่าง แทบไม่มีผู้ใดไม่รู้จัก “หลิ่วหมิง”
……
นอกเหนือจากนี้พันธมิตรแผ่นดินจงเทียนที่มีนิกายใหญ่กลุ่มต่างๆ เป็นแกนนำยังส่งผู้ฝึกฝนไม่น้อยนำอุปกรณ์วางค่ายกลไปยังเมืองขนาดใหญ่ที่เป็นศูนย์รวมของมนุษย์ธรรมดาแต่ละแห่ง เพื่อวางค่ายกลพิทักษ์เมืองกับค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะสั้น ป้องกันเผ่าหนอนผีเสื้อรุกราน
มนุษย์ธรรมดาในเมืองขนาดกลางกับขนาดเล็กอพยพไปยังเมืองใหญ่ที่มีสำนักหรือนิกายปกป้องอยู่ภายใต้การช่วยเหลือของเหล่าผู้ฝึกฝน สถานการณ์จึงค่อยๆ มั่นคง
เมื่อผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์รวมตัวกันต่อต้าน กองทัพเผ่าหนอนผีเสื้อก็ทิ้งการเปิดศึกหลายทางแบบเดิม เผ่าหนอนผีเสื้อจำนวนมากที่ข้ามโลกมารวมตัวกันยึดครองอาณาเขตสองสามแห่งไว้เป็นฐานทัพ ท่าทางเหมือนจะสู้ศึกระยะยาวกับเผ่ามนุษย์แห่งแผ่นดินจงเทียน
สองฝ่ายผ่านสงครามหยั่งเชิงกันมาหลายครั้ง ต่างฝ่ายต่างได้รับความเสียหาย
หนึ่งปีก่อนสี่ยอดนิกายใหญ่ร่วมมือกันโจมตี รวบรวมศิษย์ชั้นยอดหลายหมื่นคนลอบจู่โจมเขตหนึ่งที่ถูกเผ่าหนอนผีเสื้อยึดครอง คราเดียวโจมตีเขตนี้ของเผ่าหนอนผีเสื้อจนแตก ผนึกทางเชื่อมมิติหลายแห่งที่นี่เอาไว้ได้
ระหว่างนั้นผู้มากความสามารถระดับเชี่ยวชาญมหัศจรรย์หลายคนของสี่ยอดนิกายก็ร่วมมือกันสังหารร่างแยกของราชินีหนอนผีเสื้อไปได้อีกตัวหนึ่ง เมื่อข่าวแพร่ออกไปทำให้ผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์มีกำลังใจขึ้นอีกมาก
เผ่าหนอนผีเสื้อเสียหายหนักหนาเช่นนี้ หลังจากเก็บตัวไประยะหนึ่งจึงเริ่มเปิดฉากก่อกวนกลุ่มอำนาจแต่ละแห่งบนแผ่นดินถี่ขึ้น ระหว่างที่กลุ่มอำนาจใหญ่แต่ละแห่งกระจายการป้องกัน มันก็จู่โจมที่ตั้งของนิกายปีศาจลี้ลับอย่างกะทันหันปานสายฟ้าแลบ
แม้สามนิกายที่เหลือของสี่ยอดนิกายจะเร่งรีบไปช่วยเหลือทันทีหลังจากที่ได้ข่าวจนสุดท้ายสลายการโจมตีของเผ่าหนอนผีเสื้อไปได้ แต่นิกายปีศาจลี้ลับก็บาดเจ็บล้มตายมากมาย ผู้อาวุโสสูงสุดระดับเชี่ยวชาญมหัศจรรย์คนหนึ่งถูกร่างแยกของราชินีผีเสื้อหลายตัวรุมโจมตีจนโชคร้ายจบชิวีตลง แม้แต่ดวงวิญญาณก็ไม่ทันหนีออกมา ศิษย์ธรรมดาล้มตายนับไม่ถ้วน เกรงว่าคงต้องใช้เวลาหลายพันปีกว่าจะฟื้นฟูกลับมาเป็นเช่นเดิมได้
ในฐานะศิษย์ลับผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือในยามนี้ของนิกายยอดบริสุทธิ์หลิ่วหมิงได้โลดแล่นอยู่ในสนามรบที่ต่างๆ อยู่ตลอด ระหว่างการต่อสู้กับเผ่าหนอนผีเสื้อระดับสูงบ่อยครั้ง ความสามารถแต่ละด้านไม่ว่าจิตใจ สติปัญญา ร่างกายหรือพลังเวทล้วนก้าวหน้าขึ้นอีกขั้น จนสัมผัสโอกาสเลื่อนขึ้นสู่ระดับแก่นแท้ขั้นปลายได้เลือนราง
……
ในถ้ำที่พักบนเขาเจดีย์ หลิ่วหมิงนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงศิลาในห้องลับอันมืดสลัวแห่งหนึ่ง รอบร่างเปล่งแสงสีดำเรืองๆ
บนพื้นของห้องลับสลักค่ายกลที่ค่อนข้างซับซ้อนค่ายกลหนึ่ง ขวดหยกสีดำใบหนึ่งวางอยู่เบื้องหน้า ไอน้ำสีดำเข้มข้นผุดออกมาจากขวดเป็นพักๆ แล้วก่อตัวเป็นรูปวิหคและสรรพสัตว์หลากชนิดรายล้อมรอบกายหลิ่วหมิงก่อนจะแทรกเข้าไปในร่างเขาอย่างเชื่องช้า
สิ่งที่ลอยออกมาจากขวดหยกก็คือหยดพลังวารีแม่น้ำมืดที่เขานำมาจากยมโลก เมื่อมีค่ายกลช่วยเสริม ไอน้ำสีดำจึงทำให้ทั้งห้องลับเต็มไปด้วยปราณหยินหนาวเหน็บเสียดแทงกระดูกประหนึ่งถ้ำน้ำแข็ง แต่สภาพแวดล้อมเช่นนี้เหมือนจะไม่มีผลต่อหลิ่วหมิงสักนิด
ทันใดนั้นหลิ่วหมิงก็เลิกคิ้วขึ้น สองตาเปิดขึ้นมาอย่างฉับพลัน สองมือสะบัดครั้งหนึ่ง ไอน้ำสีดำรอบร่างก็ม้วนตัวถาโถมตามกันเข้ามาในร่างเขาในพริบตา
นับตั้งแต่สัมผัสโอกาสของการเลื่อนระดับขั้น เขาก็ยื่นขอถอนตัวจากแนวหน้าชั่วคราวกับนิกาย เพื่อตั้งใจเก็บตัวอยู่ในถ้ำ
หลังจากเก็บตัวฝึกฝนมาได้หนึ่งเดือนกว่า หลิ่วหมิงรู้สึกได้เลือนรางว่าในทะเลจิตวิญญาณมีความเคลื่อนไหวประหลาดบางอย่าง คล้ายกับว่ามีบางสิ่งจะโผล่ออกมาได้ตลอดเวลา
เขาถอนหายใจแผ่วเบา แล้วเก็บขวดหยกบนพื้นขึ้นมาจากนั้นจึงลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกไปด้านนอกถ้ำที่พัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา