ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 127

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 127 กำจัดวานร (2)
ตอนที่ 127 กำจัดวานร (2)
โดย
Ink Stone_Fantasy
ปีศาจวานรทั้งสองกระโดดตัวเคลื่อนไหวไม่กี่ทีก็มาถึงบริเวณที่ปีศาจวานรทั้งสามถูกสังหาร และได้เดินวนไปหนึ่งรอบ พอปีศาจวานรสีดำตนนั้นสูดดมกลิ่นเข้าไปก็พลันปรากฏสีหน้างงงวยออกมา

และปีศาจวานรขนทองกลับก้มลงหยิบเอากระบองยักษ์สีดำขึ้นมาจากพื้นดินบริเวณนั้น บนนั้นยังมีรอยเลือดอยู่เต็มไปหมด หลังจากที่มันใช้จมูกดมกลิ่นดูแล้ว ก็แหงนหน้าคำรามออกมาด้วยความโมโห

ขนทั่วทั้งตัวของมันตั้งชันขึ้นมา ร่างของมันขยายใหญ่จนสูงสี่จั้งกว่าๆ และหลังจากที่กระโดดไม่กี่ทีก็มาอยู่บนกองหินที่จินอวี่ซ่อนตัวในก่อนหน้านั้น มือทั้งสองตบลงไปด้านล่างอย่างรุนแรง

เสียงดัง “ตู้ม!” ก้อนหินที่อยู่ในรัศมีหลายจั้งแตกละเอียดไปในพริบตา เศษหินรวมตัวกันบนมือของปีศาจวานรอย่างรวดเร็ว จากนั้นมันก็เปลี่ยนเป็นกระบองหินยาวเจ็ดแปดจั้งชี้ขึ้นไปบนฟ้า

วานรยักษ์เพียงแค่ลูบมือทั้งสองไปยังปลายกระบองทั้งสองข้าง กระบองหินก็ดูเกลี้ยงเกลาขึ้นมาทันที ขณะเดียวกันมันก็เปลี่ยนจากสีขาวเทามาเป็นโลหะสีเงินวาว

ปีศาจวานรขนทองกระทุ้งกระบองสีเงินลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง

บังเกิดเสียงดังสะเทือนเลือนลั่นขึ้นมาทันที กองหินทั้งหมดกลายเป็นหลุมยักษ์ลึกครึ่งจั้ง

วานรยักษ์กวัดแกว่งกระบองไปทั่วทิศทาง จนเกือบจะพังทลายหุบเขาตรงนั้นไปครึ่งหนึ่ง มันถึงได้ลดความโกรธลงไปได้เล็กน้อย จากนั้นร่างของมันก็กลับมามีขนาดเท่าเดิม และโยนกระบองยักษ์ในมือทิ้งไปอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนที่จะพาวานรสีดำเดินจากไป

พอกระบองยักษ์สีเงินอันนั้นหล่นไปจากมือปีศาจวานรเพียงไม่กี่ลมหายใจ แสงสีเงินบนพื้นผิวก็หายไป และกลับมาเป็นสีขาวเทาดังเดิม

หลังจากที่มีลมพัดผ่านไปเบาๆ มันก็กลายเป็นผุยผงกระจายหายไป

ตอนที่ปีศาจวานรทั้งสองเดินถึงปากทางเข้านั้น ปีศาจวานรขนทองตัวที่อยู่หน้าสุดพลันทำจมูกฟุดฟิด ก่อนที่จะย่อตัวลงไปในทันที เท้าทั้งสองออกแรงอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกระโจนไปยังหินก้อนหนึ่งที่อยู่ตรงบริเวณนั้น

“แย่แล้ว พวกเราถูกพบเข้าแล้ว เผ่นเร็ว!”

พลันมีเสียงหวาดผวาดังมาจากหลังก้อนหิน จากนั้นก็มีเสียงดัง “สวบ!” “สาบ!” เงาร่างของคนสองคนพุ่งออกไปคนละด้านด้วยความรวดเร็วดุจลูกธนู

พวกเขาคือชายหนุ่มสวมชุดนิกายวาตอัตคีสองคน

ประจักษ์ชัดว่าทั้งสองถูกเสียงอันดังในก่อนหน้านี้ดึงดูดให้เข้ามาในหุบเขา แต่พอเห็นพลังอันน่าตกใจของปีศาจวานรขนทองเข้าไหนเลยจะกล้าโผล่หน้าออกมา คิดไม่ถึงว่าปีศาจวานรขนทองตนนี้จะจมูกไวเป็นอย่างมาก จนสามารถค้นพบร่องรอยของพวกเขาได้

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ทั้งสองได้แต่วิ่งหนีด้วยความตกใจเท่านั้น

ปีศาจวานรขนทองที่อยู่กลางอากาศกลับคำรามเสียงต่ำออกมา พร้อมกับทุบหมัดใส่คนทั้งสองอย่างรุนแรง

ศิษย์นิกายวาตอัคคีทั้งสองรู้สึกแค่ว่ามีพลังมหาศาลพุ่งมายังด้านหลัง ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีทางเลี่ยง คนหนึ่งทำได้เพียงแต่ขยับตัวหลบไปยังด้านข้าง อีกคนหนึ่งได้เพียงแต่หยุดฝีเท้าหมุนตัวกลับมาฟันกระบี่ตอบโต้กลับไป

เสียงดัง “ตู้ม!” “ตู้ม!”

บังเกิดหลุมยักษ์ขนาดใหญ่ด้านข้างของคนผู้หนึ่ง หลังจากที่มีคลื่นอากาศม้วนตัวออกมา เขาก็ซวนเซจนเกือบจะล้มลงไป

อีกคนเคราะห์ร้ายยิ่งกว่า พอปราณกระบี่ที่ฟาดฟันออกไปปะทะกับพลังมหาศาล ก็กระเด็นกลับมาในทันที

ถ้าไม่ใช่ว่าเขารีบขยี้ยันต์ในมือให้แตกจนกลายเป็นแสงสีเขียวปกป้องตัวไว้ เกรงว่าคงจะถูกฟันออกเป็นสองส่วนแล้ว

แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ก็ตาม พลังมหาศาลที่ตามมาทีหลังก็กระเทือนร่างของเขาจนกระอักเลือดออกมา ร่างของเขากระเด็นออกไปราวกับฟางข้าว

ในขณะนั้นเองปีศาจวานรขนทองกลับบิดตัวเปลี่ยนทิศทางกระโจนออกไปพร้อมกับพายุอันน่ากลัว ครู่เดียวก็มาถึงด้านหน้าชายหนุ่มที่ฟาดฟันปราณกระบี่ออกไป

ศิษย์นิกายวาตอัคคีผู้นี้เพิ่งจะตั้งตัวได้ พอเข้าเห็นฉากนี้ย่อมตกใจจนหน้าถอดสี เขาทำได้เพียงแต่อ้าปากออกมาก่อนที่จะมีลำแสงสีเขียวเส้นหนึ่งพุ่งยิงออกไป ขณะเดียวกันก็ฟาดฟันกระบี่ในมือออกไปอย่างรุนแรง เปลวไฟอันคุโชนม้วนตัวออกจากบนนั้นทันที

ปีศาจวานรขนทองเห็นฉากนี้กลับคำรามออกมาในทันที คลื่นเสียงสีขาวโพลนพุ่งทะลักออกไปทำลายคลื่นเปลวไฟสีเขียวจนแตกกระจาย และยังพลอยสั่นสะเทือนจนร่างของชายหนุ่มด้านหน้าต้องหยุดชะงัก ขณะเดียวกันโลหิตก็ไหลออกมาจากอวัยวะทั้งห้าของเขา

วานรยักษ์เคลื่อนไหวอีกครั้ง พริบตาเดียวก็มาปรากฏอยู่ด้านหลังของชายหนุ่ม แขนทั้งสองของมันพร่ามัวก่อนที่จะฟาดลงไปบนบ่าทั้งสองของชายหนุ่มอย่างรุนแรง

ศิษย์นิกายวาตอัคคีส่งเรียกร้องดัง “อ๊าก!” และคิดที่จะโต้ตอบกลับไป แต่มันก็สายไปเสียแล้ว

วานรยักษ์ขนทองเพียงแค่ออกแรงที่แขนทั้งสองก็ฉีกชายหนุ่มในมือจนขาดออกเป็นสองส่วน จากนั้นมันก็อ้าปากกัดหัวใจที่ยังเต้นอยู่ไปกว่าครึ่งหนึ่ง

ศิษย์นิกายวาตอัคคีที่เห็นภาพนี้อยู่ไกลๆ ตกใจจนขวัญกระเจิง เขาขยี้ยันต์ที่มีทั้งหมดโดยแทบไม่ต้องคิดอะไร ม่านแสงสามชั้นที่มีสีต่างกันปรากฏออกมาคลุมร่างเขาไว้ในทันที ขณะเดียวกันยังมีอักขระสีเขียวกับสีขาววิ่งเต้นอยู่ที่เท้าทั้งสอง

เสียงดัง “ฟู่” เขากลายเป็นแสงสีเขียวทะยานขึ้นฟ้าไป โดยไม่คำนึงถึงอันตรายที่อาจพบได้จากการพุ่งขึ้นสูงจนเกินไป

ปีศาจวานรขนทองเห็นเช่นนี้ก็ไม่ได้รีบตามไปแต่อย่างใด แต่กลับโยนศพในมือทิ้งไป จากนั้นก็กระโดดไปยังด้านหน้าหินสีดำที่มีขนาดใหญ่ประมาณอ่างน้ำ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา