ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 175

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 175 พรรควิญญาณมืด
ตอนที่ 175 พรรควิญญาณมืด
โดย
Ink Stone_Fantasy
“ในเมื่อพี่เหมี่ยนไม่ยอมบอก แสดงว่าพี่ต้องลำบากใจอยู่แน่นอน แต่ความหวังดีของพี่ข้าจะน้อมรับไว้ ที่ข้ามาเสวียนจิงในครั้งนี้ นอกจากจะหาสมุนไพรจิตวิญญาณมารักษาอาการป่วยของหลานสาวแล้ว ความจริงข้ายังมีเรื่องส่วนตัวที่ต้องจัดการด้วย เกรงว่าช่วงระยะเวลาสั้นๆ นี้คงไม่อาจจากไปได้ อีกอย่างข้าเองก็ไม่สามารถอยู่จวนเฉียนได้นาน พี่มีที่พักที่เหมาะสมกับผู้ฝึกฝนอิสระแนะนำบ้างหรือไม่?” หลิ่วหมิงยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าวเหมือนกับว่าไม่ได้ใส่ใจคำพูดของผู้อาวุโส

“ในเมื่อน้องเฉียนจำเป็นต้องอยู่เสวียนจิงล่ะก็ ข้าก็จะไม่พูดเกลี้ยกล่อมแล้ว ความจริงเรื่องราวบางอย่างในเสวียนจิงก็เป็นเรื่องที่ข้าคาดเดาเท่านั้น และข่าวคราวบางอย่างข้าเคยสัญญากับผู้อื่นว่าจะไม่แพร่งพรายออกไป จึงไม่อาจบอกเจ้าได้เช่นกัน แต่ถ้าน้องเฉียนอยากจะเข้าใจสถานการณ์ของเสวียนจิงล่ะก็ เพียงแค่ใช้หินจิตวิญญาณเล็กน้อย ก็สามารถสืบหาเรื่องราวที่เจ้าอยากรู้จากสถานที่ต่างๆ ได้ ส่วนเรื่องที่พักข้ามีข้อแนะนำอยู่สองประการ ประการแรกข้าเห็นว่าท่านเฉียนเหมือนจะดึงเจ้าให้อยู่ด้วย เรือนร้อยวิญญาณนับว่าพอมีอิทธิพลในเสวียนของอยู่บ้าง ถ้าน้องเฉียนยอมเป็นแขกของเรือนร้อยวิญญาณล่ะก็ สามารถย้ายไปอยู่กับข้าได้ ตอนนี้ข้าพักอยู่กับแขกอีกสองคน พอถึงตอนนั้นข้าจะแนะนำให้น้องเฉียนได้รู้จัก แน่นอนว่าถ้าเจ้าไม่อยากเข้าร่วมกับเรือนร้อยวิญญาณล่ะก็ ก็ไปเช่าถ้ำที่เขาเซียนทอแสงชั่วคราวได้ เขาเซียนทอแสงเป็นของราชสำนัก บรรยากาศเงียบสงบ และมีพลังปราณหนาแน่น ทั้งยังไม่อนุญาตให้ผู้คนต่อสู้กันบนนั้น นับว่าเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยเป็นอย่างมาก ปัญหาเพียงหนึ่งเดียวก็คือ ด้วยระดับคุณภาพของมันทำให้ค่าเช่าค่อนข้างสูง เกรงว่าผู้ฝึกฝนอิสระอย่างพวกเราจะไม่สามารถอยู่ได้นาน ส่วนสถานที่ที่ค่าใช้จ่ายถูกกว่านั้นก็ยังมีสถานที่อื่นอยู่สองสามที่ แต่ส่วนมากมีอิทธิพลขนาดใหญ่หนุนหลัง ค่อนข้างวุ่นวาย ปราณฟ้าดินก็เทียบกับเขาเซียนทอแสงไม่ติด ยกตัวอย่างเช่นหอคุณธรรมใต้ ความจริงแล้วเป็นหอที่องค์ชายใหญ่แอบสนับสนุนให้เปิด และยังมีบ้านกลีบเมฆที่พรรควิญญาณมืดแอบสนับสนุนอยู่เบื้อหลัง” ผู้อาวุโสเหมี่ยนอธิบายให้หลิ่วหมิงฟังอย่างละเอียด

“พรรควิญญาณมืด?”

พอหลิ่วหมิงได้ยินคำทั้งสามคำนี้ สีหน้าเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป

ข้อมูลที่ชายฉกรรจ์แซ่เหลยมอบให้ก่อนที่เขาจะมานั้น มีข้อมูลเกี่ยวกับพรรควิญญาณมืดมากที่สุด

พรรคนี้ปรากฏตัวในเสวียนจิงเมื่อสามสิบปีก่อน พูดได้ว่าสมาชิกพรรคมีความลึกลับเป็นอย่างยิ่ง

เล่ากันว่าผู้ทำงานในพรรคมีไม่มาก แต่เป็นผู้ฝึกฝนนอกรีตที่มีอิทธิพลแข็งแกร่ง เวลาทำงานจะปิดบังใบหน้าไว้ แม้แต่พวกกันเองก็ไม่รู้จักกัน และเรียกขานกันด้วยฉายาเท่านั้น

พอพรรคนี้ปรากฏตัวในเสวียนจิง ย่อมถูกผู้มีอิทธิพลร่วมมือกันต่อต้าน แต่ผู้ที่ลงมือเป็นกลุ่มแรกคือ ‘หอกิเลนโลหิต’ ที่เดิมทีเป็นหนึ่งในห้ากลุ่มที่มีอิทธิพลใต้ดินมากที่สุดในเสวียนจิง ภายในคืนเดียวศิษย์จิตวิญญาณของหอกิเลนโลหิตก็ถูกสังหารตายไปจนหมดด้วยวิธีการอันโหดเหี้ยม หลังจากนั้นกลุ่มผู้มีอิทธิพลอื่นในเสวียนจิงก็เกิดความหวาดกลัว จนต้องหยุดการต่อต้านพรรควิญญาณมืดพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย

และหลังจากที่พรรควิญญาณมืดได้รับช่วงทรัพยากรของหอกิเลนโลหิตแล้ว ก็ดูเหมือนว่าพวกเขาจะพอใจกับสิ่งที่มี และไม่ขยายอิทธิพลอีก

ด้วยเหตุนี้ กลุ่มผู้มีอิทธิพลพลที่เดิมทีคิดจะร่วมมือด้วย ถึงได้รู้สึกโล่งใจขึ้นมา ขณะเดียวกันกันก็ยอมรับตำแหน่งของพรรควิญญาณมืดในเสวียนจิงไปโดยปริยาย

การปรากฏตัวของพรรควิญญาณมืดแปลกประหลาดเช่นนี้ ศิษย์ตรวจตราของแต่ละนิกายที่อยู่ในเสวียนจิงต่างก็เคยหาวิธีสืบหาเบื้องหลังที่แท้จริง

แต่น่าเสียดายที่สมาชิกพรรคนี้ลึกลับซับซ้อนมาโดยตลอด ทั้งยังปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนน้อยมาก จึงไม่ได้เบาะแสอะไร และไม่สามารถหาตัวผู้บงการที่แท้จริงได้

ตอนนี้ผู้อาวุโสเหมี่ยนพูดเรื่องนี้ต่อหน้าเขา ย่อมทำให้ใจเข้าเต้นขึ้นมา

“น้องเฉียนก็เคยได้ยินชื่อเสียงของพรรควิญญาณมืดด้วยหรือ? อ๋อ! นี่ก็ไม่แปลก! สำหรับผู้ฝึกฝนอิสระอย่างพวกเราแล้ว พรรควิญญาณมืดเป็นหนึ่งในสามของกลุ่มอิทธิพลในเสวียนจิงที่พวกเราไม่สามารถหาเรื่องได้ เพราะคนในพรรคนี้ลึกลับเป็นอย่างมาก ทั้งยังเป็นผู้ฝึกฝนนอกรีตที่ชำนาญการสังหาร ถ้าผู้ฝึกฝนอิสระอย่างพวกเราไปล่วงเกินเข้าล่ะก็ เกรงว่าคงไม่สามารถหาสาเหตุการตายได้ ดังนั้นถ้าหลบได้ให้หลบไปไกลๆ ยิ่งไกลยิ่งดี” ผู้อาวุโสเหมี่ยนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“อ๋อ! นอกจากพรรควิญญาณมืดแล้ว ยังมีกลุ่มอิทธิพลไหนที่ไม่ควรไปหาเรื่องอีก?” หลิ่วหมิงถามด้วยความแปลกใจ

“แน่นอนว่าต้องเป็นราชสำนักกับนิกายใหญ่ทั้งห้า ถ้าเจ้าล่วงเกินกลุ่มอิทธิพลอื่นเข้า อย่างมากก็แค่หนีออกไปจากเสวียนจิงในคืนนั้น พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรกับผู้ฝึกปรานอิสระอย่างพวกเราได้แล้ว แต่ถ้าไปล่วงเกินผู้คนในราชสำนักกับนิกายใหญ่ทั้งห้าเข้า ต่อให้เจ้าหนีออกไปจากเสวียนจิงก็ไม่อาจหนีการตามฆ่าในแคว้นต้าเสวียนได้ ห้านิกายใหญ่ไม่ต้องพูดถึง พวกเขาถือว่าเป็นผู้บงการแคว้นต้าเสวียนที่แท้จริง ศิษย์ตรวจตราที่อยู่ในเสวียนจิงยิ่งลึกลับซับซ้อนกว่ามาก คนธรรมดาไม่อาจพบเจอพวกเขาได้ และราชสำนักเป็นอิทธิพลทางโลกที่ทั้งห้านิกายใหญ่รวมกันสร้างขึ้นมา ถึงแม้จะไม่อนุญาตให้ผู้ฝึกฝนระดับอาจารย์จิตวิญญาณขึ้นไปเข้ามา แต่ผู้ฝึกปราณที่เป็นทหารหน่วยกิเลนเงินนั้นมีหลายหมื่นคน ศิษย์จิตวิญญาณที่ถูกเชื้อเชิญให้มารับตำแหน่งก็มีหลายร้อยคน ขอเพียงแค่ราชสำนักเอาจริง ก็สามารถกวาดล้างอิทธิพลน้อยใหญ่ในเสวียนจิงได้ด้วยคำพูดเพียงประโยคเดียว ที่ตอนนี้ในเสวียนจิงมีอิทธิพลมากมายขนาดนี้ ก็เพราะราชสำนักทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเท่านั้น” ผู้อาวุโสเหมี่ยนกล่าวอย่างลึกซึ้ง

“ขอบคุณพี่เหมี่ยนที่เตือน ตอนนี้ข้าพอจะเข้าใจบ้างแล้ว” หลิ่วหมิงพยักหน้า แล้วตอบกลับราวกับคิดอะไรอยู่

ทั้งสองพูดคุยกันต่อได้ไม่นาน ผู้อาวุโสเหมี่ยนก็กล่าวคำอำลา

แต่หลังจากที่ผู้อาวุโสออกไปจากห้องรับรองแล้ว กลับมุ่งตรงไปยังห้องโถงใหญ่ของจวนเฉียน

ที่นั่น เฉียนเชาที่เป็นเจ้าของเรือนร้อยวิญญาณกำลังพูดอะไรบางอย่างกับฮูหยินหมีอยู่ สีหน้าเขาดูโกรธเล็กน้อย แต่พอเหลือบไปเห็นผู้อาวุโสเหมี่ยน ก็ลุกขึ้นกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ผู้อาวุโสเหมี่ยนในที่สุดท่านก็มา ท่านลองหยั่งเชิงดูหรือยังว่า คุณชายไป๋ยอมเป็นแขกของเรือนร้อยวิญญาณหรือไม่?”

“ช่างละอายยิ่งนัก ข้าเกรงว่าจะต้องทำให้ท่านผิดหวังเสียแล้ว ยังไม่มีท่าทีว่าเขาจะมาเข้าร่วมกับเรือนร้อยวิญญาณ แต่ดูเหมือนว่าจะยังอยู่ในเสวียนจิงซักระยะหนึ่ง และภายในระยะเวลาสั้นๆ นี้เขาจะยังไม่ไปจากเสวียนจิง” ผู้อาวุโสเหมี่ยนกล่าว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา