อสูรสมุทรไม่เพียงแค่มีรูปร่างโปร่งแสงใสแจ๋ว แม้แต่โครงกระดูกในร่างก็โปร่งใสด้วยช่นกัน ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกถึงความลึกลับแปลกประหลาดของมัน
ด้านบนของฉลามยักษ์โปร่งแสง ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรสวมชุดคลุมสีขาว มือทั้งสองถือค้อน ปรากฏตัวออกมา
ค้อนยักษ์ทั้งสองมีขนาดใหญ่มาก พื้นผิวของมันเปล่งแสงสีเงินเจิดจ้า
ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรมีใบหน้าหล่อเหลา มีผมยาวสีเขียว หน้าผากมีอักขระแปลกประหลาดที่มีแสงสีเงินเปล่งประกายอยู่ มันพองยุบราวกับว่ามีชีวิต ร่างของเขาแผ่กลิ่นไอที่ทำให้คนรู้สึกเย็นสะท้านออกมา
“ระดับของเหลวขั้นกลาง!
พอพลังจิตหลิ่วหมิงสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอของฝ่ายตรงข้าม ก็รับรู้ได้ในทันที
“ข้าคือลี่ซาจากเผ่าเกล็ดเงิน ในเมื่อสหายเป็นผู้ฝึกฝนกระบี่ ก็มีสิทธิ์ที่จะบอกชื่อแซ่ต่อหน้าข้าได้แล้ว” ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรกล่าวอย่างราบเรียบ และนำค้อนทั้งสองมาปะทะกันตรงหน้า
“เต๊ง!” คลื่นอากาศม้วนตัวไปทั่วทิศ
ราวกับว่าลี่ซาผู้นี้จะมีพลังไม่จำกัด
สีหน้าหลิ่วหมิงดูหนักอึ้งขึ้นมา และค่อยๆ กล่าวออกมา
“ข้าน้อยหลิ่วหมิงจากนิกายปีศาจ! มาดการพูดจาของท่านดูไม่เบา หวังว่าความสามารถของท่านคงจะไม่เบาเหมือนกับคำพูด!”
พอกล่าวจบ กระบี่สั้นในมือก็พร่ามัวทันที อึดใจเดียวก็ฟันปราณกระบี่ออกไปสิบกว่าสาย และรวมเป็นหนึ่งเดียวจนกลายเป็นแสงกระบี่ขนาดใหญ่ก่อนที่จะม้วนตัวออกไป
ลี่ซาเห็นเช่นนี้ก็แสดงแววตาดุร้ายออกมา เขาทุบค้อนทั้งคู่ออกไปทันที
“ตู๊ม!”
แม้แสงกระบี่สีเขียวจะแหลมคมเป็นอย่างมาก แต่ภายใต้การโจมตีอันรุนแรงของค้อนยักษ์สีเงิน มันก็สลายตัวและดับไป
ในขณะเดียวกัน ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรก็หมุนตัวในทันที เขาสะบัดค้อนข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็เขวี้ยงออกไปพร้อมกับพายุบ้าระห่ำ “ฟู่!”
หลิ่วหมิงรู้สึกแค่ว่าแสงสีเงินเปล่งประกายตรงหน้า ค้อนอีกอันหนึ่งก็พุ่งเข้ามาถึงหน้าเขา ระดับความรุนแรงเช่นนี้แม้แต่เขาก็ต้องหน้าถอดสีขึ้นมา
พริบตาที่พายุบ้าระห่ำโจมตีมาถึงตรงหน้า เขาก็ทำท่ามือด้วยมือข้างหนึ่งอย่างรวดเร็ว ร่างของเขาล่องลอยขึ้นมา และหลบการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามได้
ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรเห็นเช่นนี้ก็คิ้วขมวดทันที แต่ก็คว้ามือไปในอากาศอย่างรวดเร็ว
ค้อนยักษ์ที่หลิ่วหมิงหลบไปได้ ทะยานขึ้นฟ้าพร้อมเสียงดังหวึ่งๆ และพุ่งมาทางหลิ่วหมิง
ทันใดนั้น บังเกิดพายุบ้าระห่ำขึ้นมา ทั่วทุกที่เต็มไปด้วยเงาร่างของค้อน
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หลิ่วหมิงก็ล่องลอยไปตามลมราวกับใบไม้ ไม่ว่าเงาค้อนจะหนักแค่ไหนก็ไม่อาจทำอะไรเขาได้
ลี่ซาเห็นเช่นนี้ก็ทำเสียงฮึดฮัดออกมา และทำท่ามือด้วยมือข้างเดียวในทันที พอฉลามโปร่งแสงสะบัดหาง มันก็หายตัวไปท่ามกลางแสงสว่างที่เปล่งประกาย
ขณะเดียวกัน แขนอีกข้างของชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทร ก็เขวี้ยงค้อนอีกอันออกไปจนกลายเป็นเงา
พริบตาเดียว ข้างๆ หลิ่วหมิงก็เต็มไปด้วยเงาค้อนหนักๆ เป็นจำนวนมาก
แม้ร่างกายเขาจะลี้ลับมหัศจรรย์ แต่ก็ดูล่อแหลมขึ้นมา หลายครั้งที่หลบค้อนอีกอันได้ แต่กลับเกือบถูกค้อนอีกอันทุบเข้าให้
แต่ที่ทำให้หลิ่วหมิงรู้สึกเย็นสะท้านกลับเป็นฉลามโปร่งแสงแปลกประหลาดที่หายไปนั้น
วิชาซ่อนตัวของฉลามตนนี้มหัศจรรย์เป็นอย่างมาก ก่อนหน้านั้นเขาเกือบเสียชีวิตในปากของมัน
หลิ่วหมิงฉุกคิดอย่างรวดเร็ว และแตะมือข้างหนึ่งไปยังหน้าผาก พลังจิตอันแข็งแกร่งม้วนตัวออกไปในทันที ขณะเดียวกันกระบี่สั้นสีเขียวในมือก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย และถูกแทนที่ด้วยธงเล็กสีฟ้าอ่อนๆ มันสะบัดตามลมและขยายใหญ่จั้งกว่าๆ
ขณะนี้ ค้อนอีกอันก็แผดเสียงยาวและทุบลงบนศีรษะ
หลิ่วหมิงค่อยๆ ยิ้มออกมา เขาไม่คิดจะหลบหลีกเลยแม้แต่น้อย แต่กลับโบกธงสีฟ้าไปยังด้านหน้า ทันใดนั้นอักขระสีฟ้าจำนวนมากก็ลอยออกมา ม่านวารีสีฟ้าปรากฏออกมาเป็นชั้นๆ พริบตาเดียวก็ปกคลุมร่างหลิ่วหมิงไว้
“ตู๊ม!”
ภายใต้การทุบลงมาของค้อน ทำให้ม่านวารีสองชั้นถูกทุบจนแตกกระจาย และถูกม่านวารีชั้นที่สามต้านทานไว้ได้
ลี่ซาที่อยู่ไกลๆ เห็นเช่นนี้ ก็แผดเสียงยาวออกมา มือทั้งสองทำท่ามือกระตุ้นอย่างรวดเร็ว
ค้อนอีกอันก็พร่ามัวมาปรากฏตัวเหนือม่านวารีสีฟ้า และทุบลงมาอย่างรุนแรง มันปะทะกับค้อนยักษ์ที่อยู่ตรงหน้าพอดี
อานุภาพของค้อนทั้งสองรวมกันเป็นหนึ่ง และระเบิดตัวออกมาในทันที จนทำให้ม่านวารีสีฟ้าถูกโจมตีจนสลายไป
แต่ครู่ต่อมา ลี่ซาที่กระตุ้นค้อนเงินทั้งสองก็หดรูม่านตาลง
มีแต่ความว่างเปล่าในม่านวารีชั้นที่สาม ไหนเลยจะมีเงาร่างของฝ่ายตรงข้าม
ขณะนั้นเอง บนอากาศที่อยู่ห่างจากชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรไปไม่ไกล พลันมีจุดแสงสีฟ้าลอยออกมา หลังจากรวมตัวกันแล้ว เงาร่างสีฟ้าจางๆ ก็ลอยขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด
ลี่ซาหันมาจ้องมองเงาร่างสีน้ำเงิน และเหยียดยิ้มเยือกเย็นออกมา
“ฟู่!”
ปากขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบริเวณเงาร่างสีน้ำเงิน มันงับเอวของเขาจนเป็นสองส่วน
มันคือฉลามโปร่งแสงที่ซ่อนตัวตนนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา