บนผิวกระดูกมีอักขระสีเงินอยู่จำนวนหนึ่ง และไหมละเอียดสีแดงค่อยๆ โผล่ออกจากในนั้น ทั้งสองพันซ้อนกันไปมา ไม่นานไหมสีแดงก็พร่ามัว และจมหายเข้าไปในกระดูกอย่างน่าอัศจรรย์
ผ่านไปสักพัก โลหิตสีทองจางๆ ที่ไหลออกจากบาดแผลอ ก็หลุดไหลอย่างน่าประหลาดใจ
‘หลิ่วหมิง’ ทำท่ามือกระตุ้นอีกครั้ง เปลวเพลิงสีดำที่ลอยอยู่เหนือกระดูกมังกร ตกลงบนกระดูกมังกรอีกชิ้น
กระดูกมังกรที่ดูแข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ถูกหลอมเป็นเม็ดโปร่งใสแวววาวภายในพริบตา และถูกหลิ่วหมิงดูดเข้าไปในปาก
ทันใดนั้น กระดูกภายในร่าง ‘หลิ่วหมิง’ ก็ส่งเสียงดังอีกครั้ง ผิวของเขาแตกออกมาเป็นแผลเล็กๆ ดูจากใบหน้าของเขาแล้ว เหมือนจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย
มันดูแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก!
ครึ่งวันผ่านไป โครงกระดูกมังกรทั้งหมดก็ถูกหลอมเป็นเม็ดแวววาว และถูก ‘หลิ่วหมิง’ กลืนลงท้องทีละเม็ด จากนั้นก็ละลายเข้าไปในกระดูกของตนเอง
ตอนนี้ ‘เขา’ รับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงภายในร่างที่เปลี่ยนไปราวฟ้ากับดิน เกรงว่าจะแข็งแกร่งกว่ากายเนื้อในก่อนหน้านี้ครึ่งหนึ่งขึ้นไป
แน่นอนว่า ส่วนสำคัญของมังกรแดงที่หลอมออกมา ไม่ได้สกัดออกมาหมดในทีเดียว อย่างน้อยต้องใช้เวลาหลายปี จึงจะดูดรับพลังทั้งหมดได้
เมื่อทำทุกอย่างนี้เสร็จ ‘หลิ่วหมิง’ ก็ยังรู้สึกไม่พอใจ พอกวาดสายตามองดูเปลือกมังกรตรงหน้าแล้ว ก็คว้าเอามาไว้ในมือ
เขาค่อยๆ สะบัดข้อมือ ทันใดนั้นแสงสีดำจางๆ ก็พุ่งออกจากนิ้วทั้งห้า
ฉากอันน่าตกใจได้เกิดขึ้นแล้ว!
ภายใต้การสั่นสะท้านของเปลือกมังกร ทำให้มีเสียง “ฟู่!” “ฟู่!” ดังออกมาติดต่อกัน เกล็ดสีแดงทั้งหมดถูกคลื่นสั่นสะเทือนจนหลุดออกมา และกลายเป็นจุดแสงสีแดงก่อนพุ่งยิงไปทั่วทิศ
‘หลิ่วหมิง’ สะบัดแขนเสื้อ กลุ่มแสงสีดำขนาดใหญ่พุ่งออกไปห่อหุ้มเกล็ดมังกรทั้งหมดไว้ และถูกดูดกลับมาบนมือเขา
พอเห็นเกล็ดสีแดงหนาๆ จำนวนหลายร้อยแผ่น ‘หลิ่วหมิง’ ก็เผยสีหน้าดีใจออกมา
‘หลิ่วหมิง’ อ้าปากในทันที เกล็ดหลายสิบแผ่นเด้งขึ้นมา และถูกหลิ่วหมิงดูดเข้าไป ภายใต้การสั่นไหว เกล็ดแผ่นอื่นๆ ก็ลอยนิ่งอยู่กลางอากาศโดยไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย
จากนั้น ‘หลิ่วหมิง’ ก็ทำท่ามือด้วยมือทั้งสอง พอเขาตะโกนคำว่า ‘วิชาหมื่นจิตวิญญาณ’ ออกมา ดวงตาทั้งคู่ก็เปล่งลำแสงสีทอง และสีม่วงออกมาอย่างละข้าง แสงสีดำจางๆ ที่เปล่งประกายอยู่ตามตัวก็กลายเป็นแสงสีม่วงเข้ม และหมุนวนรอบตัวเขาอยู่ไม่หยุด
‘หลิ่วหมิง’ นั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อน แต่เริ่มมีเกล็ดสีแดงโผล่ขึ้นบนแขนข้างหนึ่ง
หนึ่งแผ่น สองแผ่น สามแผ่น……
พริบตาเดียว เกล็ดสีแดงทั้งหมดก็โผล่ขึ้นบนแขน แต่ละแผ่นเปล่งลำแสงสีแดงออกมา ราวกับว่ามันมีมาตั้งแต่กำเนิด
ขณะนี้ ‘หลิ่วหมิง’ ถึงได้มีสีหน้าผ่อนคลายลง เขาขยับแขนในฉับพลัน พอม้วนแขนเสื้อขึ้น แขนอัปลักษณ์ที่ถูกห่อหุ้มด้วยเกล็ดมังกรก็ปรากฏออกมา
“ไม่เลว! โชคดีที่ดูดเอาความยอดเยี่ยมของกระดูกมังกรแดงตนนี้มา มิเช่นนั้นด้วยระดับการฝึกฝนของกายเนื้อ ไม่สามารถแสดงวิชาออกมาได้ง่ายดายเช่นนี้”
‘หลิ่วหมิง’ จ้องมองแขนสีแดงตรงหน้า และพูดพึมพำออกมา
หลังจากลำแสงสีทองและสีม่วงเปล่งประกาย เกล็ดสีแดงบนแขนก็เคลื่อนไหวอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็จมหายไปในผิวหนังอย่างไร้ร่องรอย ตอนนี้แขนของเขากลับมาขาวหมดจดอีกครั้ง
‘หลิ่วหมิง’ เห็นเช่นนี้ ก็ค่อยๆ ยิ้มออกมา เขาดึงแขนเสื้อลง และโบกมือไปทางเกล็ดมังกรที่ลอยอยู่กลางอากาศอีกครั้ง ทันใดนั้นเกล็ดหลายสิบแผ่นก็พุ่งยิงเข้ามา และเขาก็อ้าปากดูดมันเข้าไปในท้อง
ฉากแบบเดิมได้เกิดซ้ำอีกครั้ง!
สองชั่วยามผ่านไป เกล็ดกลุ่มสุดท้ายก็ถูกหลิ่วหมิงใช้วิชาลึกลับหลอมมันเข้าไปในร่าง ตอนนี้สายตาเขาตกอยู่บนหนังเกลี้ยงเกลาของมังกรแดง
แม้ว่าความแข็งแกร่งของหนังไม่อาจเทียบได้กับเกล็ดมังกรแดง แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่หนังอสูรทั่วไปจะสามารถเทียบได้
ด้วยเหตุนี้เขาจึงลังเล็กน้อย จากนั้นก็มีเสียงดัง “ฟู่!” ตรงระหว่างคิ้ว เปลวเพลิงสีดำม้วนตัวออกมา พริบตาเดียวก็ห่อหุ้มหนังมังกรไว้
นิ้วทั้งสิบของหลิ่วหมิงดีดไปมาอยู่ไม่หยุด แสงสีดำค่อยๆ ดีดตัวออกมา จากนั้นทั้งหมดก็หายวับไปในเปลวเพลิงสีดำ
หนังมังกรที่เดิมมีสีแดงจางๆ พอถูกเปลวเพลิงสีดำเผาไหม้ก็อ่อนตัวลง ทั้งยังมีควันสีดำๆ ออกมาอยู่ตลอดเวลา และมีกลิ่นเหม็นคาวเป็นอย่างมาก
หนังมังกรดูใสแจ๋วเป็นอย่างมาก ในขณะที่มันอ่อนตัวลงอยู่ตลอดเวลานั้น ขนาดของมันก็ลดลงอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา